xs
xsm
sm
md
lg

พี่จ๋าเตรียมรอ! “มะลิ” เตรียมปล่อยซิงเกิลแรกของตัวเองสิ้นปีนี้ ส่วนพินัยกรรม “ปอ” ไม่มีจริง แค่คุยกันเล่น!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แม่โบว์” แย้ม “มะลิ” เตรียมปล่อยซิงเกิลแรกทั้งร้องทั้งเต้นเองปลายปีนี้ ลั่นลงทุนเองหมดหวังให้ลูกมีความสุขในสิ่งที่รัก ด้านมะลิ บอกฝึกซ้อมร้องซ้อมเต้นทุกวัน ส่วนเรื่องพินัยกรรมของ “ปอ” แค่เขียนกันเล่นๆ จริงๆ แล้วไม่ได้ทำพินัยกรรมอะไรไว้เลย

อดพาลูกสาว “มะลิ สหวงษ์” ไปลอยกระทง เพราะแม่ “โบว์ แวนด้า สหวงษ์” ป่วยเข้าโรงพยาบาล จากอาการติดเชื้อในกระเพาะอาหาร ล่าสุดเจอแม่โบว์กับมะลิที่งาน “SIAM Takashimaya Together Fashion Show” ในโอกาสฉลองครบรอบ 2 ปีห้างสยาม ทาคาชิมายะ ณ ทาคาชิมายะ ไอคอนสยาม แม่โบว์จึงเล่าถึงอาการป่วยให้ฟังว่าจะมีอาการนี้ประจำปีละครั้ง

โบว์ : “เป็นไวรัสติดเชื้อในกระเพาะอาหารค่ะ ไปนอนโรงพยาบาลประมาณ 2 คืน เวลาไปนอนก็จะนอนคนเดียว เขาก็จะรู้สึกว่าเวลาเขาป่วยเราไปเฝ้าเขา แต่เวลาเราป่วยทำไมเขาถึงไปเฝ้าเราไม่ได้ เราก็ให้เหตุผลว่าเราอยากให้เขาอยู่ที่บ้าน เตรียมตัวไปโรงเรียน เราดูแลตัวเองได้ เขาก็ยังบ่นอยู่ ทำไมเวลาแม่ป่วยแม่ยังมาเฝ้าหนู แต่ทำไมแม่ป่วยหนูถึงไปเฝ้าแม่ไม่ได้ เหมือนเขาผิด เราก็บอกว่าแม่โตแล้วดูแลตัวเองได้”

มะลิ : “หนูเลยต้องลอยกระทงคนเดียว”

โบว์ : “ก่อนจะไปนอนโรงพยาบาลก็มีอาการมา 2 วันแล้ว แต่เราคิดว่าไม่เป็นไรหรอก กินยาเอา ด้วยความที่ไม่อยากเข้าโรงพยาบาลก็ฝืนเอาจนมันไม่ไหว เลยต้องเข้า ก็บอกหมอว่าขอออกให้เร็วที่สุด เราคิดแต่อยากจะหายให้เร็วที่สุด เพื่อที่เราจะได้ออกไปเจอเขา แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลค่ะ แค่ติดเชื้อ คงจะไปกินอะไรผิดสำแดง ก็ต้องระวัง แล้วคุณหมอก็บอกว่าพักผ่อนน้อยด้วย เขาก็เตือนให้พักผ่อนเยอะๆ ปีนึงจะเป็นครั้งนึง นี่ครบรอบประจำปีแล้ว

เผยที่ผ่านมาตัวติดกันตลอด ไม่เคยห่างกัน โอดเสียใจและเสียดายไม่ได้อยู่เชียร์ “มะลิ” สอบเลื่อนขั้นคลาสเต้น
โบว์ : “ไม่ห่างกันเลย แต่เขาก็ไม่ติดเรานะ เขาทำตัวเหมือนเขาติดเรา แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ติดเรา เวลาเราไม่อยู่เขาก็จะมีความร่าเริง แล้วคือช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่เขาต้องสอบเต้นเลื่อนระดับขั้นด้วย โบว์ก็เสียใจ เสียดายที่ไม่ได้ไปให้กำลังใจเขา สรุปที่ซ้อมมา 2-3 เดือนแม่ไม่ได้ไปดู”

