xs
xsm
sm
md
lg

เหรียญอีกด้านของดราม่า “เฌอเอม” “จุดอ่อนจากการที่ไว้ใจ คือโดนทำร้ายแทบเสียคน”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประเด็นร้อนที่เชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่เกาะติดกันมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นจะไม่มีเรื่องไหนเกินหน้ากรณีการปลดนางงาม “เฌอเอม- ชญาธนุศ ศรทัตต์” ผู้เข้าประกวดหมายเลข MUT 82 พ้นจากเวที Miss Universe Thailand 2020

ด้วยความผิดที่ทาง บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN) โดย “ปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” และ “ณะ-ณรงค์ เลิศกิตศิริ”  ผู้ถือลิขสิทธิ์การจัดการประกวด ระบุไว้ในเอกสาร ว่า


“เนื่องจากผิดข้อตกลงการเข้าประกวด Miss Universe Thailand 2020 ในข้อ 5.29 วรรค 1 และอาจทำให้เกิดความได้เปรียบ แก่ผู้เข้าประกวดท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้มีผู้จัดการส่วนตัวหรือพี่เลี้ยงส่วนตัว”


โดยต้นเรื่องนั้น ก็เกิดขึ้นจากการที่ฝ่ายเฌอเอม มีการนำ “เคน-สิทธิชัย เร็ววิโรจน์” เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงส่วนตัวในระหว่างช่วงของการประกวด ซึ่งมีการระบุ “ห้าม” ไว้อย่างชัดเจนในเอกสารที่นางงามทุกคนต้องเซ็นรับทราบตั้งแต่ต้น

ถ้ามองในเชิงนิตินัย เฌอเอมคงไม่สามารถปฏิเสธความผิดดังกล่าวได้ แม้จะอ้างว่าไม่ได้อ่านเอกสารอย่างละเอียดก็ตาม เพราะข้อกำหนด ตลอดจนเงื่อนไขต่างๆ มีผลบังคับใช้ทันที นับตั้งแต่วินาทีที่มีการจดปากกาเซ็นสัญญาลงไปในเอกสาร

แต่ถ้ามองในเชิงพฤตินัย ก็เห็นว่าประเด็นดังกล่าว ดูเหมือนจะมีแง่มุมที่ทำให้ต้องกลับมาตั้งคำถามถึงความไม่เป็นมืออาชีพ โดยการไม่ให้คำปรึกษากับผู้เข้าประกวดของทีมผู้จัดงานหรือไม่ ? อย่างไร ?

ประเด็นแรก การที่เฌอเอมเข้าไปปรึกษากับผู้บริหารสูงสุดของกองประกวดโดยตรง ว่าอยากให้เคนมาเป็นพี่เลี้ยงส่วนตัวในช่วงของการประกวด ซึ่งในฐานะของผู้บริหาร ที่เป็นผู้วางกฎดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น 

เหตุใด !!!???? จึงไม่ทักท้วง หรือให้ความกระจ่าง และความชัดเจนกับเฌอเอมถึงความไม่เหมาะไม่ควรตั้งแต่แรก ตามวิสัยของผู้บริหาร หรือเจ้าของเวที ถ้าผู้เข้าประกวดคนหนึ่งคนใดมาขอคำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎ กติกา หรือเรื่องอื่นใดก็ตาม ก็สมควรที่จะให้คำแนะนำที่ให้ชัดเจน แม้กระทั่งการตักเตือน ห้ามปราม


“หากมองในมุมของเฌอเอม ในเรื่องดังกล่าว การที่เธอกับเคนเข้าไปหาผู้ใหญ่ในกองประกวด ย่อมมีความคิดว่าการที่เคนเข้ามาช่วยงานในกองประกวดนั้น หากผู้ใหญ่ยอมให้เปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนางงาม ก็ย่อมไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ดังนั้นการนิ่งเฉยจึงอาจนำไปสู่การตีความที่สร้างปัญหาขึ้นมาดังกล่าว”

