“โบว์” จี๊ด ถูกถามหามารยาท ไม่ไปร่วมงานแต่ง “ปิล” น้องชาย “ปอ ทฤษฎี” ซัดกลับต้องถามตัวเองด้วย มีมารยาทหรือเปล่า โต้ไม่พา “มะลิ” ไปหา อยากตัดขาดครอบครัว ยันไร้ปัญหาครอบครัวสหวงษ์ แม้เป็นสะใภ้ที่สามีตาย แต่ยังเคารพปู่ย่า
เจอดรามาอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรองอย่าง “โบว์ แวนดา สหวงษ์” ที่ล่าสุดพอมีภาพของ “ปิล ชวนันท์ สหวงษ์” น้องชายของ “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” แต่งงาน แต่ไร้เงาเจ้าตัวและ “น้องมะลิ” ไปร่วมงาน ก็มีดรามาเกิดขึ้นว่าโบว์ตีจากครอบครัวไปแล้วหรือเปล่า ซึ่งล่าสุดได้เจอโบว์ที่งาน Beauty Meets Healthy Festival พร้อมเปิดตัวบัตรตรวจสุขภาพแนวใหม่สุด Exclusive ตอบโจทย์ Lifestyle ในยุค New Normal ณ อาคาร B ชั้น 1 โรงพยาบาลพระรามเก้า เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า เป็นเพราะตนติดงานที่รับเอาไว้ก่อนหน้า และไม่รู้วันแต่งที่ชัดเจนก็เท่านั้น
“มันไม่ได้มีอะไรเลยนะคะ เพราะเราคุยกันในครอบครัวเรียบร้อยแล้ว แต่มีคนแคปมาให้เราดู มาตำหนิเราบ้าง รู้ไปอีกว่ามันเป็นอย่างนี้ ก็คิดว่ามันไปกันใหญ่แล้ว คือเรื่องของเรื่อง น้องปิลกับแฟนเขา เขาได้ฤกษ์มาแล้ว แต่เราไม่รู้ฤกษ์แต่งเขา แล้วโบว์รับงานเสาร์-อาทิตย์ วันเสาร์เป็นงานเดินแบบ และวันอาทิตย์เป็นงานปิดของผู้ใหญ่ที่โบว์เคารพมาก ซึ่งดีลกันมาประมาณ 2 เดือนแล้ว
เหมือนกับเรามารู้วันแต่งเลย แต่ไม่ได้รู้ฤกษ์แต่งเขาจากคุณย่า ก็รับทราบค่ะ แต่พอเช็กคิว อ้าว ตายแล้ว มันทับงาน คุณย่าเขาก็เข้าใจค่ะ ไม่เป็นไร ถ้าตกลงกับผู้ใหญ่แล้วก็ทำตามซะ เราก็โอเค ก็เลยคุยกันว่าไม่ได้ไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยินดีหรือไม่ดีใจ เดี๋ยวเราไปเจอกันทีหลังและฉลองกันรอบหลังก็ได้”
บอกตั้งแต่ช่วงโควิด ทำให้ติดต่อ พบเจอกันน้อยลง
“คือกับน้องปิลเราไม่ค่อยได้เจอกันเลยตั้งแต่โควิด ตั้งแต่เดือนก.พ.ที่โบว์กักตัว และการเดินทางไปมาหาสู่กันในช่วงนั้นก็ลำบาก และน้องปิลอยู่อยุธยา คุณย่าอยู่บุรีรัมย์ กับคุณย่าก็เพิ่งมาเจอกันแค่ 2-3 ครั้งเอง เหมือนความสัมพันธ์โบว์กับปิล คือเขาเป็นแมนๆ ถ้าเจอถึงได้คุย ไม่เคยมีการโทร.คุยกัน ไม่มีการไลน์คุยกัน และช่วงหลังๆ ก็ไม่ได้เจอเลย และได้ข่าวจากคุณย่าว่าน้องจะแต่งแล้ว ก็โอเค
คุยกับน้องสะใภ้ก็โอเคค่ะ พอมีรูปออกมาหลายคนถามว่าอาปิลหายไปไหน คือจะพยายามเบี่ยงว่ามีปัญหาเหรอคะ ทะเลาะกันเหรอคะ คือมันไม่ได้มีอะไรเลยค่ะ โยงดรามาก็มาด่าโบว์ซะงั้น มาบอกมารยาทนิดนึงทำไมถึงไม่ไป คือใจเย็นนิดนึง ให้เวลาอธิบายนิดนึงว่ามันคืออะไรก่อนที่คุณจะด่าคนอื่นว่ามารยาท ทวงถามหามารยาทกับคนอื่น ต้องดูด้วยว่าคุณมีมารยาทรึเปล่าก่อน เราก็เลยไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะคุยกับคุณย่า คุณย่าก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเรามาฉลองกันทีหลัง
