“แอฟ” ไม่รู้ พ่ออดีตสามีตอบคอมเมนต์ ไม่ไปให้กำลังใจหลาน เพราะไม่เคยรู้ตารางงาน ปัดผู้จัดการกีดกัน หากไม่ถามก็ไม่ได้รายงานเป็นปกติ คาดไม่น่ามีปัญหา เพิ่งเจอกัน ฟุ้งน้องปีใหม่อยากให้แม่มีแฟน ไม่ได้ปิดใจแต่ตอนนี้ลูกมาเป็นที่หนึ่ง ยันปีใหม่ไม่ได้ใช้เส้นเล่นละคร
เดี๋ยวนี้ออกงานเป็นแพ็กคู่ตลอดเลยก็ว่าได้ สำหรับคุณแม่ “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” และลูกสาวคนสวย “น้องปีใหม่” ที่เรียกว่าตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา อย่างวันนี้ในงานเปิดตัวนิทรรศการ Disney Celebrate Magic ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย และ ช้อปปี้ ประเทศไทย ณ ลานเซ็นทรัลคอร์ท ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ คุณแม่และคุณลูกก็ควงกันมาร่วมงานแบบแฮปปี้สุดๆ
งานนี้ก็เลยถือโอกาสอัปเดตข่าวคราวของคุณแม่แอฟกันสักหน่อย หลังละครที่เพิ่งจบไป กระแสดีมาก ก็ไม่รู้ว่าเร็วๆ นี้จะมีผลงานออกมาต่อเนื่องให้แฟนๆ ได้ติดตามกันหรือเปล่า พร้อมถามถึงประเด็นดรามา ที่ “คุณปู่ไพวงษ์ เตชะณรงค์” พ่อของอดีตสามี ออกมาตอบกลับคอมเมนต์ที่ถามถึงการไม่ไปให้กำลังใจหลานในงานต่างๆ ว่าไม่เคยรู้ตารางงานของหลานเลย
“กระแสละครดีมาก หลังจากนี้ก็เลยจะมีละครให้ชมกันอีกแน่นอนค่ะ ยังอยากจะขอให้ดูกันอีกนะคะ(หัวเราะ) ถามว่าจะต้องเลือกมากกว่าเดิมไหม ในความที่มีประสบการณ์มา จริงๆ แอฟว่ายากสุดน่าจะเป็นเรื่องแรก ที่เรากล้าที่จะก้าวออกมา คือขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอเนี่ย แอฟว่าน่าจะเป็นสเต็ปที่ยากที่สุดแล้ว เพราะว่าหยุดไปนาน พอจะก้าวออกมาอีกที อันนี้น่าจะยากที่สุด หลังจากนี้ก็คงหลักการคล้ายๆ เดิม ดูเรื่องที่คิดว่าเหมาะสม”
ละครเรื่องใหม่จะเป็นช่องเดิมไหมไม่แน่ใจ ตอนนี้อยู่ในช่วงพูดคุย ยังไม่ไฟนอล
“ยังไม่แน่ใจค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าที่ไหนลงตัวที่สุด ถามว่าละครเรื่องต่อไปมีแพลนในใจบ้างหรือยัง มีคุยๆ กันอยู่ค่ะ แต่ว่ายังไม่ได้ไฟนอลค่ะ”
ตอนนี้ก็ฮอตทั้งคุณแม่และลูกสาว
“ลูกสาวเหรอ ลูกสาวแค่รับเชิญค่ะ อยากให้เขาได้ประสบการณ์ หมายถึงว่าจุดเริ่มต้นคือเขาอยากเอง ถามเขาแล้วเขาสนใจและก็อยากทำ เราก็ถามแล้วว่าเขาสนใจแล้วสามารถจะรับผิดชอบหน้าที่นี้ได้จริงๆ ใช่ไหม ต้องแลกมากับการที่เราอาจจะไม่ได้สนุกเหมือนกับการถ่ายโฆษณานะ อาจจะยากกว่าอะไรอย่างนี้ เขาก็พร้อมบอกว่าเขายอม เขาจะรับผิดชอบหน้าที่ของเขาเต็มที่”
