xs
xsm
sm
md
lg

“ริท” หล่อเก่ง จบ ป.โท นักเรียนดีเด่นอันดับหนึ่ง! ลุยอาชีพหมอเต็มตัว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ริท เดอะสตาร์” สุดปลื้ม จบ ป.โท ด้านผิวหนัง ดีกรีนักเรียนดีเด่นอันดับหนึ่ง เผย อาจารย์ชวนต่อดอกเตอร์ แต่ไม่ไหว ขอพักก่อน มาทุ่มเต็มที่เป็นหมอประจำที่คลินิก กลายเป็นคุณหมอของวงการ เพื่อนนักแสดงแวะเวียนมาปรึกษาไม่ขาดสาย เหนื่อยแต่ไม่ท้อ เปิดปุ๊บเจอโควิดปั๊บ ทำใจเกิดในประเทศนี้ ก็ต้องต่อสู้ในประเทศนี้ต่อไป

เรียนจบปริญญาโท พร้อมรางวัลนักเรียนดีเด่นอันดับหนึ่ง มาให้พ่อแม่ได้ภูมิใจอีกครั้งแล้ว สำหรับ “คุณหมอริท” หรือหนุ่ม “ริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช” ซึ่งก็ทำให้ตอนนี้ หนุ่มริทได้มาทำหน้าที่เป็นคุณหมอประจำคลินิก THE RITZ ของตัวเองอย่างเต็มตัวแล้ว วันนี้มีโอกาสได้เจอเจ้าตัว ในงานเปิดอัลบั้ม Boyfriends โปรเจกต์พิเศษจาก GMM แกรมมี่ ก็เลยขออัปเดตกิจการกันสักหน่อย ว่าทำกำไรเปรี้ยงปร้างไปถึงไหนแล้ว

“ตัวริทเพิ่งเรียนจบปริญญาโทด้านผิวหนัง จากวิทยาลัยนานาชาติจุฬาภรณ์ ของธรรมศาสตร์ แล้วพอจบปุ๊บตามธรรมเนียมเขาก็จะมีการให้รางวัลกับนักเรียนดีเด่น ซึ่งริทก็ได้รับเลือกเป็นนักเรียนดีเด่น คุณครูเขาบอกว่าก็แค่เรียนได้อันดับหนึ่งอะไรอย่างนี้

เราก็เรียนไปด้วยทำงานในวงการบันเทิงไปด้วย แล้วก็ได้อันดับหนึ่งก็แค่นั้น รุ่นเรามีประมาณ 10 กว่าคน เราก็ได้อันดับหนึ่ง (หัวเราะ) ภูมิใจๆ ครับ ตั้งแต่เรียนก็คือตั้งใจมากจริงๆ มันไม่เหมือนตอนที่เราเรียนหมอแล้ว เรียนหมอมันเหมือนเรียนทุกอย่างเพื่อให้รู้แบบครอบคลุม แต่อันนี้เรียนเพื่อใช้ในวิชาชีพ เพื่อที่จะมารักษาจริงๆ แล้ว เลยตั้งใจค่อนข้างมาก”

เตรียมเอาไปติดที่คลินิก การรันตีว่าเรียนดีอันดับหนึ่ง
“เอามาแล้วครับ แต่ในใบมันไม่ได้บอกว่าได้อันดับหนึ่ง ฝากพี่ๆ บอกไว้ตรงนี้เลยแล้วกันว่าได้อันดับหนึ่งนะครับ”

อาจารย์ชวนเรียนดอกเตอร์เพิ่มเติมอีก แต่ตัวเองตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ไว้แก่กว่านี้ค่อยว่ากันอีกที
“จริงๆ อาจารย์ก็ชวนเรียนเพิ่มอยู่นะครับ เรียนดอกเตอร์ แต่ส่วนตัวคิดว่าตอนนี้น่าจะไม่ไหวแล้ว น่าจะพอแล้ว มันเรียนมาทั้งชีวิตแล้ว พอวันหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเราเรียนจบมาปุ๊บและได้ประกอบอาชีพจริงๆ ก็รู้สึกว่าจริงๆ มันก็ถึงฝั่งฝันแล้ว ความรู้ที่เราเรียนมามันก็ค่อนข้างเพียงพอแล้ว ที่เรียนเพิ่มเติมไปน่าจะเป็นเรื่องของตำแหน่ง เหมือนศึกษาที่มันลึกลงไปเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งมากกว่า ริทก็เลยคิดว่าอาจจะยังไม่จำเป็นในตอนนี้ แต่ถ้าเกิดแก่ตัวไปกว่านี้ก็อาจจะคิดก็ค่อยว่ากัน ถ้าเราเป็นที่หนึ่งของดอกเตอร์ แล้วเราก็จะได้รับไปอีกรอบหนึ่ง โอ้ ลองดู (หัวเราะ) พอแล้วมั้ง”

หลังจากนี้ ก็จะเป็นชีวิตที่ได้ทำงาน ได้เข้าคลินิกเต็มที่
“ตอนนี้เหมือนเป็นหมอประจำแล้วครับ เข้าคลินิกแทบจะทุกวัน บางวันที่คลินิกปิดก็จะเอาเวลามาทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานวงการบันเทิงอาทิตย์หนึ่งก็แค่ 1-2 วัน ซึ่งตอนนี้บอกเลยว่าไม่ต้องซื้อบัตรมีตแอนด์กรี๊ดริท ซื้อคอร์สเลเซอร์ดีกว่า ใกล้กว่าอีก (หัวเราะ)”