ประเด็นเรื่องความสนิทสนมส่วนตัวระหว่างเฌอเอมกับเคน ที่ถูกหยิบยกมาเป็นหนึ่งในหัวข้อของการแถลงข่าวทั้งทางฝั่งเฌอเอม และฝั่งของกองประกวด ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพของทีมงานผู้จัดการประกวด โดยเฉพาะเรื่องเอกสารการเซ็นสัญญารับงานในฐานะฟรีแลนซ์ฝ่ายหาสปอนเซอร์ให้กับกองประกวดของเคน ที่ถูกระบุว่ามีข้อสัญญาเกี่ยวกับการห้ามนำความลับของกองประกวดออกไปเผยแพร่ ตรงนี้ทั้งสองฝั่งพูดตรงกันว่ายังไม่มีการเซ็นสัญญาแต่อย่างใด

ทางกองประกวดซึ่งยืนยันว่าเคนเข้าร่วมประชุมมากกว่า 5 ครั้งนั้น แต่ทำไมแค่เอกสารสัญญาฉบับเดียว กลับไม่สามารถตามให้เซ็นได้

จุดนี้คือความหละหลวมของกองประกวดอีกข้อหนึ่งใช่หรือไม่ !!!??? 

เพราะการจะว่าจ้างผู้หนึ่งผู้ใดเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นในฐานะพนักงานประจำ หรือฟรีแลนซ์ก็ตาม ย่อมต้องมีการเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนเริ่มงานอยู่แล้ว เพราะทีมงานทุกคน ทุกฝ่าย จะต้องรับรู้ถึงขอบข่ายหน้าที่ ตลอดจนเงื่อนไข กฎระเบียบ ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติทุกอย่างในสัญญาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อมิให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน โดยเฉพาะงานใหญ่ระดับประเทศแบบเวที Miss Universe Thailand 2020



แต่การที่เคนไม่ได้เซ็นสัญญา กลับถูกทางกองประกวดโยนให้เป็นความผิดของเจ้าตัวที่ตั้งใจจะบิดพลิ้ว และเพิกเฉย เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากการเป็นทีมงานในกอง โดยการใช้ความเป็นคนใน นำความลับของกองประกวดไปบอกกับเฌอเอม เพื่อให้ได้เปรียบกว่าผู้เข้าประกวดคนอื่น

การที่ทางกองประกวดพูดในระหว่างการแถลงข่าวว่า มองเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของเคน ที่มักจะผลักดันเฌอเอมให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์มากกว่าผู้เข้าประกวดคนอื่น ซึ่งทางกองถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ตรงนี้ถ้ามองในลักษณะของการทำการตลาด ก็ไม่เห็นถึงความผิดปกติแต่อย่างใด ก็ในเมื่อเฌอเอมเป็นผู้เข้าประกวดที่มีกระแส มีคนให้ความสนใจมากที่สุด ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ใช้ความได้เปรียบในเรื่องของกระแสเรียกให้สื่อมวลชนมาสัมภาษณ์เพื่อต่อยอด เพื่อให้เวทีเป็นที่รู้จัก และเป็นข่าวมากยิ่งขึ้น ออแกไนซ์มืออาขีพจริงๆ ก็ต้องเเลือกทำแบบนี้ทั้งนั้น

ในขณะเดียวกัน ทีมงานระดับผู้บริหารอีกคน คือ “อั้ม - จรีลักษณ์ จันทร์สุวรรณ” ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และดูแลลูกค้า และมีหลักฐานปรากฏในเวลาต่อมา มีความสนิทสนมกับผู้เข้าประกวดอีกคนหนึ่ง คือ “แพรว- แพรววณิชยฐ์ เรืองทอง” กลับไม่มี   ความผิด !!!???


จริงอยู่ที่อั้มอาจจะไม่ได้มีบทบาทในฐานะเป็น “พี่เลี้ยง” หรือ “ผู้จัดการส่วนตัว” ของแพรว ซึ่งถือว่าไม่ผิดตามกฏระเบียบและข้อกำหนดของการประกวด ถ้าว่ากันด้วยเรื่องเอกสารสัญญาทางนิตินัย

แต่คำถามก็คือ..... ในทางพฤตินัย จะมีใครสามารถรับประกันได้หรือไม่ !!??? ว่าความลับของกองประกวด จะไม่ถูกนำไปบอกเล่ากันนอกรอบในฐานะคนคุ้นเคยที่รู้จักกันมานานถึงสองปี

นี่คืออีกหนึ่งข้อที่ทำให้มองเห็นถึงความสองมาตรฐานของทีมงานการจัดงาน ที่เลือกปฏิบัติกับผู้เข้าประกวดอย่างไม่ทัดเทียมกันหรือไม่ !!??? 