มะลิ : “เสียใจค่ะ แต่ก็มั่นใจ”

โบว์ : “ภูมิใจในทุกอย่างที่เขาเป็นอยู่แล้ว แต่พอเขาได้เต้น สิ่งที่คาดหวังที่สุดคือเขามีความสุข เราไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะต้องสอบผ่าน และเต้นให้ได้ แต่เราคาดหวังให้เขาตั้งใจและพยายามกับสิ่งที่เขาทำ ถ้าทำแล้วมันไม่ได้ดั่งใจเขา ก็ทำใหม่ ทุกครั้งที่ออกมาจากการซ้อมเต้นเราจะถามเขาว่าวันนี้หนูเต้นหนูมีความสุขไหม ถ้าเขาตอบว่าหนูมีความสุขมากแค่นั้นก็พอแล้ว เวลาโบว์ดูเขาเต้น โบว์จะดูจากแววตา ลักษณะท่าทางเขา เขาอยากจะไปเรียนทุกวัน”

มะลิ : “มีความสุข อยากไปเรียนทุกวันค่ะ”

โบว์ : “แต่บางทีเขาเต้นมาเหนื่อยๆ เขาก็อยากจะพัก เราก็ถาม เขาก็จะแบบถามอะไรนักหนา เราก็จะดูอารมณ์เขา เหนื่อยไหมลูก”

ลั่นพร้อมสนับสนุนให้ลูกเดินไปในเส้นทางนี้ ลงทุนทำซิงเกิล โชว์ความสามารถทั้งร้องทั้งเต้น “มะลิ” เล่าซ้อมทุกวัน ร้องเพลงยาก
โบว์ : “คิดว่าคงจะไปในเส้นทางนี้อีกนาน เดี๋ยวสิ้นปีนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะมีซิงเกิลแรกเป็นของตัวเอง ก็ขอบคุณคุณพ่อเวย์ (ปริญญา อินทชัย) และคุณแม่นานา (นานา ไรบีนา) ที่แต่งเพลงนี้ให้ แล้วก็มาในแนวเท่ ฮิปฮอป แม่เลยคิดว่าเพลงมาดีขนาดนี้แล้วก็มีมิวสิกวิดีโอเสียเลย ก็ลงทุนเองหมดเลยค่ะ

(6-7หลักไหม?) ไม่ค่ะ แค่ทำให้เป็นชิ้นเป็นอัน เราจะบอกเขาตลอดว่าถ้ารู้สึกขี้เกียจ ไม่อยากเต้น มันก็จะขยายออกไปเรื่อยๆ ก็บอกเขาอย่างถ่ายมิวสิกเดือนนี้ ถ้าหนูขี้เกียจ ทุกอย่างมันก็จะเลื่อนออกไปอีกเรื่อยๆ ถ้ารู้สึกว่าหนูพร้อมแล้วแม่ถึงทำให้ เราไม่อยากจะสปอยลูก ถ้าทำแล้วก็อยากให้มันมีคุณภาพ ไม่อยากให้พี่จ๋าที่เขาติดตาม ที่เขาเห็นกันมาตั้งแต่แรก ที่เขาตั้งใจติดตาม ก็อยากให้เขาเห็นถึงความตั้งใจที่น้องเต็มที่ ทั้งร้องทั้งเต้น”

มะลิ : “ตื่นเต้นค่ะ ฝึกทุกวัน ร้องเพลงยากค่ะ ชอบทั้งร้องทั้งเต้น”

โบว์ : “ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็สิ้นปีนี้ ชื่อเพลง I can ถ้าน้องเขาขยันและตั้งใจก็จะรีบทำให้เร็วที่สุด เป็นเพลงของเขาคนเดียวเลยด้วย จะมีแม่ไปแจมด้วย ไหนๆ เราเป็นคนออกเงินแล้วเราขอออกนิดนึง(หัวเราะ)”