บอกปีใหม่ได้ลองแล้วชอบมาก ส่วนตัวไม่ได้สอนการแสดงให้ลูก ปล่อยเป็นหน้าที่ของแอ็กติ้งโค้ช
“ชอบค่ะ ชอบมากเลย ถามว่ามีสอนเรื่องการแสดงไหม ไม่ค่ะไม่ ไม่กล้าสอนเลยค่ะ ไม่สอนอะไรเกี่ยวกับการแสดงเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแอ็กติ้งโค้ชและพี่สันต์ (สันต์ ศรีแก้วหล่อ) ผู้กำกับ อันนี้ทำหน้าที่เป็นแม่เลย ไม่ได้เป็นนักแสดง ก็คือแค่บอกเขาว่ามีอะไรก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้กำกับ ฟังบรีฟ แล้วก็รีแอ็กกับผู้ร่วมแสดง แล้วก็ต้องรับผิดชอบในการเป็นนักแสดงที่ดีแค่นั้นเองค่ะ”
ให้คะแนนในการตั้งใจทำงานของลูกสาว แบบสิบเต็มสิบ
“ให้คะแนนเต็มค่ะ เต็มไม่ใช่เรื่องของการแสดงนะคะ การแสดงนี่แม่ไม่กล้าให้คะแนน ต้องให้คนดูกับผู้กำกับให้คะแนน แต่คือแม่ให้คะแนนในส่วนของความตั้งใจและความรับผิดชอบในการทำงาน สำหรับเด็ก 5 ขวบแอฟก็ให้เต็มที่ค่ะ”
เปรยปีใหม่ติดใจการแสดงมาก บอกอยากทำอีก เลยส่งเทปไปออดิชั่น
“เขาติดใจค่ะ ถ่ายเสร็จก็วิ่งไปเกาะพี่สันต์แบบว่าหนูชอบ หนูอยากถ่ายอีก หนูอยากทำอีก เราก็ต้องบอกว่าใจเย็นๆ ลูก แค่นี้พอก่อนตอนนี้หน้าที่หลักของเราคือเรียนหนังสือ อันนี้มันก็เป็นแค่ถ้าเขาจะมีโอกาสมีประสบการณ์ได้ก็เลยให้เขาทำ แล้วอันนี้ไม่ได้เส้นนะ ถึงแม้ว่าทั้งแม่ทั้งลูกจะร่วมงานกับพี่สันต์เหมือนกัน แต่ว่าอันนี้ไม่ได้เส้นนะคะ แคสติ้งเหมือนคนอื่น ส่งเทปออดิชั่น แม่ถ่ายเอง”
ยันไม่มีการใช้เส้นดันลูกเข้าวงการ พาไปออดิชั่น ไปแคสติ้งตามกฎกติกาทุกอย่าง
“ถามว่าโอกาสมันมาถึง เราสนใจไหม ก็อาจจะใช่ แอฟอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว อาจจะรู้ว่ามีแคสติ้งอันนี้ ทีมและพี่สันต์ก็ถามว่าสนใจไหม ถ้าสนใจก็มาออดิชั่นนะซึ่งเราก็ทำตามระบบทุกอย่าง แอฟเห็นด้วยกับการออดิชั่นอยู่แล้ว ถ้าลูกเราไม่สามารถทำได้ถึงตรงนั้น เราก็หยุดซะแต่ตรงนี้ ดีกว่าไปเกิดปัญหาที่กอง
อันนี้ดีนะคะ หลักการในการที่เขาให้เข้าระบบ ก็ได้อธิบายให้ปีใหม่ฟังเหมือนกัน ว่าเราทำเทปส่งไป หนูต้องยอมรับกฎกติกา ว่าส่งไปอาจจะได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่ได้ก็คือดี แล้วเราจะได้ไม่มีปัญหาในกอง แต่ถ้าได้เราจะได้ไปทำ ถ้าไม่ได้ก็ต้องยอมรับ ซึ่งเขาก็บอกหนูเข้าใจค่ะ แต่เขาก็ถามว่าแล้ววันนี้ใครตัดสินคะ ลุงสันต์ตัดสินใช่ไหม แม่ก็บอกว่าไม่ใช่มีท่านอื่นด้วย”
เรื่องที่พูดในรายการกับ “แพท ณปภา ตันตระกูล” ว่าคงไม่มีแฟนใหม่แล้ว เป็นการคุยกันขำๆ เพราะตอนนี้ก็ยังไม่มีจริงๆ
