xs
xsm
sm
md
lg

“ปั๊บ โปเตโต้-ใบเตย” พร้อมแต่ง พ.ย.นี้ ขอทำงานก่อนยังไม่พร้อมมีลูก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พร้อมแต่งแล้ว “ปั๊บ โปเตโต้-ใบเต้ย” ร่อนการ์ดงานแต่ง 15 พ.ย. สุดประทับใจซึ่งกันและกัน วันแรกที่คบกันแบบไหนตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม เป็นที่พึ่งพิงให้กันและกัน ขอทำงานก่อนยังไม่พร้อมมีลูก

ขอแต่งงานมา 2 ปีแล้ว พึ่งจะได้ฤกษ์แต่งวันที่ 15 พ.ย.นี้ สำหรับ “ปั๊บ โปเตโต้” พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข และ “ใบเตย สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ” เผยธีมงานแต่งเรียบง่าย เสร็จพิธีตอนเช้าฉลองแต่งช่วงบ่ายเลย ฝ่ายหญิงเผยประทับใจปั๊บเสมอต้นเสมอปลาย ขอทำงานก่อนค่อยมีลูก

ปั๊บ : “ถ้าย้อนไทม์ไลน์ที่ขอเต้ยเอาไว้ส่วนตัว ซึ่งขอไว้นานแล้ว ประมาณ 2 ปีที่แล้ว ให้เพื่อนที่ชื่อต้องจิตช่วยดูฤกษ์ให้ ซึ่งเขาก็ดูให้เอาไว้เมื่อปีที่แล้วว่าเป็นฤกษ์วันนี้ที่ 15 พ.ย. ปีนี้ ก็ล็อกเอาไว้แล้ว ซึ่งเป็นฤกษ์แรกและเป็นฤกษ์เดียวด้วยครับ กับสถาณการณ์โควิดไม่คิดว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ถึงแม้ว่าจะไม่มารวมกัน ก็คิดว่าจะแต่งกันเป็นการภายในไปเลย ก็ไม่ได้กังวลตรงนั้น แต่ตอนนี้เรื่องที่กังวลมากกว่าคือจะจัดงานยังไง เพราะทุกอย่างยังไม่สรุปเลย

พิธีการเรียบง่าย
ใบเตย : “ตอนนี้ก็มีถ่ายพรีเวดดิ้งไปแล้ว เรื่องสถานที่ก็ดูเรียบร้อยแล้วเป็นโรงแรมคอนราด แขกก็ประมาณ 400 คน”
ปั๊บ : “ก็จะมีพิธีเช้า และก็พิธีบ่าย ไม่มีพิธีเย็น ซึ่งตามเราคุยกันไว้ว่า ตอนเช้ามีขันหมาก ยกน้ำชา รดน้ำสังข์ และพอบ่ายก็เป็นงานเลี้ยง ส่วนภายในงานก็มีดีเทลต่างๆ ซึ่งกำลังคุยกับทีมงานอยู่ว่า จะเอาแบบไหน เพราะตอนนี้ธีมคลุมเครือมาก ยังคุยไม่ลงตัวเลย ตอนนี้ก็เริ่มช่วยกันคิดมา แต่ยังคงความเรียบง่ายก่อน ไม่มีธีมอะไรที่หวือหวา”

ใบเตย : “เน้นเป็นโทนสี ที่ดูไว้เป็นสีเขียวอ่อน สีเหลือง สีฟ้าอ่อน เป็นโทนพาสเทล แต่เรื่องแต่งตัวเอาที่ทุกคนสวยที่สุด ซึ่งตีกันเยอะมาก”

ปั๊บ : “ผมเป็นคนที่ดีเทลเยอะ เตยเองก็เป็นคนที่ค่อนข้างละเอียดมาก และสรุปแล้วตรงกลางคือยอมครับ (ยิ้ม) ไม่มีตรงกลาง (หัวเราะ) ก็แล้วแต่เตยเลย เดี๋ยวผมไปหาทางล็อบบี้ทีมงาน เปลี่ยนสคริปในวันงานเอง” (หัวเราะ)

