“หนุ่ม ศรราม” เปิดใจให้ “ติ๊ก” เจอลูกเดือนละ 2 ครั้ง ลั่นไม่ก้าวก่ายเรื่องเคลียร์หนี้ ไม่เคยกีดกัน ยันติ๊กไม่เกี่ยวเรื่องค่าเทอมในอนาคตลูก เพราะบันทึกหลังใบหย่ามีสิทธิ์รับผิดชอบลูกแต่เพียงผู้เดียว ขอทำตามกำลัง ตามปัญญาที่มี ไม่ใช่จินตนาการ ลั่นความสัมพันธ์ติ๊กจบแล้ว ไม่มีทางย้อนกลับไปได้
หลังจาก “ติ๊ก กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ” หรือ “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” โพสต์ว่าเจอกับลูกสาวอย่างน้องวีจิแล้ว ก็ทำเอาหลายคนรู้สึกปลาบปลื้มอยู่ไม่น้อย วันนี้ได้เจอ “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” ในงานบวงสรวงละคร “บังเกิดเกล้า” ณ สถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี เจ้าตัวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ ว่าไม่ขอตอบ เพราะไม่ได้ติดตามแล้ว พร้อมประกาศชัดว่าได้ยุติความสัมพันธ์กันไปแล้ว ไม่มีทางย้อนกลับ เหลือไว้เพียงความเป็นพ่อแม่ให้ลูกเท่านั้น
“เรียกว่ารับงานเยอะก็ไม่ได้หรอกครับ คือผมทำงานมาตลอดระยะเวลา เพียงแต่ว่าช่วงนี้งานที่ทำได้ออนแอร์พร้อมกัน 2 เรื่อง คือ บังเกิดเกล้า ทางช่องอมรินทร์ทีวี และเรื่องเพลิงภริยา ทางช่อง 8 และมีงานพิธีกร ผมทำงาน 7 วันมาตลอดชีวิตอยู่แล้ว ในช่วงโควิด-19 เราอาจจะทำงานกันไม่ได้ทุกฝ่าย พอเริ่มทำงานได้ละครก็เริ่มถ่ายได้”
ดูแลลูกปกติตามกิจวัตรประจำวัน หากมีวันหยุดก็จะพาไปเที่ยวทะเลดูสิ่งแวดล้อม
“ก็ดูแลปกติทั่วไปถ้าเกิดว่ามีเวลา ตื่นเช้าก็พาไปใส่บาตร แล้วก็พาเขาไปทานข้าวเช้า ถ้าวันไหนเลิกงานเร็ว หรือมีวันหยุด 1-2 วัน ก็อาจพาเขาไปเที่ยวทะเล หรือถ้าไปดูสิ่งแวดล้อมอะไรที่เปลี่ยนไป ตามพัฒนาการที่เขาควรจะเป็น เวลาออกมาทำงานก็มีพี่เลี้ยงจากเนอสเซอรี่ดูแลอยู่แล้วครับ และมีพี่เลี้ยงที่ดูแลคุณแม่อยู่แล้ว ช่วงที่ออกมาทำงานก็ไม่ห่วงครับ”
การเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวไม่ได้หนักหนาอะไร เต็มใจทำทุกอย่างให้ลูกอยู่แล้ว
“ไม่หนักนะครับ ผมคิดว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีผลดีต่อลูก คุณพ่อคุณแม่ทุกคนก็เป็น จะให้เหนื่อยแค่ไหน หนักแค่ไหน สิ่งต่างๆ ที่ทำให้ลูก เราเต็มใจทำให้อยู่แล้ว เหมือนที่เราเคยมีแต่พระคุณบุพการีคุณพ่อคุณแม่ของเรา วันนี้พอเรามีลูกก็เข้าใจถึงความเป็นพ่อแม่ที่เคยรักเรา เราก็รักลูกและคอยดูแลเขาให้ดีที่สุด”
พาลูกไปกองถ่ายด้วยอยู่บ่อยๆ ถ้ามีโลเกชั่นที่สามารถวิ่งเล่นได้