“เมื่อเกิดดร่ามาขึ้นมา แทนที่กองประกวดจะเรียกเฌอเอมและเคนเข้าพูดคุยถึงทางออกว่าเมื่อพิจารณาตามข้อกำหนดแล้วสมควรจะตัดสิทธิ์ เพราะสัญญามีข้อกำหนดชัดเจน แต่ทางผู้บริหารก็ไม่ได้ทำ ใช่หรือไม่ว่าสาเหตุก็มาจากวันที่เฌอเอมและเคนเข้ามาหารือเมื่อวันก่อนแล้ว ทั้งปุ้ยและณะก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับลอยแพเฌอเอม และโพสต์ในเพสบุ๊คเฉยๆ ให้ไปพิจารณาตัวเอง นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในความไม่เป็นมืออาชีพของทีมงาน”


ในทางกลับกันกลับมีข่าวปล่อยว่าเฌอเอมถูกกดดันจากการแอบอ้างบุคคลระดับสูงว่าไม่พอใจกับกรณีที่เกิดขึ้น ในการสร้างความมัวหมองแก่กองประกวด และให้เฌอเอมเขียนจดหมายลาออกโดยให้ใช้ปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งสามารถโยงไปถึงอีกหนึ่งข้อกังขาที่ไม่มีการให้คำตอบที่ชัดเจน ก็คือการที่งานแถลงข่าวของเฌอเอมถูกเปลี่ยนกำหนดการถึงสองครั้งสองคราวติดๆ กัน


เหตุผลอะไร ? ที่ทำให้ร้านอาหารที่ถูกเลือกเป็นสถานที่ในการชี้แจงข้อสงสัยของฝั่งเฌอเอม ยกเลิกการให้ใช้สถานที่แบบกะทันหัน

เหตุผลอะไร ? ที่รายการดัง อย่าง “คุยแซ่บโชว์” ถึงต้องโทร มาปฏิเสธการออกรายการของเฌอเอมกลางดึก ทางกองประกวดให้คำตอบแต่เพียงสั้นๆ ว่า “ไม่รู้เรื่อง”

เป็นไปได้มั้ย ? ว่า งานนี้จะมีเบื้องลึกเบื้องหลัง โดยเฉพาะการแอบอ้างเบื้องสูง เพื่อล็อบบี้ไม่ให้เฌอเอมมีโอกาสได้แถลงข่าวอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกตจริงๆ 

และสุดท้ายประเด็นเรื่องแชทหลุด 79 หน้า ที่ถูกยกมาเป็นหลักฐานฟันธงว่าเฌอเอมรู้จักกับเคนมาก่อนหน้าที่จะมาประกวดเวที Miss Universe Thailand 2020 นั้น ต่อเมื่อลองจับใจความของการสนทนาทั้งหมดอย่างละเอียดแล้ว ก็มองไม่เห็นว่าข้อความตรงไหนที่บ่งบอกว่าเป็นการนำความลับของกองออกมาเผยแพร่ มีเพียงเรื่องของการพาดพิงถึงบุคคลที่สาม ด้วยภาษาที่ไม่เหมาะสมเพราะเป็นการพูดคุยกันในหมู่คนคุ้นเคย ซึ่งก็ถือว่าเป็นปกติวิสัยของการสนทนาในกรุ๊ปไลน์โดยทั่วไปอยู่แล้ว แต่กลับถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นดรามา ทำให้คนภายนอกมองว่าเฌอเอมเป็นคนปากร้าย พูดจาแบบยกตนข่มท่าน

ว่ากันว่าที่มาของแชทหลุดนี้ มาจากหนึ่งในสมาชิกของกรุ๊ปไลน์ดังกล่าว ซึ่งเคยเป็นทีมเดียวกับเคน แต่ภายหลังมีการขัดผลประโยชน์เกี่ยวกับการรับงาน จึงได้ออกจากกรุ๊ปไลน์นั้น และก็เอาข้อความดังกล่าวออกมาแฉ เพื่อหวังใช้เป็นไม้ตายในการทำให้ทั้งเฌอเอม และเคน ไม่มีที่ยืนในวงการ 

