จีดีเอช จับมือ “หน่อง อรุโณชา” ทุ่ม 100 ล้าน สร้างบุพเพสันนิวาส 2 เวอร์ชั่นหนัง ผู้บริหารจีดีเอชเผยฝนเป็นจริง มองเป็นความตื่นเต้นและท้าทาย อย่าเพิ่งคาดหวังเรื่องรายได้ จะทำให้ดี
สิ้นสุดการรอคอย สำหรับบุพเพสันนิวาส หลังจากที่มีข่าวว่าจะสร้างในเวอร์ชั่นภาพยนตร์มานานนับปี ล่าสุดจีดีเอช เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการจัดงานเปิดตัวแถลงข่าวยิ่งใหญ่ โดยเป็นการจับมือร่วมกันระหว่างจีดีเอชและ “หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์” กรรมการผู้จัดการบริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด โดยหน่องได้เปิดใจต่อสื่อมวลชนพร้อมกับ “จินา โอสถศิลป์” ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด และ ปิ๊งอดิสรณ์ ตรีสิริเกษม, เบลล่า-ราณี แคมเปน, โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ โดยทุกคนยอมรับว่าสุดตื่นเต้น ซึ่งในพาร์ตหนังจะเป็นการตีความใหม่
หน่อง : “ก็ตื่นเต้นค่ะ อยากเห็น เพราะว่าเป็นภาพยนตร์ที่จีดีเอชดูแลตรงนี้ คิดว่าหลายๆ คน ต้องอยากชมแน่นอนค่ะ พอทำออกมาเป็นภาพยนตร์ เราคิดว่าการตีความ ก็น่าจะมีความแตกต่าง นี่คือความตื่นเต้นที่จะได้ชมบุพเพสันนิวาสในเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ค่ะ ถามว่ามาไกลกว่าที่คิดไหม จริงๆ แล้วก็คิดไว้ แต่วันนี้เป็นจริงแล้ว น้องจินาทำให้เป็นจริงด้วยค่ะ”
จินา : “ถามว่าหนักใจมั้ย จริงๆ ตอนที่ละครประสบความสำเร็จเป็นปรากฎการณ์ออเจ้า เราก็ครุ่นคิดกันว่าเราอยากทำหนังมาก ก็ตั้งใจค่ะ แล้วก็ได้มาคุยกับพี่หน่อง และคุณรอมแพง แล้วเราไม่ได้ทำรีเมกนะคะ เราทำภาคต่อของบุพเพสันนิวาส ก็เดี๋ยวทางผู้กำกับกับคนทำบท ตอนนี้ก็ได้สรรค์สร้างมา เชื่อว่าจะถูกใจแฟนๆ บุพเพสันนิวาสในเวอร์ชั่นภาพยนตร์แน่นอน
เรื่องบทเป็นทางจีดีเอชเขียนใหม่ทั้งหมดเลยค่ะ คือเราทำบทภาพยนตร์ขึ้นมาใหม่ สร้างเรื่องขึ้นมาใหม่ โดยที่ทางผู้กำกับคือคุณปิ๊งและทีมเขียนบท ได้คุยทางคุณแรมแพงและพี่หน่องค่ะ”
ทุ่มงบเกือบ 100 ล้านบาท
จินา : “เรื่องงบประมาณเกือบร้อยล้านค่ะ รวมทุกอย่างเกือบร้อยล้าน เราก็ไม่ค่อยอยากจะกดดันผู้กำกับและนักแสดงเท่าไหร่ค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าด้วยความสมจริง ความเป็นยุคสมัย แล้วก็ด้วยสเกลของงานละคร ยังไงเราต้องทำให้ดีที่สุดให้ได้ค่ะ ร่วมทุนกับพี่หน่อง รับรองไม่มีปัญหาค่ะ (หัวเราะ) จีดีเอชกับพี่หน่องทำงานด้วยกันเป็นทีมค่ะ รับความกดดันไปทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน”
ปิ๊ง : “เรื่องการเขียนบท เราได้โจทย์ว่าอยากจะทำบุพเพสันนิวาสขึ้นมาเป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง เป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์ มันก็มีความเป็นไปได้เป็นร้อยๆ แบบเลย พอดีไปอ่านหนังสือพรหมลิขิต ซึ่งจะเป็นภาคต่อของละคร แล้วทางคุณรอมแพงใครไว้ว่า ไม่ว่ายังไง พี่หมื่นและการะเกด จะต้องเกิดมาเจอกันทุกชาติไป เราก็เลยได้ไอเดียว่า มันจะเป็นอีกชาติภพหนึ่งของพี่หมื่นและการะเกด ซึ่งตัวละครเขาจะไม่ใช่คนเดิมแล้ว จะไม่ใช่พี่หมื่นและการะเกดคนเดิม แต่จิตวิญญาณเขายังเป็นคนเดิม ก็จะเป็นตัวละครใหม่ คาแรคเตอร์ใหม่ ที่มันจะมีความน่าสนใจไปอีกแบบหนึ่ง แล้วความที่เราอยากให้ทั้งแฟนละครและแฟนภาพยนตร์ ได้ความสนุกที่มันต่างไปจากละคร เราก็เลยตัดสินใจที่จะทำให้มันฉีกออกไป แต่ความยากก็คือทำยังไงจะรักษาจิตวิญญาณเดิมของตัวละครเดิมเอาไว้ให้ได้ครับ ซึ่งตัวละครจะเป็นชื่อใหม่ด้วย
