บ้านกาหนั๊วะ ชุมชนมุสลิมขนาดใหญ่ ในตำบลกาลิซา อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ก็ไม่ต่างจากพื้นที่ในจังหวัดอื่นๆที่มีปริมาณขยะเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี ด้วยจำนวนประชากรกว่า 3,000 คน และนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมา ทำให้มีขยะถูกทิ้งและรอการกำจัดถึงวันละกว่า 5 ตัน กลายเป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้ “มาหะมะ สาอุ” สมาชิกเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ตำบลระแงะ รับบทบาทเป็นฟันเฟืองสำคัญ ประสานงานกับผู้นำชุมชน
สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลกาลิซา วางแนวทางลดปริมาณขยะในชุมชน ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหา มาหะมะเปิดเผยว่า ได้อาศัยโอกาสที่เคยไปดูงานการจัดการขยะที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เลยนำแนวทางมาปรับใช้กับชุมชนกาหนั๊วะ โดยเฉพาะการคัดแยกขยะ การนำขยะอินทรีย์มาแปรรูปเป็นปุ๋ยหมัก และทำปุ๋ยน้ำชีวภาพจากไส้ปลา โดยมีการจัดตั้งคณะทำงานเป็นทีมขับเคลื่อนงานด้านสิ่งแวดล้อมของหมู่บ้าน แบ่งเป็นฝ่ายต่างๆ ทั้งฝ่ายประชาสัมพันธ์ และฝ่ายพี่เลี้ยงเยาวชน ที่ทำหน้าที่ปลูกสร้างจิตสำนึกด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กและเยาวชนในหมู่บ้าน
ทั้งนี้กิจกรรมมีตั้งแต่การเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่คนในชุมชนเกี่ยวกับการรู้คุณค่าของขยะ วิธีการคัดแยกขยะที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆที่บ้าน และการจัดการขยะในครัวเรือนโดยไม่ต้องรอองค์การบริหารส่วนตำบลเข้ามาจัดการเก็บขยะไปทิ้ง นอกจากนี้ยังมีการติดป้ายรณรงค์ห้ามทิ้งขยะและจัดกิจกรรมเดินเก็บขยะตามริมทาง โดยมาหะมะ ยังมีบทบาทในการดำเนินการจัดการขยะในครัวเรือนของเขาเองอย่างจริงจังเพื่อเป็นแบบอย่างให้คนในชุมชนเห็นและปฏิบัติตาม
ในส่วนเยาวชนมีส่วนร่วม โดยกลุ่มเยาวชนตาดีกา ประมาณ 30 คน จากศูนย์อบรมคุณธรรมและจริยธรรมสำหรับเยาวชน เป็นเด็กๆกลุ่มที่เคยได้รับการปลูกฝังจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์มาแล้ว พวกเขาได้เข้าไปช่วยทำให้การจัดการขยะในชุมชนกาหนั๊วะ เป็นรูปเป็นร่างขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่มีการจัดกิจกรรมแต่ละครั้งก็มักจะมีคนทิ้งขยะจำนวนมากไว้เกลื่อนกลาด กลุ่มเยาวชนตาดีกา จะช่วยกันรับผิดชอบจัดเก็บขยะจนสถานที่จัดงานสะอาดเรียบร้อย
มาหะมะ สาอุ กล่าวว่า เขารู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่กิจกรรมเสร็จสิ้นลง แล้วจะมีเด็กๆมาช่วยกันเก็บขยะจนสะอาด ทำให้ภาพของสถานที่ก่อนจัดงานและหลังจัดงาน มีความสะอาดเรียบร้อยไม่แตกต่างกัน โดยเด็กๆจะทำงานกันเองโดยไม่คิดว่าการจัดการขยะต้องเป็นเรื่องของอบต. เท่านั้น แต่พวกเขารู้ว่าเป็นหน้าที่ของทุกคน
ด้วยผลสำเร็จของการร่วมแรงร่วมใจก่อนที่มาหะมะ สมาชิก ทสม. จะขับเคลื่อนกิจกรรมลดขยะ ในชุมชนกาหนั๊วะมีขยะวันละกว่า 5 ตัน แต่หลังจากนำแนวทางการจัดการขยะชุมชนมาใช้ ปริมาณขยะก็ลดลงไปถึง 30% ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและบ่อเกิดปัญหาสุขภาพอนามัยของประชาชนก็หมดไป เขาบอกว่าจะเดินหน้าทำเรื่องขยะเท่าที่เขารู้และสามารถทำได้ จากนั้นก็จะถ่ายทอดความรู้ให้กับชุมชนต่อไป และยังมีแผนที่จะนำแนวทางนี้ไปยังท้องถิ่นข้างเคียงและบูรณาการการคัดแยกขยะให้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในโรงเรียนด้วย
อีกสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดผลสำเร็จคือการร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนมุสลิม ซึ่งมีวิถีชีวิตยึดโยงอยู่กับศาสนา มีมัสยิดเป็นศูนย์กลางกระจายข่าวสาร เผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมให้กับคนในชุมชน
ด้านพลังของจิตอาสา ทสม. มาหะมะ เปิดเผยว่า ความสำเร็จที่ผ่านมา เกิดจากการทำงานโดยยึดหลัก 4ป. ตามบทบาทหน้าที่ของทสม. ได้แก่ประสาน ประชาสัมพันธ์ ปฏิบัติ และประเมินผล อย่างครบถ้วน ทำให้เกิดการประสานความร่วมมือและทำงานร่วมกันระหว่างชาวบ้านกับหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น และนอกจากนี้มาหะมะยังยึดหลักการลงมือทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง เพื่อให้คนในชุมชนมองเห็นว่าการจัดการขยะเป็นเรื่องง่าย สามารถทำตามได้
นอกจากนี้ยังมองว่า บทบาทหน้าที่ทางสังคมของเขา ที่คนในชุมชนให้ความเคารพนับถือ เป็นสิ่งสำคัญในการผลักดันเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชนจนประสบความสำเร็จ