xs
xsm
sm
md
lg

“บิณฑ์” โต้โหนเจ้า ปลุกระดมม็อบชนม็อบ ซัดไม่ใช่นิสัย ปั่นคนไทยให้ห้ำหั่นกัน โวย “บิ๊กตู่” ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง สาบานต่อหน้าไอ้ไข่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บิณฑ์” งงสังคมเป็นอะไรกันไปหมด แค่ออกมาปกป้องสถาบันกลับถูกทัวร์ลง อึดอัดถูกบิดพลิ้วข้อความให้เยาวชนอคติ ถอนใจสิ่งที่เคยทำดีวันนี้กลับไม่ดีแล้ว พูดต่อหน้าไอ้ไข่ “บิ๊กตู่” ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง ไม่ได้มีบุญคุณ พูดไม่จริงขอให้มีอันเป็นไป ไม่สะท้านโดนขุด โต้ปลุกระดมม็อบชนม็อบ ไม่ใช่นิสัย ไม่สร้างความแตกแยก

แม้จะถูกทัวร์ลงหนักจากการลุกขึ้นมาปกป้องสถาบัน จนถูกคนแซะ คนโหน เหน็บแนมต่างๆ นานา แต่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ฮีโร่ขวัญใจคนไทยก็ยังมุ่งมั่นทำความดีต่อไป โดยวันนี้บิณฑ์พร้อมกับ คุณแม่ปรางทิพย์ บรรลือฤทธิ์ , นางรัตนา สมสกุลรุ่งเรืองประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู อาสาสมัครร่วมกตัญญู รวมทั้ง นุ้ย เกศริน เอกธวัชกุล , ยาว ลูกหยี นักแสดง และอาสาสมัครฯ เดินทางมาร่วมเป็นประธานถวายกฐินสามัคคี ณ วัดป่าพรหมยาน ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นวัดที่ถูกปล่อยร้างมากว่า 3 ปี เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ รวมถึงทหารผู้รับใช้ ผู้ต่อสู้เพื่อแผ่นดินไทยทุกๆคน ตลอดถึง สัมภเวสี เจ้ากรรมนายเวรทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต พร้อมตั้งจิตระหว่างพิธีร่วมกับชาวบ้าน “ว่าหากชาติหน้าได้เกิดมาก็ขอให้ได้เกิดบนผืนแผ่นดินสยามซึ่งมีกษัตริย์เป็นประมุขอีกตลอดไป” 
 
โดยยอดรวมเงินทำบุญทั้งหมดในวันนี้คือ 1,586,676.85 บาท ซึ่งมาจากทั้งมูลนิธิร่วมกตัญญู 498,395.25 บาท, จากคุณรัตนา ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมทำบุญ 1 แสนบาท, จากเครื่องดื่มคอมมาโด ซึ่งบิญฑ์เป็นพรีเซ็นเตอร์ร่วมถวาย 6 หมื่นบาท , จากเงินส่วนเลยตัวของบิณฑ์ 3 แสนบาท และที่เหลือจะมาจากการร่วมทำบุญของชาวบ้านที่มาร่วมงานในวันนี้ โดยหลังเสร็จสิ้นภารกิจ บิณฑ์ได้เปิดใจต่อทีมข่าวว่า

“เลือกวัดนี้เพราะวัดพรหมยาน เป็นวัดที่ผมเองก็ไม่เคยมา แต่มีรุ่นน้องที่ทำงานอยู่ร่วมกตัญญูด้วยกัน เป็นบ้านของเขา เขาติดต่อผมมาว่าวัดยังไม่มีเจ้าภาพทอดกฐินเลย วันนี้เป็นวันสุดท้าย เราก็ถือเป็นการช่วยเหลือพุทธศาสนา ก็ตั้งหลักกันไม่กี่วันเอง ผมเองก็ยุ่งๆ เขาบอกว่าได้เท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร ขอให้มีการมาทอดกฐินแล้วกัน ก็ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในพระพุทธศาสนาด้วย ปีนี้ผมทอดกฐินมา 10 กว่าวัดแล้ว

