“หม่ำ จกม๊ก” ปวดใจ “น้องนาฬิกา” โต๊ะหล่นทับเท้าจนเนื้อเท้าแหว่ง ต้องหอบชิ้นเนื้อที่หลุดใส่น้ำแข็งไปหาหมอ เย็บหลายเข็ม ร้องไห้ระงมทั้งบ้าน ลั่นช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียน อย่าให้ลูกอยู่คลาดสายตา
ตกอกตกใจร้องไห้น้ำตาแตกทั้งบ้าน หลัง “น้องนาฬิกา”ลูกสาว “เอ็ม บุษราคัม วงษ์คำเหลา”หลาน “หม่ำ จกม๊ก” เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา เกิดอุบัติเหตุโต๊ะหล่นทับเท้าจนเนื้อเท้าแหว่ง โดยหม่ำเปิดใจระหว่างมาร่วมงานทำบุญเปิดกล้อง ภาพยนตร์เรื่อง “แดงพระโขนง” วัดมหาบุศย์ (บริเวณศาลย่านาค) เจ้าตัวยอมรับร้องไห้ตามเมียและลูก ช็อกที่เกิดเหตุการณ์นี้ และจะเป็นบทเรียน อย่าให้ลูกคลาดสายตา
“ตกใจมากเลยตอนนั้น แทบช็อก เดี๋ยวเสร็จตรงนี้ก็จะรีบไปเยี่ยมแล้ว นิ้วไม่ได้ขาดทั้งหมด มันหายไปนิดเดียว แหว่งไปนิดนึง มันยังมีเศษเนื้ออยู่ก็เลยเอาไปต่อไว้
เขาคงจะไปพิงโต๊ะกระจก มันล้มได้ ดีนะกระจกมันหนา ไม่ได้คม ถ้ามันแตกคงจะแย่กว่านี้ แต่ถ้าโดนขาคงไม่เป็นไรนะ แต่มันไปโดนหมิ่นๆ แค่นั้นแหละ”
เผยหลานไม่ร้องไห้สักแอะ กลัวแม่ ตกใจเสียงยาย
“คงจะกลัวแม่แหละ ตกใจเสียงยายด้วย เพราะยายมาเห็นก็ตกใจ ยายร้องเสียงหลงเลย ไอ้เราก็อยู่ด้านนอกกำลังตัดตัวอย่างหนังอยู่ พอไปเห็นก็ตกใจ สงสาร ไม่ร้องสักแอะเลยนะ สงสัยจะตกใจกลัวแม่จะดุด้วย ตกใจเสียงยายด้วย”
เห็นแล้วช็อกแทบเป็นลม หอบชิ้นเนื้อที่หลุดแช่น้ำแข็ง
“ผมก็ช็อกสิ พอเมียผมเสียงแตก ผมก็นึกว่าเป็นอะไรกัน พอเดินไปดูหลานก็แทบจะเป็นลมเหมือนกัน ก็เลยรีบพาไปโรงพยาบาลและหอบชิ้นเนื้อที่มันหลุดมาหน่อยนึงแช่น้ำแข็งไปตอนนั้นเขายังไม่ร้อง เขาน่าจะชานะ ตกใจด้วยแหละ กลัวจะโดนดุว่าทำกระจกล้มทำไม”
น้ำตาซึม ไม่เคยเห็นหลานเจ็บขนาดนี้
“น่าจะเย็บหลายเข็มอยู่นะ ก็เพิ่งโทร.หาลูกเขยเมื่อกี้นี้ นั่นก็ร้องไห้หนัก ยายก็ร้องหนัก เราก็น้ำตาไหล น้ำตาซึม ไม่เคยเห็นหลานเจ็บขนาดนั้น ลูกเขยบอกว่าพอตื่นมาเขาก็บ่นเจ็บตรงขา หมอบอกว่าแผลน่าจะสมานกันได้ เพราะมันหน่อยเดียวเอง ตรงแค่ช่วงเล็บ”
กลัวเล็บไมสวย จะพาไปประกวดนางงาม
“กลัวมากเลย กลัวหลานเล็บไม่สวย หวังจะให้เป็นนางงามด้วย กลัวตรงนี้แหละ แต่ไม่โดนเส้นประสาทอะไรนะ เป็นเฉพาะนิ้วโป้งตรงช่วงเล็บ มันลงมาตรงปลายเท้าหมิ่นๆ เพราะน้องเอาตัวไปค้ำไง”
บทเรียนพ่อแม่ อย่าให้ลูกห่างจากสายตา โมโหเกือบทุบโต๊ะทิ้ง
“น่าจะเป็นอุบัติเหตุ อีกอย่างก็เล่นกันเพลินด้วยแหละ เขาเล่นกับน้องคนเล็ก น้องก็กำลังวิ่ง เขาก็วิ่งเล่นกันนี่แหละในห้อง คลาดสายตาแป๊บเดียวเอง มันเป็นบทเรียนของพ่อแม่ด้วยมั้ง คือ อย่าให้หายจากสายตานะ อะไรที่คิดว่ามันจะเป็นไปได้เอาออกห่างเลย เมื่อคืนผมยกโต๊ะนั้นออกเลย ยกทิ้งเลย เกือบจะทุบแล้ว โมโห มานั่งนึกก็มันเป็นอุบัติเหตุแหละ”
นั่งซึมเกือบ 2 ชม.
“มันเสี้ยววินาทีเอง ผมก็พูดไม่ออก สะอึกเลย เห็นเมียร้องไห้ เห็นลูกร้องไห้ก็ใจไม่ดี น้ำตาจะซึม พอลูกออกไปโรงพยาบาลก็น้ำตาไหล แล้วตอนนั้นเรานัดทีมงานมาคุยเรื่องหนังเรื่องใหม่ด้วย 2-3 เรื่อง วุ่นไปหมดพอมาเจอเรื่องหลานทีนี้เซ็งเลย นั่งนิ่งไปเกือบ 2 ชม.
จริงๆ ผมเป็นคนขี้ระวังอยู่แล้ว ถ้าหลานมาพวกปลั๊กไฟผมจะปิดเลย ปิดทุกรูเลย ผมกลัวหลานสองคนทั้งคู่ ยิ่งคนเล็กยังไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย กำลังซน กำลังวิ่ง เสร็จงานนี้ก็จะไปเยี่ยม ลูกเขย ลูกสาว เมียร้องไห้กันหมด ลูกสาวก็กลัวลูกจะเสียโฉม ไม่เคยเห็นหลานป่วยด้วยไง เต็มที่ก็เป็นไข้”
ก็ไม่มีใครดุหลาน มันเป็นอุบัติเหตุ ตอนที่เกิดเรื่องเขาก็เฉยๆ นะ หน้าตาเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร เขาคงกลัว ได้ยินเสียงแม่ เสียงยาย คงนึกว่าจะด่าเขา ก็เลยไม่กล้าร้องเขามาร้องตอนที่ถึงโรงพยาบาลแล้ว เขาถึงรู้สึกว่าเขาเจ็บ เมียเล่าให้ฟัง
อยู่ รพ. ถึงกลางวันนี้แหละครับ ให้แผลมันสมานกัน หมอบอกว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเนื้อมันนิดเดียว เพราะเด็กมันยังสร้างเซลล์ใหม่ได้”