“ในแชร์ข่าวสาวตรองใช่ไหมคะ เอาจริงๆ มันก็บอกไม่ถูก จริงๆ มันก็เป็นการเล่นๆ คุยกันเล่นๆ ขำๆ สนุกๆ คือแพทเขาบอกว่าเขาจะไม่มีแฟนแล้ว คือข้ามไปอีกทีก็แต่งงานเลย มีสามีเลย แอฟเลยแซวเขาว่า แอฟคงไม่มีโอกาสมีข่าวแบบนี้ หมายถึงอย่างน้อยก็ในตอนนี้”
ไม่เคยปิดใจ ว่าจะไม่มีความรัก แค่ชีวิตตอนนี้มีแต่ลูก
“ไม่เคยปิดอยู่แล้วค่ะ ถึงเวลาจริงๆ มันก็ต้องมาดูอีกที ว่ามันจะมีในลักษณะไหน เพราะรู้สึกว่ายิ่งโตขึ้น เราจะมีความสัมพันธ์ในหลายรูปแบบมากขึ้น มันอาจจะไม่ใช่แค่แฟนไม่แฟน สามีไม่สามี บางครั้งมันก็แล้วแต่คนจะให้คำจำกัดความด้วยซ้ำ ว่าจะเรียกอะไรยังไง แต่เราไม่ต้องพูดถึงขั้นนั้นเพราะตอนนี้มีแต่ลูก
ซึ่้งคนเข้ามาก็ไม่ง่ายมาตลอดอยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส รู้สึกว่าเราก็ใช้ชีวิตของเรา ทำให้ดีที่สุด ในบทบาททั้งเรื่องงาน แล้วก็บทบาทความเป็นแม่ ทุ่มเทกับสองบทบาทนี้ให้ดีที่สุด นอกนั้นก็ตามสถานการณ์ค่ะ”
ยังไม่มีภาพความรักในอนาคตอยู่ในหัว ถ้ามันจะมี เดี๋ยวก็เกิดขึ้นเอง
“ไม่มีภาพนะคะ แอฟรู้สึกว่าถ้ามันมาถึงเรา แล้วเรารู้สึกยังไง มันก็อย่างนั้นแหละค่ะ ถ้ามีใครก็คงเกิดขึ้นเอง มุมมองความรักไม่ได้เปลี่ยนนะ สำหรับแอฟก็ยังรู้สึกว่าถ้ามีมันก็จะยังเป็นกำลังใจที่ดี ทั้งในการใช้ชีวิตและในการทำงาน แอฟรู้สึกว่าสุดท้ายทุกคนก็ต้องการ แต่ว่ามันจะเป็นในรูปแบบไหนแค่นั้นเอง”
ขำๆ คนที่เข้ามาผ่านด่านลูกสาวได้ง่ายกว่าแม่แน่นอน
“อุ้ย ลูกสาวน่าจะง่ายกว่าแม่ (หัวเราะ) ลูกสาวเวลคัมหมด เขาก็อยากให้มีแฟนตามประสาเด็กค่ะ เขาก็บอกว่าอยาก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาเข้าใจอะไรขนาดไหน แล้วเราก็ไม่ได้เคยพูดกันจริงจัง แต่ถามเล่นๆ เขาก็บอกว่าเขาแค่อยากให้แม่แฮปปี้ อยากให้แม่ยิ้ม อยากให้แม่มีความสุข แล้วก็ชอบแซว เวลาเห็นโฆษณาหรือละคร ก็จะชอบ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครเข้ามา ถ้าเข้าข่ายพัฒนาความสัมพันธ์ในเชิงนั้นก็ไม่มีค่ะ”
ไม่ทราบประเด็นที่คุณปู่ไพวงษ์ เตชะณรงค์ ตอบคอมเมนต์ ว่าไม่เคยทราบคิวงานของน้องปีใหม่ เลยไม่ได้ไปให้กำลังใจ หลังถูกถามทำไมถึงไปให้กำลังใจแฟนใหม่ลูกชายได้ แต่หลานขึ้นเวทีแสดงกลับไม่มา
“เอาจริงๆ ไม่ทราบเลยค่ะ คือตอนนี้แอฟยุ่งมาก ทั้งงานละคร แล้วพอจบละครมันก็จะมีงานอื่นๆ งานโฆษณา งานอะไรแบบนี้ คือตอนนี้ไม่ใช่เพราะแอฟคนเดียว แม้กระทั่งปีใหม่ คือตอนนี้เขาปิดเทอม 2 อาทิตย์ ก็ยุ่งกับงานโฆษณา เลยไม่ได้เห็นเลยค่ะ แต่ถ้าถามแอฟ แล้วฟังจากแค่นี้นะคะ แอฟคิดว่ามันไม่ได้มีอะไร