เขาบอกว่าคนมารอตั้งแต่ 7 โมงเช้า ชาวบ้านมากันเต็มเลย ปกติวัดนี้ไม่ค่อยมีงาน เขาอยากจะมาทอดกฐิน อยากจะมาพบบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์เพราะหลายๆ คนก็รอมาขอความช่วยเหลือ บางคนอยากมาพูดคุย บางคนก็มานัดว่าพรุ่งนี้จะมาเจอที่วัดพระแก้ว ก็ดีใจที่หลายคนมีความตั้งใจมั่นที่จะออกไปปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้ผมรู้สึกว่าโอเค สิ่งที่เราพูดไป สิ่งที่เราบอกไป ก็ยังมีคนฟัง มีคนรับรู้ อยากจะไปพร้อมกัน”

ลั่นไม่เคยกระทบกับม็อบ ไม่เคยเชียร์รัฐบาล นายกฯ ไม่ได้มีบุญคุณกับตน แค่ชอบที่เป็นคนรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์
“ผมยังไม่เคยพูดข้อความที่ไปกระทบอีกฝั่งนึงเลย ผมพูดย้ำมาตลอด นักศึกษา พี่น้องประชาชนจะออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย น้องๆ ทำกันได้เลย มันเป็นสิทธิเสรีภาพที่เขาสามารถเรียกร้องกับรัฐบาลได้ ผมไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เชียร์รัฐบาลนี่ไม่มี ท่านนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้มีบุญคุณอะไรกับผม ไม่ได้มาช่วยอะไรเลย

แต่เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ผมชอบท่านเป็นการส่วนตัว เพราะท่านเป็นคนรักชาติ รักพระมหากษัตริย์ ทำงานให้ประเทศชาติมามากมาย ผมชอบคนแบบนี้ก็เท่านั้นเอง ผมไม่ได้บอกว่ารัฐบาลนี้ดีครับ ผมไม่เคยไปพูดและผมก็ไม่ได้ไปว่าน้องๆ ที่ชู 3 นิ้ว ผมยังสนับสนุนเลย เชิญเลยครับ แต่อย่ามาแวะข้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อันนี้ผมยอมไม่ได้”

บอกเห็นคนชูนิ้วกลางใส่ขบวนเสด็จก็คงไม่เข้าไปตบ ปล่อยวาง
“ถ้าผมยืนอยู่ในเหตุการณ์ที่มีคนทำแบบนั้น ถ้าผมเห็นใครยกนิ้วกลาง ผมคงทนไม่ได้ ผมจะเดินเข้าไปตบ มันเป็นความโมโหที่ผมพูดไปแบบนั้น ผมรู้สึกว่ามันหยามเกินไป รู้สึกว่ามันย่ำยีหัวใจกันเกินไป แต่ถ้าถึงเหตุการณ์ตรงนั้นจริงๆ ผมอาจจะมีความยับยั้งชั่งใจได้ อาจจะไม่ทำ แต่ถ้าไม่เจออย่างนั้นเราก็พูดได้คำพวกนั้นมันเป็นคำพูดด้วยความโมโห

แต่ถึง ณ ตอนนั้นเราจะทำจริงๆ ไหม เราก็ไม่ทำหรอก เราก็ปล่อยไป ใครทำอะไรได้อย่างนั้น เราปล่อยวาง จะเจออะไรตอนนี้เราปล่อยวาง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะจัดการพวกนี้ยังไงก็แล้วแต่

ซัดเอาคำพูดตนไปบิดพลิ้วว่าจะตบเด็กชูสามนิ้ว เพื่อให้อคติต่อตน
แต่คนที่เอาไปเขียน เอาไปทำให้มันบิดพลิ้ว ทำให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป บอกว่าบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์จะตบเด็กชูนิ้ว แล้วคำว่ากลางมันหายไปไหน ทำไมไม่เขียนกัน เพื่ออะไร ให้เด็กๆ มีอคติกับผมผมอธิบายไปหมดแล้วว่าไม่ใช่ ผมสนับสนุนเด็ก แต่ขออย่างเดียวเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่าแตะต้อง เพราะผมคนนึงจะไม่ยอม ผมคนนึงจะออกมาปกป้อง

