“ชิงชิง คริษฐา” รับคุย “นัท อติรุจ” สถานะแฟน เขินไม่หยุดอ่านสัมภาษณ์ของฝ่ายชาย ชนะใจได้เพราะความน่ารักสม่ำเสมอ ไม่โรแมนติก แต่เน้นการกระทำ ไม่ใช่คำพูด คุณแม่ไฟเขียวทั้งสองฝ่าย ห่าง 10 ปีไม่มีปัญหา โลกตอนนี้สีชมพู ไม่กล้าบอกรักออกสื่อขอเก็บไว้พูดกันสองคน
หลังจากที่นักแสดงหนุ่ม “นัท อติรุจ สิงหอำพล” ออกมายอมรับกับสื่อมวลชนว่าความสัมพันธ์กับนางเอกสาว “ชิงชิง คริษฐา สังสะโอภาส” กำลังไปได้สวย ฝ่ายหญิงเริ่มเปิดใจให้แล้ว เรียกว่าแฟนได้แบบไม่ติด พร้อมประกาศทั้งรักทั้งหลงสาวชิงชิง ล่าสุดได้เจอฝ่ายหญิง ในงานบวงสรวงเปิดกล้องละคร ทานตะวันสีเพลิง เจ้าตัวก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ พร้อมท่าทางเขินอายว่า
“ค่ะ ก็...(ยิ้มเขิน) แต่คือเขายังไม่ได้ขอเลย จริงๆ ถ้าพูดถึงการกระทำคือเราก็ไม่ได้ติดอะไร แต่ถ้าถามว่าเรียกแฟนไหม...ก็ได้ เราก็ไม่ติด แต่เขาก็ยังไม่ได้ขอนะ เขายังไม่ได้พูดอะไรค่ะ”
ความน่ารัก ความสม่ำเสมอ ทำให้ชนะใจได้
“ถามว่าอะไรที่ทำให้เขาชนะใจเราได้ เขาน่ารักมาก สม่ำเสมอ เขาเป็นยังไงตั้งแต่แรกก็คือทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ ใช่ที่เขาบอกว่าเป็นทุกอย่างให้เราแล้ว”
บอกฝ่ายชายไม่ใช่คนโรแมนติก เน้นการกระทำมากกว่าคำพูด ให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่อง
“เขาไม่ค่อยพูดค่ะ แต่ว่าเขาเน้นทำให้มากกว่า แล้วคือเราก็รู้สึกได้ ถามว่าเขาทำอะไรให้บ้าง ทำทุกอย่างเลยจริงๆ (หัวเราะ) เวลาเรามีปัญหาก็ปรึกษาเขาได้ทุกเรื่อง หรือบางทีเราอยากไปไหนทำอะไรเขาก็จะคอยซัปพอร์ตเราทักอย่าง เรื่องขับรถรับส่งก็มีบ้าง บางทีเราไม่ไหว แล้วบางทีคุณแม่ติดธุระเขาก็จะขับรถไปให้บ้าง”
พามาเจอคุณแม่แล้ว ไม่มีคอมเมนต์อะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่านิสัยเป็นยังไง
“เจอค่ะ จริงๆ คุณแม่เจอพี่นัทอยู่แล้วเพราะว่าเคยทำงานด้วยกันเรื่องนายฮ้อยทมิฬ ถามว่าคุณแม่มีคอมเมนต์ถึงพี่นัทยังไงบ้าง คนนี้เขาไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เหมือนเขารู้จักอยู่แล้ว รู้อยู่แล้วว่าพี่นัทเป็นยังไง”
เขินหนักตอบคำถาม คุณแม่ให้ไฟเขียว
“ค่ะ...โอ้ยเขิน ตื่นเต้น ฝั่งคุณแม่เขาก็โอเคค่ะ คุณแม่พี่นัทก็น่ารัก”
เริ่มความสัมพันธ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ได้นับ เพราะเป็นอย่างนี้กันมาเรื่อยๆ
“จริงๆ มันเป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆ ไม่ได้นับหรืออะไรกันว่าเราเริ่มกันเมื่อไหร่ คือมันเป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆ แล้วก็ตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน(หัวเราะ) พี่นัทค่อนข้างจะมองอนาคตไว้เยอะ ส่วนหนูค่อยๆ ไปแล้วกัน ถามว่าเขามีเกริ่นๆ พูดคุยเรื่องอนาคตกับเราด้วยไหม ยังไม่มีค่ะ เหมือนทำทุกวันนี้ให้มันดีก็พอ”
ทุกวันนี้มั่นใจในตัวฝ่ายชายมาก อ่านสัมภาษณ์แล้วเขินไม่หยุด
“สำหรับพี่นัทก็มั่นใจมากอยู่ค่ะ จริงๆ หลังจากที่ฟังเขาสัมภาษณ์วันนั้นก็เขินดิพี่ มีคนมาถามแล้วเขาพูดแบบนั้น เราก็ไม่คิดว่าเขาจะตอบตรงขนาดนั้น เราก็ถามว่าไม่เห็นเหมือนที่คุยกันไว้เลย คือก่อนที่จะไปเจอพี่ๆ เขาก็มาถามแหละว่าถ้าสมมติมีเหตุการณ์แบบนี้มาจะตอบไปในทิศทางไหน คือมีปรึกษาเราก่อนบ้างว่าเราจะโอเคที่ตรงไหน แต่กลายเป็นว่าเขาตอบเยอะมาก ตอบตรงด้วย(หัวเราะ)
ถามว่าได้ใจไหม ก็...ค่ะ คือเราเคยเห็นแต่คนอื่นเขาสัมภาษณ์ไง แล้วเราก็ยิ้มตามใช่เปล่า แต่พอมันมาเห็นเป็นเรื่องเราเองเราก็ทำตัวไม่ถูก”
ห่างกัน 10 ปีไม่มีปัญหา
“ห่างกัน 10 ปีค่ะ แต่ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ส่วนใหญ่พี่นัทจะตามใจ(หัวเราะ) โลกเขาเป็นสีชมพู ก็นั่นแหละ ก็เหมือนกันแหละ”
ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน เพราะทำงาน 7 วันกันทั้งคู่
“ไม่ค่อยค่ะ ส่วนใหญ่พี่เขาทำงาน 7 วัน เราก็มีถ่ายละคร 7 วันเหมือนกัน ซึ่งก็ไม่ค่อยเป็นปัญหาเรื่องเวลา พี่เขาโตแล้ว เหมือนบางทีอะไรหยุมหยิมเขาก็จะไม่ค่อยมาทะเลาะกับเรา คือเขาก็ยอมแหละ (หัวเราะ) ถือว่ากับพี่นัทค่อนข้างคลิกในหลายๆ เรื่อง จริงๆ เราอยู่กันแบบเป็นพี่น้องมานานแล้ว แล้วเราก็รู้อยู่แล้วว่านิสัยส่วนที่ดีส่วนที่แย่ของเขาคืออะไร ซึ่งเขาก็รับได้ เอาเป็นว่าค่อยๆ ดูไปค่ะ”
ไม่ฝากบอกอะไร ขอเก็บไว้บอกรักกันสองคน
“มันไปไม่ถูก บอกอะไร (บอกรักไง?) อย่าเพิ่งล่ะกัน บอกกันสองคนก็ได้(ยิ้มเขิน)”