กับปิลช่วงนี้ยังไม่ได้คุย เพราะน้องค่อนข้างที่จะยุ่ง เพราะทั้งเลื่อนขั้นตำแหน่ง แล้วโบว์ก็บอกว่าไม่เป็นไร คือแต่ก่อนเขาจะมาบ่อย ช่วงเขาโสดๆ ชีวิตโสดไปไหนมาไหนได้ แต่พอเขามีแฟน การงานขยับขึ้น ก็ต้องเข้าใจว่าทุกคนมีภาระหน้าที่ ทุกคนมีครอบครัว แล้วโบว์เป็นคนสบายๆ ถ้าว่างมา ถ้าไม่ว่างก็ไม่ต้องมา อยู่ตรงไหนสบายใจทั้งสองฝ่ายก็อยู่ตรงนั้น คือไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มาแล้วพี่โบว์จะโกรธผมไหม ไม่มีค่ะ คือถ้ามาก็มาเลย การไม่เจอกันก็วิดีโอคอลหากันได้ตลอด”
บอกตนเองก็งานยุ่ง แต่ก็ยังวิดีโอคอลหากันตลอดกับครอบครัวปอ
“ช่วงนี้มะลิจะติดหลาน คือลูกของน้องชายอีกคนของปอ เราก็ซื้อนาฬิกาให้เขาเลย อยากคุยอยากโทร.เมื่อไหร่ก็โทร.หาทุกคนในครอบครัวเลย คนมองว่าโบว์ไม่พาหลานไปบ้านโน้นจะตัดขาดแล้ว ไปถึงโน่นเลย (หัวเราะ) จริงๆ ตั้งแต่โควิดมาลำบาก แล้วมะลิก็เรียน เข้าโรงเรียนใหม่ ก็มีเรียนพิเศษบ้าง แล้วโบว์ก็งานเยอะ ที่บ้านจะมีโบว์ มะลิและป้าปูแค่ 3 คน และโบว์คนเดียวที่ขับรถได้ ก็จะโทร.บอกคุณย่าว่าไม่ค่อยได้ไปนะคะ คุณปู่ก็ยุ่งอยู่กับวัวที่เพิ่งซื้อมา คุณย่าก็วุ่นอยู่กับหลานที่ต้องเลี้ยง
แต่เราก็คุยกันตลอดว่าไม่ได้เจอกันไม่เป็นไร และอีกอย่างเหตุผลที่โบว์ไม่ได้ไปบุรีรัมย์เลยก็คือแม่โบว์ป่วย ซึ่งก็ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ซึ่งเขาไม่ได้แค่ป่วยกาย แต่เขาป่วยใจด้วยไง (เสียงสั่น) พอเราว่างก็จะไปหัวหิน เราไม่เคยเห็นแม่อยู่ในอาการจิตตกขนาดนี้ เพราะฉะนั้นก็บอกคุณย่าว่าไม่ค่อยได้ไปนะ ถ้าโบว์ว่างขอไปดูแม่โบว์ก่อน แค่นั้น ท่านก็เข้าใจ”
เผยมีข้อตกลงกันในครอบครัวว่ามีเรื่องอะไรจะเคลียร์กันเอง
“ไม่มีปัญหาเลยค่ะ และโบว์ก็งงคนที่มาเมนต์รู้จากไหน คือยังไง โบว์เชื่อมั่นนะคะว่าสหวงษ์ ทุกคน 3-5 ปีที่ผ่านมา มันมีอยู่แล้วแหละที่ใครจะเข้าใจผิด แต่ด้วยความเป็นโบว์และน้อง คุณปู่คุณย่า ขอโทษคำเดียวคือจบ คือเราเรียนรู้จากการสูญเสียแล้วว่า การโกรธมันทำให้เสียเวลาถ้าวันนึงใครคนนึงจากไป มันก็ย้อนเวลามาไม่ได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้นสหวงษ์ทุกคนคุยกันได้มีอะไรคุยกัน
ถึงแม้ว่าวันนี้โบว์จะเป็นสะใภ้ที่สามีตายไปแล้ว อาจจะไม่ได้สนิทกันมาก และด้วยระยะที่ไกล แต่ขอให้เชื่อว่ายังเคารพและรักคุณปู่คุณย่าเหมือนเดิม กาวใจที่ดีที่สุดก็คือมะลินะคะและรวมไปถึงสหวงษ์ทุกคนจะคอยดูและรักษาสภาพจิตใจของมะลิ แล้วหลานทุกคน เราเลยคุยกันว่าถ้ามีอะไรจะเคลียร์กันในบ้าน จะไม่มีคนอื่นรู้ จะไม่ยอมเป็นเรื่องให้คนอื่นเมาท์สนุกปาก หรือคิดกันเอง และสิ่งที่สำคัญคือสภาพจิตใจของมะลิ และหลาน เมื่อเขาโตไปแล้ว และต้องมาเสพข่าวแบบนี้ มีปัญหากันแล้วพูดออกสื่อ สิ่งนี้คือสิ่งที่สหวงษ์เราจะประคับประคองกันไปให้มากที่สุด และจะพยายามไม่ให้เกิดขึ้นเลย”