ผมไม่ได้โหนเจ้า ผมทำอย่างนี้มาหลายสิบปีแล้ว แต่ไหนแต่ไรแล้ว รู้อยู่เรื่องนี้ผมไม่ได้เลย ทุกคนมีความสุข ทุกคนมีความสบาย แต่สถาบันมาโดนอย่างนี้คุณยอมได้เหรอ ผมไม่ต้องออกมาก็ได้ ผมจะออกมาให้เขาด่าทำไม ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ด่าผมมันเป็นกำลังใจให้ผมมากมาย

แล้วผมไม่ได้เข้าไปอ่านอะไรพวกนั้น ผมไม่เคยเข้าไปอ่านผมไม่รู้ว่าใครด่าผม พี่น้องประชาชนคนไทย 70 ล้านกว่าคน ผมขอแค่ 30 ล้านคนที่เข้าใจผม ที่รู้ว่าทุกวันนี้ผมทำอะไร ทำเพื่อใครผมไม่เคยทำเพื่อตัวเอง ผมทำให้ส่วนรวม ให้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหมด สิ่งที่ผ่านมามันยืนยัน และทำให้บริสุทธิ์เรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วม

ไม่สะท้านถูกขุดคุ้ย
เอามาขุดคุ้ย เอามาตรวจสอบเพื่ออะไร มันไม่ใช่ จะมาต่อสู้ด้วยกระบวนการยุติธรรมอะไรก็ตามแต่ มันต้องมาต่อสู้ด้วยหัวสมอง ไม่ใช่มาต่อสู้ขุดคุ้ยกันเรื่องในอดีต 10-20 ปี มานั่งว่าผม ไอ้สิ่งพวกนี้ผมไม่สะทกสะท้านหรอกครับกับอะไรพวกนั้น มันก็แค่ทำให้พวกเขาสบายใจกัน เขาอ่านเขาก็ด่ากันเอง ไม่สบายใจกันเอง ผมสบายใจมาก เพราะผมไม่ได้เข้าไปดู เข้าไปอ่าน ผมรู้สึกว่าอะไรพวกนี้ผมไม่ต้องไปสนใจ เราต้องมุ่งมั่นในสิ่งที่เราคิดว่าเราจะเดินหน้าต่อไป นั่นคือปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

ผมเชื่อว่าคนไทยอีกหลายสิบล้านคนอยากมีจุดยืน อยากออกมาปกป้อง แต่ตอนนี้เขายังเคว้งคว้าง ไม่รู้จะไปทางไหน ทางนั้นด่ารัฐบาล ทางนั้นก็เสื้อนั้นเสื้อนี้ เขาอยู่ตรงกลางเขาอึดอัด เขาเห็นภาพที่ทำกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ตอนนี้ทุกคนอึดอัด ผมรู้เรื่องจิตใจเขาเป็นยังไง ไม่ต่างกับผมหรอก

ถึงเวลาลุกขึ้นมาปกป้องสถาบัน ลั่นรักสถาบันไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อเหลือง ขอแค่เป็นสีแห่งความจงรักภักดี
“ฉะนั้นวันนี้ถึงเวลาแล้วครับที่เราจะออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกมาเป็นกำลังใจให้กับพระองค์ท่าน ให้พระองค์ท่านได้รับรู้ว่าคนไทยอีกหลายสิบล้านคนต้องการสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าได้กลัว เพราะเราไม่ใช่ม็อบ ผมไม่ใช่ พระมหากษัตริย์เสด็จไปที่ไหน เราต้องไปเป็นกำลังใจให้กับพระองค์ท่านที่นั่น

เรื่องเสื้อก็เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเสื้อเหลือง บางคนติดว่าผมไม่ชอบรัฐบาล ผมไม่อยากใส่เสื้อเหลือง เพราะใส่เสื้อเหลืองปุ๊บเหมือนจะเป็นอีกฝั่ง ฉะนั้นการที่เราจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นไม่จำเป็นต้องเสื้อเหลือง เสื้ออะไรก็ได้คุณใส่มา จะแดง จะเขียว ขาว ยกเว้นเสื้อดำ อย่าใส่มา ผมชอบเห็นคนหลากสีมา