ถามว่ากดดันไหม จริงๆ คือผมทำงานทุกชิ้น มันก็จะมีความกดดัน ที่มันแตกต่างกันไป แต่ว่ากับโปรเจกต์นี้ ผมกลับรู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ท้าทาย แล้วก็รู้สึกแบบอยากจะทำให้มันเกิดขึ้นเร็วๆ เรื่องงบประมาณที่บอกว่าเยอะที่สุดตั้งแต่จีดีเอชทำมา ก็สนุกดีนะครับ (หัวเราะ) เวลาเราเขียนขึ้นมา เราก็ต้องส่งให้ทางพี่หน่องเขาดู ว่าเป็นแบบนี้ได้มั้ย ก็จะมีการพูดคุยอยู่ตลอดเวลาครับ คุณรอมแพงเอง ก็ได้เห็นแค่ทรีตเมนต์สั้นๆ แล้วเวลาติดขัดอะไร หรือนึกไม่ออก ช่วงที่ล็อกดาวน์เราก็มีคุยกับ zoom กับคุณรอมแพงด้วยครับ
ถามว่าจะมีการสอดแทรกประวัติศาสตร์เหมือนเวอร์ชั่นเดิมมั้ย ก็คือสิ่งที่ทำให้ละครบุพเพสันนิวาสประสบความสำเร็จคือความโรแมนติกคอมเมดี้ เป็นตัวละครที่น่าสนใจ มีคนที่มาจากยุคปัจจุบันย้อนไปในอดีต แล้วก็เป็นประวัติศาสตร์ชาติไทย เราก็พยายามจะเก็บสิ่งนี้ไว้ ให้ครอบไฮไลต์ที่ทำให้ละครมันประสบความสำเร็จ แต่ว่าทำเป็นในแบบเวอร์ชั่นของภาพยนตร์ครับ”
เบลล่ารักละครเรื่องนี้มาก ดีใจได้มีโอกาสร่วมงานกับจีดีเอช
เบลล่า : “ในฐานะนักแสดงก็ตื่นเต้นมากเลยค่ะ โปรเจกต์บุพเพสันนิวาสเป็นอะไรที่เบลรักมาก แล้วเบลดีใจมาก ที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับจีดีเอช แล้วก็มาในโปรเจกต์บุพเพสันนิวาสด้วย ก็รอแบบเคลียร์คิวเลยค่ะ แล้วคาแรคเตอร์ตัวละครในเวอร์ชั่นนี้ จะเปลี่ยนไปจากเดิม เบลก็ตื่นเต้นนะคะ เบลคิดว่าความกดดันมันคือความท้าทาย คือเรายิ่งอยากจะทำออกมาให้ดีที่สุด แล้วก็อยากจะให้แฟนๆ รอชม แล้วก็รอให้กำลังใจพวกเราด้วย รอสนับสนุนด้วยค่ะ ตอนนี้ก็มีโอกาสได้เห็นบทบ้างแล้ว
ถามว่าลองจินตนาการตัวเองในพาร์ตหนังบ้างไหม เบลว่ามันก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ละครเราเล่ากัน 10 กว่าตอน แต่ภาพยนตร์ต้องเล่าให้จบภายในเวลาของภาพยนตร์ ก็น่าตื่นเต้นค่ะ”
โป๊ปตื่นเต้นอยากร่วมงานกับจีดีเอชนานแล้ว ดูหนังมาตั้งแต่เด็ก
โป๊ป : “พี่หมื่นในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ เอาตามตรงก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นแบบไหน เพราะตัวบทก็ยังมาไม่ถึงผมเลยครับ เลยยังตีความไม่ได้ ว่าจะเป็นตัวละครพี่หมื่นในยุคถัดๆ ไปยังไง ก็ยังต้องให้ทีมงานทางจีดีเอชได้ทำการบ้านเต็มที่ แล้วก็มาคุยกันอีกทีครับ แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นนะ อยากร่วมงานกับจีดีเอชมานานแล้ว ตอนนี้ได้เล่นจริงๆ แล้ว ก็รู้สึกว่าสมัยเด็กๆ เราก็ดูหนังของเขาอยู่แล้ว เราก็เลยรู้สึกวันนี้เราได้มาทำงานกับเขา ก็รู้สึกว่าอยากจะทำงานนี้ให้ออกมาดี อย่างที่เราอยากทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มันเหมือนกับที่เราไปดูในตอนที่เราเป็นคนดูครับ”
จินา : “จีดีเอชเขียนบทพิถีพิถัน ทำให้ดีที่สุดค่ะ ก็อยากให้น้องโป๊ป น้องเบลล่า แล้วก็พี่หน่อง สบายใจนะคะ ส่วนเรื่องตัวเลข ตอนนี้เราคิดว่าเราทำให้ดีที่สุดก่อน ถ้าเกิดหนังออกมาแล้วดี สนุก คนดูประทับใจ สิ่งนั้นก็จะตามมาค่ะ ตอนนี้ความกดดันอยู่ที่การเตรียมงานโปรดักชั่นมากกว่าค่ะ ถามว่าจะได้ดูกันเมื่อไหร่ ตอนนี้เราคาดหวังว่าจะเข้าฉายธันวาคมปีหน้าค่ะ จะใกล้เคียงกับละครพรหมลิขิตของพี่หน่องพอดีค่ะ”