ส่วนเรื่องพินัยกรรมของ “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” ที่ตนเล่าในรายการนั้นแค่เขียนไว้เล่นๆ จริงๆ แล้วอดีตสามีไม่ได้ทำพินัยกรรมอะไรไว้เลย
โบว์ : “เป็นเรื่องที่คุยเล่นกันในรายการแต่กลับกลายเป็นเรื่องที่จริงจังมากเลย แถมโดนดรามากันไปอีก มันเป็นพินัยกรรมย่อมๆ ที่พี่ปอเขาทำขึ้นมาเองก่อนที่มะลิจะเกิด ตอนที่เราอยู่ด้วยกันพี่ปอเขาก็เขียนด้วยกระดาษA4 2 หน้า ปั๊มลายมือแล้วก็เขียน หากข้าพเจ้านายทฤษฎี สหวงษ์ถึงแก่กรรมข้างเจ้าขอมอบทรัพย์สิน ข้อที่1 มีทรัพย์สินอะไรบ้าง ข้อที่ 2 มีรถมินิรุ่นเก่าของเขาที่เขาทิ้งไว้ให้เราซ่อมจนถึงวันนี้ ข้อที่ 3 ก็จะมีน้าโปะ หมาหลังอานที่เขารับมาเลี้ยง สิ่งสุดท้ายก็คือหากนางสาวแวนด้าไม่ทำตามตั้งแต่ข้อ 1 ยันข้อสุดท้ายถือว่าโมฆะและขอยึดทรัพย์สินทั้งหมดบริจาคให้มูลนิธิทั่วไปเลย และไม่ให้นางสาวแวนด้าสักสลึงแดงเดียว แล้วก็ปั๊มลายนิ้วมือ เขียนกำกับ มีติ่งนิดนึงอีกว่า ขอแบ่งเงิน 1 ล้านบาทให้เด็กชายออโต้ไป

ก็เหมือนเป็นอะไรที่เราเล่นกัน แต่มันมีลายมือ ลายเซ็นกำกับด้วย ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะมรดกก็มีแค่ชิ้นเดียว สรุปคือพี่ปอไม่มีพินัยกรรม มีแต่ที่เขียนเล่นกันกุ๊กกิ๊ก แต่แฝงความจริง นี่แหละคือสิ่งที่มีค่าที่สุด แล้วก็มีรถมินิที่ต้องซ่อมกันไป ซ่อมจนกว่าจะให้คนนี้ (มะลิ) ขับไปมหาวิทยาลัยได้ ตอนนี้ซ่อมกันบานปลายเลยค่ะ น้าโปะก็เสียชีวิตไปแล้ว ก็ดูแลกันจนถึงวินาทีสุดท้ายกันแล้วจริงๆ ก็ทำให้หมดแล้วนะ”

มะลิ : “ชอบรถมินิค่ะ”

ชินแล้วดรามา
“ชินแล้วค่ะ ไปให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูก การทำมาหากินดีกว่า พยายามเสพอะไรที่คนที่เขามีความคิดเป็นห่วงมากกว่า เพิ่มพลังบวกให้ตัวเอง ผลักดันพลังลบที่เข้ามาให้หมด อะไรที่เขาด่าหยาบมาเราก็ไม่ฟัง อะไรที่เขาติเราอ่าน แล้วเราก็ขอบคุณเขา ใครไดเร็กมาถ้ามีเวลาเราก็จะตอบ จะขอบคุณเขาที่เขาแนะนำเรา แต่ที่มาบอกว่าเราหยิ่งเราไม่ตอบ บางทีมันเยอะมาก

มีช่วงนึงที่มันมีดรามา ด่ามา 5-6 บรรทัด แล้วคำหยาบล้วนๆ เราก็จะพยายามบอกเขาว่าใจเย็นๆ นะคะ หนูอ่านข่าวให้ละเอียดก่อนนะ ทำความเข้าใจ จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าอ่านแค่ 2 บรรทัดแล้วมาด่าหยาบคาย อย่าเรียกร้องอะไรที่มัน...เราไม่อยากเจออะไรเราก็อย่าไปทำกับคนอื่นอย่างนั้น แต่ก็ยังดี เขาก็ตอบกลับมาแม่โบว์เข้าใจจุดประสงค์นี้เหรอคะ หนูขอโทษค่ะ ก็ยังดีที่เขาขอโทษ เราก็บอกไม่เป็นไรลูก ก็ให้อภัยกันลูก”












กำลังโหลดความคิดเห็น