บางคนอยากจะมาต้อนรับเสด็จแต่ไม่ชอบเหลืองก็ไม่เป็นไร ก็ใส่เสื้อสีอื่นมาได้ เราจะไม่มีสีเสื้ออะไรทั้งนั้น ขอให้เป็นสีแห่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วคนไทยจะกลับมายึดเหนี่ยว ช่วยกัน เป็นกำลังใจให้กันและกัน ตัดความกลัว ความวุ่นวายในใจออกไปให้หมด เอาพระมหากษัตริย์ เอาสถาบันแล้วเรามาช่วยกัน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของพวกเรา”

ชัดเจนไม่มีเรื่องการเมือง แค่ทนไม่ได้กับข้อเรียกร้องปฏิรูป จาบจ้วงที่สุด
“มีหลายกลุ่มแสดง แต่เขาไม่ชัดเจน เขายังมีเบี่ยงไปทางรัฐบาล เบี่ยงไปเรื่องของการต่อว่าฝ่ายตรงข้าม แต่ผมชัดเจน ผมไม่มีเรื่องของการเมือง ผมไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมมีฝ่ายเดียวคือสถาบันพระมหากษัตริย์ สิ่งที่ผมทำผมชัดเจนมาก ผมไม่เคยเข้าข้างรัฐบาล ผมไม่เคยเข้าข้างใครคนใดคนหนึ่ง ผมเป็นกลาง ผมทำมูลนิธิผมเป็นกลางอยู่แล้ว

แต่คราวนี้มันไม่ได้ คนที่ออกมาสบายใจได้ ผมไม่เคยออกมาด่ารัฐบาล ไม่เคยด่าฝ่ายใดก็แล้วแต่ที่ออกมาเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ออกมาได้ ผมยังชื่นชมเลย แต่พอผมเห็นข้อเรียกร้อง 10 ข้อ พอผมเห็นข้อที่ 3 ผมบอกเลยว่าเฮ้ย มันไม่ใช่แค่ปฎิรูป ถ้าคุณแค่คิดว่าปฎิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วสิ่งต่างๆ ที่เห็นอยู่ ที่ทำกันล่ะ มันจาบจ้วงมากที่สุดตั้งแต่ผมเคยเห็นมา มันเริ่มที่จะทำให้รู้สึกว่าย่ำยีหัวใจคนไทยเกินไป

ผิดอะไรปกป้องสถาบัน ยันไม่ปลุกระดมคนมาห้ำหั่นกัน ไม่ใช่นิสัย และไม่ต้องส่งอะไรมา ไม่ดูให้เสนียดลูกตา
“ผมไม่ได้โทษน้องๆ ผมโทษคนที่อยู่เบื้องหลัง ผมจะปลุกคนไทยให้ลุกขึ้นมา แต่ไม่มีการต่อสู้ เราจะต่อสู้ด้วยความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน เราจะต่อสู้ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ไม่ห้ำหั่นกันผ่านโซเชียล นั่นไม่ใช่นิสัยผม ที่โกรธใครเกลียดใครแล้วมาระดม สังคมอวตารต่อว่ากัน ด่ากันโดยไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เขาจะทำไปก็ไม่เป็นไร อย่าไปสนใจ อย่าเข้าไปอ่าน เข้าไปฟัง เข้าไปดู เดี๋ยวมันก็จบ มันก็อ่านกันเอง อะไรที่ไม่ดีก็เข้าพวกเขาเอง

ผมบอกทุกคนเลยว่าอย่าส่งมาให้ผม ของพวกนี้ผมไม่สนใจ ถ้าได้อ่านได้ดูได้ฟัง มันเสนียดลูกตา ไม่ต้องส่งมา เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าถ้าผมออกมาทำแบบนี่ปุ๊บมันต้องโดน ผมถึงถามไงว่าผมทำผิดอะไร ผมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ผมผิดอะไร ผมเคยไปว่าพวกท่านไหม ไม่เคย ผมว่าพวกท่านน่าจะออกมาช่วยกันนะครับ ให้ประเทศชาติสงบสุข กลับมาเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวอยากจะมาเที่ยวกันเหมือนเดิม

