“ษา วรรณษา” โดดแจมดรามา เผยมายเซ็ต “ซาร่า” อาจดี แต่ผิดโลเกชั่น อย่าดูถูกมนุษย์เงินเดือน เผยมุมแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่เคยสอนให้ลูกต้องเกลียดพ่อ ไม่หวั่นอนาคตลูกเห็นข่าว โกหกไม่ได้ แฮปปี้รัก “อาท รณชัย” พระเอกลิเก ใช้ชีวิตคู่กันแล้ว เหมือนแต่งกันไปแล้ว แค่ไม่แต่งงาน ไม่จดทะเบียน
ออกมาแชร์มุมมอง กรณี “ซาร่า คาซิงกินี” ให้สัมภาษณ์ ทำนองว่าซื้อสังคมโรงเรียนให้ลูก เพราะไม่อยากให้ลูกทำงานออฟฟิศได้เงินเดือน 15,000 บาท เอาไว้อย่างน่าสนใจ สำหรับ “ษา วรรณษา ทองวิเศษ” ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยว ล่าสุดเจ้าตัวเปิดใจ ความคิดซาร่าไม่ผิด แต่คิดแบบฝรั่ง เรียกว่าคิดอาจดี แต่ไม่ถูกโลเกชั่น อย่าลืมว่าอยู่เมืองไทย และทุกคนเป็นมนุษย์เงินเดือน เชื่อคำพูดครั้งนี้จะเป็นบทเรียน
“เราคิดว่าคุณแม่ทุกคนอยากให้ลูกได้ดี เราเข้าใจ แต่ด้วยเขามีความคิดที่เป็นฝรั่ง เพราะว่าเงินเดือนฝรั่ง กับเงินเดือนพนักงานออฟฟิศคนไทยไม่เหมือนกัน ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน ออฟฟิศคนไทยกับออฟฟิศฝรั่งไม่เหมือนกัน ออฟฟิศฝรั่งได้เงินเดือนเป็นแสน เขาคิดแค่ตรงนี้ ษาก็เลย แฮชแท็กไปว่าความคิดที่แตกต่าง เพราะฉะนั้นเขาคิดอย่างนี้ก็ไม่ผิด แต่คราวนี้มันผิดตรงที่ว่ามันอยู่ในเมืองไทย (หัวเราะ) มันอยู่ในสังคมไทย ซึ่งสังคมไทยพอพูดถึงเรื่องมนุษย์เงินเดือนขึ้นมา จะพูดเรื่องไหนมันก็เป็นประเด็นหมด ยิ่งพูดเหมือนกับด้อยค่า ต่ำต้อย แล้วพวกเราก็มนุษย์เงินเดือนกันหมดถูกต้องไหมคะ
แม่ษาก็เป็นมนุษย์เงินเดือน เลี้ยงษา ษาเลยแฮชแท็กว่าความคิดที่แตกต่าง แล้วก็บอกว่าแม่เราก็พนักงานออฟฟิศนะ แม่เราก็มีสังคมที่ดี เลี้ยงเรามาเราก็มีสังคมที่ดีนะ เฮ้ย มันไม่ใช่ว่าเงินเดือนหมื่นห้าแล้วจะสังคมไม่ดี มันเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องในสังคมไทย แต่ถ้าเกิดเป็นเมืองนอก การที่เขาพูดแบบนี้ โอเคปกติ เขาเป็นฝรั่งไง (ยิ้ม) เราก็เลยไม่ได้อะไรกับเขาเยอะมาก แค่บอกเป็นความคิดที่แตกต่าง อยู่ในโลเกชั่นที่แตกต่าง(หัวเราะ)”
ลั่นเขาอาจคิดดี แต่ผิดโลเกชั่น เผยมุมแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่เคยให้ลูกต้องเกลียดพ่อ
“ใช่ค่ะ เยอะมาก อย่างที่บอกความคิดของคน มายเซ็ต ถ้าเกิดเป็นมายเซ็ตที่ดี คำพูดมันก็จะออกมาดี แต่เขาอาจจะเป็นมายเซ็ตที่ดีก็ได้ แต่มันผิดโลเกชั่นไปนิดนึง ไม่ได้ว่ากันค่ะ หลังจากนี้ ก็ทำงาน หาเงิน ช่วยกัน จากที่ได้หลักล้าน ก็จะได้หลักล้านขึ้นอีก ซัปพอร์ตลูกไป คือลูกเลี้ยงด้วยกันดีกว่าค่ะ เพราะว่าลูกจะได้รู้สึกไม่ขาด อย่างษา อาจจะไม่ได้เลี้ยงด้วยกัน แต่ทุกครั้งที่ผลการเรียนลูกออก พี่เป้ (อนุวรรตน์ ทับวัง) จะมีส่วนร่วมด้วยตลอด ว่าผลการเรียนเป็นแบบนี้
เรื่องการตัดสินใจษาป็นคนตัดสินใจเอง เพราะว่าลูกอยู่กับเรา แต่เรื่องที่จะไปเจอเขา ษาให้ลูกเป็นคนตัดสินใจ แล้วสามไม่เคยพูดว่าพ่อไม่ดี อย่าไปหาพ่อ พ่อไม่โอเค ลูกต้องอยู่ที่นี่ อยู่กับแม่ แม่เลี้ยงลูกมา โน ษาไม่พูด ษาพูดแค่ว่า ไปหาเมื่อไหร่บอกแม่พร้อมตลอด แต่เขาไม่พูด จะให้ษาทำยังไง ในเมื่อเขาไม่พูด ษาไม่เคยทำ แต่เขาไม่พูด มีแค่ตอนโน้นที่เคยไปเจอ แล้วเขาถ่ายรูปลงไอจี อันนั้นคือลูกพูดเองว่าเขาอยากไปหา พ่อเซเดย์เป็นร็อกเกอร์ใช่ไหมครับ เพื่อนบอก ร้องเพลงเสียงสูงๆ เราก็ถามว่าอยากเจอไหม เขาบอกว่าได้ครับพ่ออยู่ไกลหรือเปล่า เขาก็นั่งตื่นเต้น พอถึงเขาก็นั่งคุยกันปกติ”