ตอนนี้กลายเป็นคุณหมอของวงการไปแล้ว มีเพื่อนนักแสดงแวะเวียนมาขอคำปรึกษาเยอะมาก
“ใช่ครับ มาเยอะเลย ส่วนใหญ่เขารู้แหละว่าเขาจะทำอะไรก็มาขอฟรีมากกว่า (หัวเราะ) ระบุมาเลยว่าขอตัวนั้นตัวนี้ อันไหนยิ่งแพงยิ่งขอเยอะ อย่าให้ไล่เลยมีหลายคน แต่เราก็ยินดีทำให้ก็อยากดูแลเหมือนกัน ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาวันแรกๆ ก็คือ แฟนคลับแทบจะทั้งหมด จากนั้นก็เริ่มบอกต่อกระจายไปสู่วงนอก ตอนนี้ก็เริ่มเป็นลูกค้าทั่วไป 50 เปอร์เซ็นต์ แฟนคลับ 50 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ก็คือทาครีมกันแดดทุกคน ดื่มน้ำเยอะๆ บำรุง ห้ามมีกระ มีฝ้า ห้ามมีรอยดำ

ถามว่าแฟนคลับกรี๊ดกร๊าดไหม พออยู่ในบทบาทที่เป็นแพทย์ ริทก็จะไม่เป็นอย่างนี้ ไม่ดุครับ แต่ก็ไม่ได้เล่น ส่วนใหญ่จะพูดเรื่องวิชาการ ถ้าอยู่ในหน้าที่การงาน แล้วริทพูดแบบนี้ ไม่มีใครเชื่อ แฟนๆ ก็มีเขิน แบบ อย่าเพิ่งนะคะ คือพอเราเข้าโหมดทำงานจิตวิญญาณนักศึกษาแพทย์ก็จะถูกปลูกฝังมาแบบนี้ เพื่อนริทก็เป็นแบบนี้หมด ออกมาก็จะมีตัวตน”

เปิดปุ๊บเจอพิษโควิดปั๊บ ถึงจะมีต้นทุนสูงกว่าคนอื่นเพราะเป็นดารา ก็ยังต้องเหนื่อยอยู่ดี
ริทเปิดตอนโควิด-19 ตอนแรกริทเตรียมแถลงข่าวเชิญพี่ๆ สื่อมวลชนมา แต่ทางท่านก็ให้หยุดกิจการไปก่อน เราก็ชะลอการเปิด พอท่านให้เปิด บอกว่าทำได้แค่ตัว เราก็เริ่มทำตัว หัวเข่า ข้อศอกใสกันทุกคน พอเริ่มทำหน้าได้ ก็มาตามลำดับ แต่ว่าพอมันเป็นช่วงหลังโควิดแล้ว ริทเพิ่งเปิดใหม่ด้วย มันก็ค่อนข้างลำบาก ถึงแม้ริทจะมีต้นทุนสูงกว่าหมอคนอื่น เป็นดาราไปด้วย มันก็ยังเหนื่อยอยู่ ไม่ได้มาเปรี้ยงปร้างทีเดียว”

ทุนตอนนี้ยังได้คืนไม่ถึงครึ่ง คาดน่าจะอีก 3 ปี เพราะคนใช้เงินระมัดระวังมากขึ้น ก็ทำเป็นความสุขไปเรื่อยๆ
“ยังครบ ไม่ใกล้ครึ่งเลยครับ ตอนแรกวางไว้ว่าภายใน 3 ปีจะคืนทุน แต่ว่าตอนนี้คนใช้เงินระมัดระวังมากขึ้น ก็ค่อยๆ ทำไปแล้วกัน ไม่รีบอะไร แต่เรื่องนั้นไม่ได้ซีเรียสเรามองว่าเป็นอาชีพ เป็นความสุขของเรา ที่ได้ทำให้คนสวย คนแฮปปี้มีความสุขหน้าตาดี”

อยากเปิดสาขาในต่างจังหวัดตามคำเรียกร้องของแฟนๆ แต่คงต้องรอวางระบบให้นิ่งก่อน
“จริงๆ อยากขยายสาขา แต่เราอาจจะต้องวางระบบให้นิ่งก่อน ก็ฝาก THE RITZ คลินิก ไว้ด้วย ถามว่าอยากขยายสาขาช่วงไหนอยากทำอันนี้ให้นิ่งก่อนสักหนึ่งปีแล้วค่อยเริ่มขยายปีต่อไป ได้เร็วหรือช้ากว่านั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์เพราะตอนนี้อะไรก็ไม่แน่นอน บ้านเมืองยังไม่นิ่ง โรคภัยยังไม่นิ่ง”

เหนื่อยแต่ไม่ท้อ เกิดมาในประเทศนี้ ก็ต้องสู้ในประเทศนี้ต่อไป
“ตอนนี้ยังไม่ท้อ เพราะเหมือนเปิดปุ๊บก็เจอปัญหาตั้งแต่แรกเลย กฎระเบียบเยอะ ทำอะไรก็ลำบาก พอเปิดมาบวกกับเศรษฐกิจที่ซบเซา ก็ทำให้ค่อนข้างเหนื่อย แต่เลือกไม่ได้ เราเกิดประเทศนี้แล้ว ก็ต้องต่อสู้ในประเทศนี้ต่อไป”
















กำลังโหลดความคิดเห็น