ต่อจากนี้จะมีแต่สีแห่งความภักดีต่อสถาบันเท่านั้น
“ขอฝากพี่น้องทุกคนที่เป็นคนไทยไม่ว่าจะเสื้อสีอะไรก็แล้วแต่ ณ ตอนนี้เราจะไม่มีสีอะไรแล้ว เราจะมีแต่สีแห่งความภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ใครจะด่าผมก็ไม่เป็นไร ผมอยากจะทำครั้งนึงในชีวิตของผมก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป

เรื่องจุดประสงค์แท้จริงของเขา ผมจะไม่พูดเรื่องนี้ คนไทยทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่ามันมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไร ไม่ใช่ว่าแค่เขามาปฎิรูปเพื่อจะได้อยู่ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญด้วยกัน ไม่ใช่แค่นั้น มันไม่จบหรอกครับ ถึงรัฐบาลนี้จะลาออกมันก็ยังไม่จบ เชื่อผม”

ไลฟ์สดประกาศลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญูทั้งน้ำตาเพราะอึดอัด ถูกนำคำสัมภาษณ์ไปบิดพลิ้ว และไม่อยากให้มูลนิธิต้องได้รับผลกระทบ
นั่นคือความอึดอัดของผมมาก ตอนที่ผมสัมภาษณ์ไปก็มีคนเอาไปบิดพลิ้วกันมากมายว่าผมจะไปตบเด็ก ทางมูลนิธิเขาก็หวังดีกับผมว่าอย่าไปยุ่งเลย เราเป็นคนกลาง ผมก็บอกว่าผมชัดเจนกับสถาบันพระมหากษัตริย์แต่ถ้าผมจะยุ่งกับพระมหากษัตริย์แล้วทำให้ผมรู้สึกว่าทำให้มูลนิธิร่วมกตัญญูจะต้องมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ผมไม่สบายใจ

วันนั้นผมก็ตัดสินใจลาออก ผมจะได้ออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์แล้วมูลนิธิร่วมกตัญญูไม่ได้มามีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวผม จะได้ไม่ถูกโยง ผมรับผิดชอบตัวผม ก็ลาออก ผมชัดเจน แต่เอกพันธ์เขาก็ยังอยู่ ก็ถูกต้องแล้วที่มูลนิธิร่วมกตัญญูต้องเป็นกลาง แต่ผมพูดคำนึงว่าถ้ามูลนิธิร่วมกตัญญูปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ มูลนิธิปอเต็กตึ๊งปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และมูลนิธิอื่นๆ ออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ มันผิดตรงไหน

ยันไม่ได้ปลุกระดมใคร แค่เรียกพี่น้องออกมาเฝ้ารับเสด็จ ใจยังอยู่กับมูลนิธิ โอกาสหวนกลับมาร่วมงานให้เป็นเรื่องอนาคต
“มูลนิธิไม่ได้มาปกป้องรัฐบาล ปกป้องนักศึกษาชู 3 นิ้ว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย ผมถึงบอกต้องชัดเจน ผมชัดเจน แต่คราวนี้ถ้ากลัวว่าเดี๋ยวมวลชนจะเข้าใจผิด ก็โอเค ไม่เป็นไร เราก็เอกเทศดีแล้ว จะได้เต็มที่ เราไม่ใช่ม็อบ เราไม่ใช่คนปลุกปั่น ปลุกระดมให้ออกมา ไม่ใช่ ผมเรียกพี่น้องประชาชนออกมาเฝ้ารับเสด็จ

เรื่องการกลับไปทำงานกับมูลนิธิ อนาคตผมไม่แน่ใจ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ถ้ามีงานที่ผมสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้มากกว่านี้ ผมสามารถทำงานได้มากกว่านี้ มากกว่าที่อยู่กับร่วมกตัญญู ผมก็จะทำงานที่มากกว่านี้ แต่ใจผมก็ยังอยู่กับร่วมกตัญญู ผมอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ทำประโยชน์ให้พี่น้องชาวไทยได้มากที่สุด แต่ถ้าผมไม่มีอะไร เสร็จงานผมก็อาจจะกลับขอไปเป็นอาสาสมัครใหม่ จบสวย ไม่มีปัญหาอะไรกัน ก็ดีแล้วแหละ ผมก็บอกสาเหตุและเหตุผลของผม ทุกคนเข้าใจ ให้เขามาด่าเราคนเดียวดีกว่าเรารับได้”