“ก็บ่อยนะ ถ้าเกิดว่าวันไหนมีโลเกชั่นที่สามารถให้เขาวิ่งเล่นได้ บริเวณพื้นที่หน้าบ้านหรือสนามหญ้า หรือวันไหนผมมีแค่ฉากสองฉาก ก็บอกลูกว่าเดี๋ยวไปดูป่ะป๊าถ่ายหนังฉากสองฉากเสร็จแล้ว เราไปหาข้าวทานกัน หรือไปเที่ยวเล่นกัน
วีจิก็ค่อยๆ ปรับตัว ผมเองก็ต้องค่อยๆ ปรับตัวด้วยเพราะว่าวันนี้ ก็ต้องเริ่มตอบแมสเสจที่ติดต่องานวีจิ ให้เขาถ่ายรีวิวผ้าห่มหรือเสื้อผ้า แกต้องอ่านไดเร็กแมสเสจมากขึ้น ขอบคุณที่คนเอ็นดูน้อง”
เลือกงานที่สามารถยืดหยุ่นกับลูกได้ ไม่อยากให้เป็นการบังคับ
“พอผมมีลูก ก็รู้สึกว่าการพยายามให้เด็กคนหนึ่ง แข่งอะไรเหมือนที่เราโตแล้วทำ เหมือนละครที่เราเคยเล่น เราต้องแสดงกับเด็ก บางทีต้องปลุกเขามาถ่ายเพราะเป็นเวลานอน วันนี้เราเข้าใจดีเลย เราไม่อยากทำแบบนี้ ดูเหมือนเป็นการบังคับเขาเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นก็จะเลือกในสิ่งที่ยืดหยุ่นกันได้ และอะไรที่วีจิสามารถปรับเข้าหาสิ่งที่เข้ามาได้มากกว่า”
ยังเด็กเกินไปพอที่จะเห็นแวว แต่เกือบได้เล่นรับเชิญกับพ่อแล้ว ติดที่ฝนตกเลยต้องยกซีนไป
“ผมว่ายังไม่ถึงวัยขนาดนั้น วีจิยังเล็กอยู่ เพิ่งจะขวบครึ่งเอง จริงๆ เกือบได้เล่นรับเชิญกับพ่อแล้วในเรื่องเพลิงภริยา แต่ฝนตกเลยยกไป วันนั้นไม่ได้ถ่ายฉากจบ ซึ่งไนกี้ (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) กับ ไอซ์ (อมีนา กูล) ต้องมีลูกสองคน ตอนแรกตั้งใจว่าจะอุ้มทาเรียกับวีจิเข้าฉาก ปรากฏว่าวันนั้นฝนตก เลยต้องยกซีนนั้นไป เลยไม่ได้เข้าฉากด้วยกัน”
วีจิยังพูดไม่ได้เลยไม่ถามถึงแม่ ตอนนี้กำลังหาข้อสรุปในการพบลูกของติ๊กอยู่ เบื้องต้นจะให้เจอได้แค่เดือนละ 2 ครั้ง ไม่ว่าจะเคลียร์หนี้หมดหรือไม่ก็ตาม ปัดกีดกันแต่งานยุ่งจริงๆ จบความสัมพันธ์ผัวเมีย แต่จะทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีที่สุด
“ตอนนี้วีจิยังพูดเป็นคำไม่ได้ กำลังจะพูดเป็น แต่ในเรื่องรายละเอียดของการพบลูกของติ๊ก คือในระยะที่ผ่านมา เรากำลังหาข้อสรุปกันอยู่ ซึ่งทางคุณติ๊กเอง ก็ไปประสานกับมูลนิธิหนึ่ง แต่ขอไม่เอ่ยชื่อ คราวนี้ผมเองก็ติดงานละคร เลยมอบอำนาจให้ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ได้ไปดูสถานที่ ดูความเหมาะสม ว่าโอเคไหม ปลอดภัยไหม ปรากฎว่าไม่โอเค เลยเรียนแจ้งไปกับคุณติ๊ก