ภายในงานจะมีรูปของทั้งคู่ที่ไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ติดไว้แขกได้ดู บอกเล่าเรื่องราวความรักและประสบการณ์การเดินทาง
ใบเตย : “เตยกับพี่ปั๊บชอบเดินทางท่องเที่ยว เราจะเก็บภาพมาเยอะ และจะได้ประสบการณ์ดีๆ จากการเดินทาง ไม่ว่าในและต่างประเทศ เพราะฉะนั้นงานแต่งของเตย อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ หรือว่าผู้ใหญ่ที่มาในงาน ได้เห็นสิ่งที่เราได้ไปเห็น เลยจะมีรูปในงานตอนที่เราไปเที่ยวกัน”

เตรียมงานไปเกินครึ่งแล้ว “ใบเตย” เตรียมชุดใส่วันงาน 3 ชุด
ปั๊บ : “การเตรียมงานผมว่าประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ เรื่องการ์ดยังไม่เรียบร้อย ประมาณสิ้นเดือนน่าจะเรียบร้อย แต่เรื่องโครงงานพร้อมแล้วครึ่งนึง เพราะว่าเพิ่งเข้าไปดูโรงแรมมา แล้วก็เอาดีไซเนอร์เข้าไปดูว่าจะทำยังไงบ้าง

มีคนบอกว่าเจ้าสาวพอใกล้งานแต่งจะเหมือนก็อตซิลล่า?
ปั๊บ : “ไม่ต้องใกล้หรอก ตอนนี้ก็เป็นแล้ว (หัวเราะ) เตยค่อนข้างเป็นคนที่จริงจังกว่าผม เวลางานเขาค่อนข้างมีดีเทลของเขา ผมก็เออออ ห่อหมกไปก่อน ผมสารภาพเลยว่าผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพิธีเท่าไหร่ และเรื่องดีเทลด้วย คือ ในภาพของผมแต่งงานกันมีพิธีและจดทะเบียนกันเสร็จ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่เตยเขาลงดีเทลค่อนข้างเยอะ แล้วจะคอยเตือนว่า พี่ปั๊บลิสต์ชื่อแขกหรือยัง แขกพี่ปั๊บเตยคิดให้ไม่ได้นะ ผู้ใหญ่มีใครบ้าง ของชำร่วยพี่ปั๊บอยากได้แบบไหน เขาจะถามว่าเราชอบแบบไหน ไม่ได้ตามใจตัวเองเหมือนกัน”

ภาพพรีเวดดิ้ง หลายคนคาดว่าจะเห็นเจ้าสาวแบบในไอจี?
ปั๊บ : อยากเห็นไหม ทุกคนคาดหวังก็ได้นะ เพราะว่าจอที่โรงแรมใหญ่มาก
ใบเตย : ไม่ดีมั้งพี่ปั๊บ
ปั๊บ : เตยไม่ต้องคิดมาก เพราะว่ายังไงเตยก็ไม่เห็นเพราะเราหันหลังให้จอ(หัวเราะ)

ภาพพรีเวดดิ้งเป็นสไตล์สบายๆ ไม่ได้เป็นทางการ
ปั๊บ : “คือผมกับเตยที่ถ่ายรูปคู่เป็นทางการหลังจากซีรีส์ทิ้งไว้กลางทางเลยมั้งครับ ที่ถ่ายด้วยกันแล้วดูเป็นเรื่องเป็นราว การถ่ายพรีเวดดิ้งครั้งนี้เลยถือว่าเป็นงานล่าสุด ถามว่าสบายไหม เสื้อผ้าก็เป็นแบบสบายๆ แต่ก็เป็นโทนที่ผมไม่เคยถ่าย”

ใบเตย : “เรียกว่าเป็นพรีเวดดิ้ง ที่ไม่ได้เรียกว่าเป็นพรีเวดดิ้งจ๋า เน้นว่าเราได้ถ่ายรูปคู่กันจริงๆ จังๆ ในสตู เลือกชุดที่มีความกึ่ง ๆ ทางการนิดนึง ไม่ได้เป็นกระโปรงยาว
ปั๊บ : คิดว่าเดี๋ยวจะค่อยๆ เอามาแบ่งให้พี่ๆ เพื่อนๆ ได้ดู