ก่อนที่จะปิดท้ายโดยการออกมายกสัญญาและข้อตกลงที่ผู้เข้าประกวดได้เซ็นยินยอมเป็นหมุดตอกฝาโลง ในขณะที่เฌอเอมยังคงหลงวนอยู่ในประเด็นของการแถลงข่าวในเรื่องของการที่เคนไม่ได้มีสัญญากับกองประกวด และช่วยงานแต่ไม่ได้มีความรับผิดชอบในเรื่องของการตั้งคำถามและยืนยันว่าเธอได้เข้าไปขอคำปรึกษากับผู้บริหาร แต่มีการเข้าใจผิดกันคนละประเด็น


กระบวนการที่ทำงานกันเป็นขั้นเป็นตอนที่จะฆ่าเฌอเอมให้ไม่มีที่ยืนเหล่านี้ เป็นไปได้หรือไม่ !!?? ว่าอาจจะเป็นเพราะนี่เป็นโอกาสดีที่จะจัดการดรามาในรอบลึกตั้งแต่ต้น อันเป็นผลมาจากกระแสความชื่นชอบ ชื่นชม ที่ผู้คนมีให้กับเฌอเอม และทำให้เธอเป็นตัวเก็งในการที่จะคว้ามงกุฎสาวงามระดับประเทศจากเวทีนี้ไปครอง ในขณะที่ผู้จัดงานเอง อาจจะมีผู้เข้าประกวดคนอื่นที่มุ่งหวังจะให้เป็นเจ้าของมงกุฎดังกล่าวอยู่แล้ว การที่เฌอเอมเจิดจรัส และสามารถทำคะแนนในแต่ละรอบนำโด่งเกินหน้าผู้เข้าประกวดคนอื่นมาแบบนี้ แน่นอนว่าการที่จะล็อกมงให้กับเด็กปั้นของตัวเองนั้น ก็ย่อมต้องค้านกับสายตาของคนดูทั้งประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะความคาดหวังของชาวไทยมันไปไกลกว่าเรื่องหน้าตาทรวดทรงองค์เอวไปแล้ว แต่กลับกลายเป็นไปมองเรื่องไหวพริบการตอบคำถามแทน

ฉะนั้นหนทางเดียวก็คือต้องจำกัดจุดแข็งให้พ้นทางก่อนจะถึงรอบชิง

ทั้งที่ว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว การที่เวที Miss Universe Thailand 2020 มีกระแส และได้รับความสนใจมากขนาดนี้ ส่วนสำคัญก็มาจากเฌอเอม ที่ช่วยสร้างให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะไหวพริบ การตอบคำถามอันชาญฉลาด ตามที่ทุกคนคงได้เห็นกันมาแล้วในรอบคัดเลือก 30 คนสุดท้าย

หรือจะเข้าทำนองว่า .....เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล !!???

ในส่วนของเฌอเอมบทเรียนเรื่องนี้คงได้สอนอะไรให้เธอหลายๆ อย่างมากขึ้นว่า ทำอะไรต้องมีความรอบคอบมากกว่านี้ อย่าเชื่อใจใครมากเกินไป อย่าคิดเพียงว่าปรึกษาผู้ใหญ่แล้วผู้ใหญ่ไม่ว่าอะไรแล้วก็น่าจะโอเค

วงการนี้อยู่กันด้วยผลประโยชน์ รักกันด้วยผลประโยชน์ ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับความรักความจริงใจที่คนในครอบครัวมีให้
เพราะสุดท้ายเมื่อดราม่าบังเกิด ก็ถึงเวลาตัดเฉือนเนื้อทิ้งเพื่อรักษาชีวิตกันทุกคน
แต่อย่างน้อยก็ต้องยอมรับว่าปีนี้วงการนางงามไทยไม่มีใครสร้างกระแสทั้งบวกและลบในระดับประเทศไปปังเท่าเธอ

.... เฌอเอม ....

นิตยสารผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 3-9 ตุลาคม 2563


กำลังโหลดความคิดเห็น