เขาก็ไปประสานกับอีกหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งเป็นของภาครัฐ ซึ่งวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมเพิ่งไปดูสถานที่มา ก็เห็นว่ามันเป็นสถานที่กลาง น่าจะเหมาะสม เพราะฉะนั้นคุณติ๊กก็จะได้พบลูกพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ไม่ถ่ายละคร และด้วยความที่ผมงานยุ่งจริงๆ ในระยะแรกอาจให้เจอแค่เดือนละ 2 ครั้งไปก่อน และขออนุญาตชี้แจงว่าผมไม่ได้กีดกันไม่ให้คุณติ๊กพบลูก ไม่ว่าคุณติ๊กจะเคลียร์หนี้หมดแล้วหรือยังไม่หมด ผมก็ให้พบลูก ผมให้สิทธิ์ในการเจอลูกอยู่แล้ว อะไรที่เป็นดีต่อวีจิ ผมทำให้
ส่วนเรื่องเคลียร์หนี้ เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณติ๊กผมไม่ก้าวก่าย ในส่วนของเรื่องโรงเรียนที่มีการพูดถึงว่าจะต้องมีการส่งเข้าโรงเรียน ตอนนี้วีจิเพิ่งขวบครึ่ง กว่าจะเข้าก็อีกปีหนึ่ง ผมขออนุญาตเรียนแบบนี้ ว่าเรื่องค่าเล่าเรียนในอนาคตของวีจิ ค่าเลี้ยงดู ค่าดูแลทุกอย่าง อยู่ในความรับผิดชอบของผมแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับคุณติ๊ก เพราะฉะนั้นการที่ผมจะสนับสนุนการศึกษาของวีจิในอนาคต ผมจะทำตามกำลังของผม ผมมีปัญญาเท่าไหนที่จะส่งลูกเรียน ผมก็จะทำในสิ่งที่เท่าที่ผมจะสามารถทำได้
เพราะฉะนั้นสิ่งไหนที่เป็นจินตนาการ อันนี้ไม่ใช่ ขอให้เข้าใจว่าสำหรับผมกับคุณติ๊ก ความสัมพันธ์ของเราจบแล้ว ไม่มีทางจะย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้ เราทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีที่สุด ผมขออนุญาตตอบคอมเมนต์ที่เข้ามาผ่านตรงนี้ล่ะกัน”
สถานที่ในการเจอลูก คงเป็นหน่วยงานรัฐ ที่มีความปลอดภัย แต่ยังไงก็ไม่ให้พาลูกไปค้างคืน
“พูดคุยกันครับ เป็นสถานที่ของหน่วยงานภาครัฐ ผมไปดูแล้ว เห็นว่าปลอดภัย เลยมีความเห็นว่าไปพบที่นี่ก็ได้ แต่ยังคงเป็นแบบไปเช้าเย็นกลับ หรืออาจอยู่ในเวลาที่เราตกลงกันว่าใครไม่ติดงาน สะดวกอะไรยังไง แต่ยังไม่ให้ค้างคืน”
ขอไม่ตอบความรู้สึก หลังติ๊กโพสต์ได้เจอลูกสาวอีกครั้ง ทำเอาหลายคนปลาบปลื้ม
“อันนี้ผมขออนุญาตไม่ตอบ เพราะผมไม่ได้ติดตามแล้ว ในบันทึกหลังใบหย่า ผมมีสิทธิ์ในการรับผิดชอบลูกแต่เพียงผู้เดียวอยู่แล้ว แต่ในหน้าที่ของพ่อและแม่ อะไรที่คุณติ๊กประสานมา แล้วเป็นผลดีต่อลูก และผลดีต่อตัวเขาด้วย ผมทำ ผมไม่ได้ละเลย ฉะนั้นในสิ่งที่คุณติ๊กเสนอมา ถ้าไม่ว่างผมให้ที่ปรึกษาด้านกฏหมายไป ถ้าว่างผมไปทำเอง เพื่อทุกสิ่งทุกอย่างจะได้เกิดผลดีกับวีจิที่สุด”
ไม่เสียใจไหมที่คนหาว่ากีดกัน ทั้งที่กำลังหาทางออกร่วมกันอยู่
“ไม่เสียใจเลย แค่ชี้แจงไปเพราะไม่อยากให้คนเข้าใจผิด”