ขอบคุณทีมพุทธอิสระ จะส่งคนมาร่วมรับเสด็จ 4-5 พันคนด้วย
“ทีมพุทธอิสระได้ติดต่อมาจริงครับ ก็โทร.หาผม แต่ว่าผมไม่ได้รับสายก็มีข้อความเข้ามาว่าให้ติดต่อกลับพุทธอิสระ ผมเห็นว่าก็ไม่ได้เสียหายอะไร ทางพุทธอิสระก็เป็นคนที่ออกมาปกป้องสถาบันอยู่แล้ว ผมคิดว่าเขาคงจะมีอะไรแนะนำ ผมก็โทร.กลับไป ท่านก็พูดว่าจะมีคนจากฉันไปร่วมด้วย 4-5 พันคน ผมก็กราบขอบคุณท่าน ก็บอกท่านว่าเราต้องออกมาแสดงจุดยืนของเราแล้วแหละ ที่เราออกมาเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็คุยกันแค่นั้นจริงๆ ไม่มีเรื่องอะไรเลย ผมทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังผมทั้งนั้น ผมอยากออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จริงๆ

งงสังคมตอนนี้เป็นอะไร แค่ออกมาปกป้องสถาบันแต่โดนรุมด่า
ผมยอมทุกอย่าง ยอมออกจากร่วมกตัญญู ยอมให้ทุกคนมาด่าผม แล้วผมก็งง การที่ผมออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำไมต้องมารุมด่าผม คือเรื่องอะไร ผมว่าอันนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วนะผมว่า ถ้าผมออกมาเชียร์รัฐบาลลุงตู่ เด็กนักเรียนยก 3 นิ้ว อย่างนี้สิ อันนี้ผมออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำไมถึงมาด่าผม แทนที่จะช่วยกันปกป้องสถาบันพระมหากษัติย์ มันคืออะไร สังคมตอนนี้มันคืออะไรกัน”

พูดต่อหน้าไอ้ไข่ นายกฯ ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง ถ้าพูดไม่จริงขอให้มีอันเป็นไป
“ไม่มี ภาพที่ผมถ่ายกับนายกฯ เมื่อปีที่แล้ว ตอนผมมาช่วยรับโทรศัพท์ช่วยน้ำท่วม ท่านนายกฯ เรียกไปถ่ายรูปเป็นหลักฐานว่ามาช่วย แล้วมาหาว่านายกฯ อยู่เบื้องหลังผม ไม่ใช่เลย นี่ผมพูดต่อหน้าไอ้ไข่เลยที่วัดนี้ ถ้าผมพูดเท็จประการใดขอให้ผมมาอันเป็นไปได้เลย ผมเป็นคนที่นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อะไรที่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายผมจะไม่พูด เรื่องพวกนี้เราจะมาทำเป็นเล่นๆไม่ได้

สิ่งที่ผมทำผมทำด้วยความบริสุทธิ์ใจที่สุดแล้วสำหรับผม ถ้าทุกท่านออกมาท่านสบายใจได้ ผมไม่เข้าข้างใคร นายกฯ ตู่ไม่ได้มาช่วยอะไรผม ผมก็ยังทำมาหากิน ช่วยเหลือประชาชนก็ไม่ได้เป็นเงินของรัฐบาลสักบาท เป็นเงินของชาวบ้านด้วยซ้ำไปที่สนับสนุนผม ฉะนั้นผมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปช่วยรัฐบาล จะไปช่วยทำไม ไม่เกี่ยวกัน แต่จิตสำนึกของคนไทยต้องออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้นเอง”

ถอนใจสิ่งที่เคยทำดีเอาไว้ ตอนนี้กลับไม่ดีแล้ว
(ถอนหายใจ) ผมไม่เครียดเลยนะ แต่ผมแค่งงว่าทุกวันนี้ สิ่งที่เราทำอะไรดีๆ มันไม่ใช่ดีแล้วนะ มันเพราะอะไร ทำไมเราปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์แต่กลับมาโดนด่า โดนรุมว่า ซึ่งผมบอกชัดเจนอยู่แล้วว่าผมไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ก็ไม่เป็นไร วันนี้เขาอาจจะเข้าใจผมผิด แต่วันข้างหน้า จะรู้เองว่าผมไม่ใช่คนอย่างนั้น ใครจะด่าจะว่าจะขุดคุ้ยอะไรเชิญตามสบาย แล้ววันนึงคุณจะเสียใจที่คุณมาว่าผม ผมไม่อาฆาตใคร ก็ปล่อยให้เป็นกรรมเวรของแต่ละคน