เพราะทุกวันนี้เราก็คุยกันอยู่ หมายถึงกับคุณปู่นะคะ ถ้ามีอะไรก็อัปเดต ก็คุยกันตลอด แล้วเขาก็เจอตลอดค่ะ อาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งไปมา มีอะไรก็คุยตรง แล้วบางทีเวลาคุณปู่มารับ แอฟก็เจอ คิดว่าถ้ามีประเด็นอะไร มีปัญหาอะไร คุณปู่ก็คงคุยกับแอฟได้โดยตรงเสมออยู่แล้ว ก็ไม่เห็นท่านพูดอะไรนะคะ (ยิ้ม)”
ปกติไม่เคยรายงานอยู่แล้ว ว่ามีตารางงานอะไรบ้าง แต่ถ้าถามก็ตอบตลอด
“ถ้าถามก็ตอบค่ะ แต่ถ้าไม่ได้ถาม ตามปกติก็ไม่ได้รายงานค่ะ เพราะเราทำอะไรเยอะมาก แล้วก็ทำทุกวัน ก็คงไม่ได้มีประเด็นที่จะต้องบอกตารางทุกวัน แค่นั้นเอง แต่ถ้าถามก็ตอบได้ ทุกวันนี้ไม่มีอะไร ก็สบายๆ”
ในคอมเมนต์ที่คุณปู่ตอบ มีการเอ่ยถึง “เปิ้ล” ผู้จัดการของแอฟด้วย ว่าประเด็นนี้ต้องถามผู้จัดการ ว่าจะอนุญาตให้พวกเราไปไหม เพราะแค่เพียงส่งเสียงมา ก็จะไปในทันใด เหมือนจะสื่อว่าเปิ้ลกีดกันไม่ให้เจอ
“ไม่มีแน่นอนค่ะ เท่าที่ฟังตอนนี้ คือบางทีส่วนใหญ่ปู่จะติดต่อผ่านแอฟโดยตรง หรือติดต่อเลขาแอฟก็คือพี่เปิ้ลค่ะ เพราะบางทีแอฟติดงาน ก็จะเช็กว่าจะเจอกันกี่โมง”
แม้จะกลับมารับงานแล้ว แต่ก็ยังให้เวลากับลูกเป็นอันดับ 1 เหมือนเดิม
“ยังไงลูกมาอันดับ 1 ค่ะ เพราะฉะนั้นก็จะแบ่งเวลาทำงานช่วงที่เขาไปโรงเรียน คิวละครที่ผ่านมาที่ถ่าย แอฟก็จะให้คิววันธรรมดา เพราะเสาร์-อาทิตย์ ต้องอยู่กับลูก ซึ่งเสาร์-อาทิตย์ ก็จะแปลงร่างเป็นคุณแม่คนเดิม หน้าไม่แต่ง หน้าสด พาลูกไปตระเวนเรียนพิเศษ”
ยังไงก็ต้องเลือกลูกก่อนงานอยู่แล้ว เพราะคงได้ดูแลใกล้ชิดแบบนี้อีกไม่กี่ปี
“แน่นอนค่ะ เพราะเขาจะอยู่กับเรา สนิทกับเรา ให้เราดูแลใกล้ชิดแบบนี้อีกไม่กี่ปี เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ต้องทำเต็มที่ อย่างงานแสดงแอฟก็รู้สึกดีใจที่ได้โอกาสกลับมา ก็ต้องทำเต็มที่เหมือนกัน ก็พยายามแบ่งเวลาให้ได้ดีที่สุด”
ส่งเสริมลูกเพิ่มเติมในทุกๆ ด้าน แม้ว่าจะเป็นด้านที่เขาสนใจหรือไม่สนใจก็ตาม
“ตอนนี้เสริมเขาทุกด้านเลย ทั้งด้านที่เขาสนใจ และด้านที่ดูแล้วเขาไม่ค่อยสนใจ ก็จะพยายามให้เขาทำด้วย ยกตัวอย่างยิมนาสติก ตอนแรกเขาเห็นภาพแล้วกลัว ไม่ค่อยอยากไป แต่ชอบเต้นบัลเล่ต์ ชอบรำไทย เราก็พยายามให้เขาลองยิมนาสติก หลังๆ เขาก็สนุกใหญ่เลย
เราก็แค่ส่งเสริมด้านที่เขาชอบ ส่วนด้านที่ไม่มั่นใจก็ให้เขาลุยไปก่อน แอฟก็บอกเขาเสมอว่า ถ้าเรียนไปแล้วมันไม่ได้ ไม่ชอบจริงๆ แม่ก็ไม่ได้บังคับให้หนูทำทุกอย่าง ค่อยมาเลือกอีกทีหนึ่ง แต่ก็เห็นแล้วว่าพอให้เขาทำสักช่วงหนึ่ง พอเครื่องติดแล้วคราวนี้ก็ไม่ยอมกลับบ้าน เรียนก็ไม่อยากกลับ”