เชื่อจะเป็นบทเรียน ทุกคนปรับตัวกันได้
“ถามว่าอยากเตือนอะไรเขาไหม ไม่หรอกเดี๋ยวเขาก็โตขึ้น พอเขาโตขึ้นเขาก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จากบทเรียนในครั้งนี้น้องเขาน่าจะโอเคแล้วล่ะ ในส่วนหนึ่งแล้ว แต่ในส่วนความคิดที่โดนปลูกฝังมา จะเป็นฝรั่ง ตรงนี้เราก็ไปเอาออกไม่ได้ เพราะว่าครอบครัวแต่ละครอบครัวก็ไม่เหมือนกัน เขาปลูกฝังอย่างไรมา ก็ต้องเป็นอย่างนั้น นอกจากเขาจะมีสามัญสำนึกข้างในว่าทำแบบนี้แล้วทุกคนแอนตี้เขา บูลลี่เขา แล้วเขาปรับเปลี่ยน เขาก็คงดีขึ้น คนเราปรับกันได้ อยู่ที่จะปรับ
เรื่องเลี้ยงลูก เลี้ยงด้วยกันดีที่สุดค่ะ จะอยู่หรือไม่อยู่ ให้เด็กรู้สึกว่ามีพ่อ แต่ถ้ามันแย่มากๆ ก็ต้องคุยกันกับลูกให้ลูกเข้าใจ ษาก็บอกกับลูกว่าษามีปัญหากับพ่อ แต่ลูกไม่ได้มีปัญหากับพ่อ แม่มีปัญหากับพ่อ แม่คุยกับพ่อไม่ได้ (หัวเราะ) ษาบอกว่าถ้าอยากรู้อะไรให้ไปเปิดนั่งอ่าน ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนถาม เดี๋ยวบอกได้เพราะในข่าวก็ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป”
ไม่กลัวลูกเปิดเจอข่าว โกหกไม่ได้
“ไม่กลัวเลยค่ะ เพราะว่าความจริงอยู่กับเรา เราไม่ได้ตั้งขึ้นมาว่าฉันจะโกหกทุกคน แม้แต่ลูกของตัวเองก็โกหก โกหกตัวเอง ไม่ ข่าวมาอย่างไร ถามมาเลย เพราะว่านั่นคือสิ่งที่เราสร้างขึ้นอยู่แล้ว เราสร้างเรื่องตอนนั้น อยู่ดีๆ จะมาให้เราเป็นสุภาพสตรีสวยงามเหรอ มันก็ไม่ใช่ ตอนนั้นเราก็ต้องยอมรับว่าเราคิดอย่างนี้นะ โน่นนี่นั่น แต่ตอนนี้แม่กลับตัว กลับใจแล้วนะ ชีวิตแม่ก็ดีขึ้นแล้วนะ ลูกอยากรู้ตรงไหนก็ให้บอก”
ถามว่าลูกเคยมาถามไหม หลังจากที่เขาอ่านข่าว ษาคงอธิบายชัดมากนะคะ ษาเป็นคนที่ชัดเจนกับทุกคน แม้แต่กับลูก กับแม่ก็ชัดเจน”
รักใหม่ “อาท รณชัย” พระเอกลิเก เข้าปีที่ 5 แล้ว ขำๆ ทุกคนคิดว่าเป็นเพื่อนสาว
“ก็ดีนะ ก็โอเคนะ(หัวเราะ) เขาเป็นสมองเป็นเจ้าโปรเจกต์ ส่วนเราเป็นบ้าพลัง คือชอบทำงาน เขาคิดโปรเจกต์เราทำงาน แล้วษาสนุก เพราะเราชอบทำงาน พอมีคนคิดโปรเจกต์ขึ้นมา ทำแบบนี้ดีไหม เราก็ลงมือเลย เราเป็นคนไม่คิดนาน ลงมือทำเลย ถ้าไม่ใช่จะได้รีบเอาออกไป แล้วทำใหม่ ตอนนี้เข้าปีที่ 5 แล้ว 2 ปีแรก ทุกคนคิดว่าเขาเป็นเพื่อนสาวค่ะ(หัวเราะ) เขาเข้ากับน้องได้เลย เขาก็สนิทกัน แต่พอเซเดย์เขาอยู่กับคอมบ์แล้ว เขาก็ไม่ค่อยคุยกับใคร ไม่สนใจอะไร”
เผยใช้ชีวิตคู่ชีวิตแล้ว แค่ไม่ได้แต่งงานกัน ไม่จดทะเบียน
“นี่ก็ชีวิตคู่แล้วนะ แค่มันไม่ได้มีงานแต่ง เพราะว่าเหมือนตอนนี้เจาร่วมรับผิดชอบกับเราด้วย ถือว่าเป็นคู่ชีวิตแล้ว แค่ไม่ได้มีพิธีแต่งงาน เราคุยกันแล้วว่าเราเอาเงินของการจัดงานตรงนั้นมาต่อธุรกิจไหม คือถ้าพร้อมอาจจะมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้จบ จดทะเบียนก็ไม่เอา เอาแบบนี้ดีกว่าชิลๆ กว่า กระเป๋าใครกระเป๋ามัน อยู่ได้เรื่อยๆ เหมือนเป็นฝรั่งเนอะ ความคิดแบบชิล(หัวเราะ)”