วันนั้นที่ผมลาออกผมรู้สึกน้อยใจนิดนีงว่าเราทำสิ่งดีๆ แล้วต้องมาโดนอย่างนี้ ผมออกมาผมรู้สึกว่าผมทำอะไรได้อิสระ ผมพูดได้เต็มที่ ไม่ต้องเกี่ยวกับมูลนิธิ ผมอยากจะเป็นอิสระ อยากจะทำอะไรที่เป็นตัวของตัวเองบ้าง ทุกวันนี้ผมเชื่อว่าถึงผมไม่ได้ทำในนามมูลนิธิร่วมกตัญญูแต่ผมยังทำเพื่อพี่น้องประชาชน เพราะมูลนิธิร่วมกตัญญญูมาจากพี่น้องประชาชน ต้องกลับไปสู่ประชาชน นี่คือสิ่งที่ผมคิด

ภารกิจสำเร็จ หากเห็นคนไทยออกมาปกป้องสถาบันเป็นล้าน วันนั้นอาจจะกลับไปร่วมงานกับมูลนิธิอีกครั้ง
ผมอยากเชิญชวนให้ทุกคนปกป้องสถาบัน ให้ทุกคนออกมาเป็นล้านๆ คนก่อน ถึงวันนั้นผมว่าผมทำภารกิจสำเร็จแล้ว ให้ทุกคนได้รู้ว่าพี่น้องประชาชนคนไทยยังรักสถาบันพระมหากษัตริย์ยังต้องการในหลวง พระราชินีอยู่ในเมืองไทย และวันนั้นผมก็จะกลับไปทำมูลนิธิร่วมกตัญญู ทุกวันนี้ผมก็ยังออกมาช่วยเคส แต่ไม่ได้ใส่ชุดร่วมกตัญญูเท่านั้นเอง

ย้ำชวนคนไทยออกมารับเสด็จ ไม่ได้ปลุกระดมจับม็อบชนม็อบ
“ส่วนกิจกรรมวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) ผมไม่ใช่นักปลุกระดม ผมไม่ใช่คนจัดม็อบ ผมไม่มีอะไรเลย ผมมีแต่หัวใจ ที่ซื่อสัตย์และบริสุทธิ์จริงๆ ที่เชิญชวนพี่น้องประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จ คิดว่าน่าจะเป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทย ถ้าเห็นพระองค์เสด็จที่ไหน เราก็ไปเฝ้ากราบรับเสด็จให้พระองค์ท่านได้มีกำลังใจ

ผมไม่มีจัดเวที พูดโน้มน้าว ผมอยากจะเชิญชวนจริงๆ พรุ่งนี้ไปรับเสด็จในหลวง พระราชินีเท่านั้นเอง รอดูว่าพรุ่งนี้พี่น้องประชาชนจะมากันขนาดไหน แล้วค่อยต่อยอดในวันที่ 5 ธ.ค. เพราะเราออกมาเราไม่ได้เอาม็อบมาชนม็อบ เราไม่ได้ปลุกระดมคน ต้องออกมาแบบมีเหตุผลต้องออกมาแล้วเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพี่น้องประชาชน ออกมาให้ความรู้สึกดี

วันที่ 5 ธ.ค. คือวันพ่อแห่งชาติ ประชาชนชาวไทยต้องออกมาถวายความจงรักภักดี และคิดถึงพระองค์ท่าน เราต้องออกมาในวันแบบนี้ วันอื่นเราไม่ทำ เพื่ออะไร จะให้ออกมาโดยไม่มีเหตุผล มันเป็นไปไม่ได้ ผมจะไม่สร้างความแตกแยก จะไม่ทำให้มันเป็นปัญหาของสังคม ผมจะไม่ทำ”






















กำลังโหลดความคิดเห็น