“ปั๊บ” แต่งเพลงให้เจ้าสาว
ปั๊บ : “มีครับ มี (ใบเตยถามเพลงใหม่เหรอ) มีๆ แต่ไม่เซอร์ไพรส์แล้ว (หัวเราะ) คิดว่าก็มีอะไรพิเศษสักอย่างนึงแต่ผมยังเรียบเรียงออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ขอไปจัดสรรอีกนิดนึง”
ยังไม่แพลนมีลูกขอทำงานก่อน
ปั๊บ : “ถ้าก่อนหน้านี้คิดว่าจะต้องมีลูกกัน มีเบบี้ ปล่อยชีวิตไปตามธรรมชาติ แต่ว่าพออย่างช่วงที่ผ่านมามันมีช่วงที่เราต่างคนต่างทำงานด้วยพอจัดการเรื่องแต่งปุ๊บผมก็รีบกลับไปทำงานต่อเตยเองก็ต้องรีบไปทำงานเหมือนกัน”
ใบเตย : “ต่างคนต่างทำงานก่อนแล้วเดี๋ยวเรื่องมีเบบี๋ค่อยว่ากัน”

ปั๊บ : “ตัวผมเองอยากมีนะ เตยอยากมีไหม”
ใบเตย : “อยากมีค่ะ แต่ก็อยากจะทำงานอีกสักพักนึงก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันให้ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางก่อน อันนี้คือเตยขอพี่ปั๊บ” (หัวเราะ)
ปั๊บ : ได้ๆ ผมว่าผมยัง ยังได้อีก (หัวเราะ)

ยังไม่มีแผนไปฮันนีมูนเพราะเที่ยวกันมาเยอะแล้ว
ปั๊บ : “ไม่น่ามี”
ใบเตย : “ยังไม่มีตอนนี้ต้องกลับไปทำงานก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากันไม่รีบเที่ยวมาเยอะแล้วจริงๆ”

คบกันมาเกือบ 5 ปีแล้ว ตอนนี้ “ใบเตย” เริ่มเตรียมตัวเป็นแม่บ้าน ทำกับข้าวให้ “ปั๊บ” ทาน
ปั๊บ : “เตยเริ่มทำกับข้าวแล้วครับ อาทิเช่น ที่ผมกินมาติดกัน ก็จะเป็นไข่ข้น กับขนมปัง (หัวเราะ) มันง่ายอะนะ แต่โอเคแล้ว เพราะผมเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมาทำกับข้าวให้ ไม่ได้ซีเรียสเลยครับ อยู่เป็นเพื่อนๆ กัน”

เตย : “ไข่เจียว ไข่ตุ๋น ก็เป็นเมนูโละตู้เย็น อย่างเวลารีบๆ เราก็ไม่ได้คิดว่าจะไปกินที่ไหน เปิดตู้เย็นมีอะไรก็รวมๆ เหมือนแกงโฮะ (หัวเราะ)

ปั๊บ : “คือช่วงที่ไม่ได้ออกไปไหนเยอะ เราก็จะซื้อของเข้าบ้าน แล้วก็มีเพื่อนๆ เตยส่งมาให้ชิมบ้าง เราก็เลยเอามาผสม”

ความประทับใจซึ่งกันและกัน
เตย : “พี่ปั๊บพูดตั้งแต่วันแรกที่คบกันว่า เหมือนเขาจะทำทุกวันให้มันดีที่สุด ต่อให้จะแต่งงานหรือว่าอะไร เขาก็ยังจะเป็นเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกที่คบกัน อันนี้คือสิ่งที่เขาพูดเอาไว้ตั้งแต่วันแรกที่คบกัน ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เขาสม่ำเสมอและเสมอต้นเสมอปลายในเรื่องของความรู้สึก ก็ยังเหมือนเดิม และก็คิดว่าหลังแต่งงานไปด้วยความที่เขาเป็นยังนี้ตั้งแต่แรก ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่แค่ในสถานะของการใช้ชีวิตอาจจะเปลี่ยนไปว่า ในเรื่องของครอบครัวก็คงต้องอัปเวล ประมาณนั้น”

ปั๊บ : “ก่อนหน้านี้ไม่คิดว่าจะมีบุตรด้วย มันไม่ต้องใช้เหตุผลเยอะ เวลาจะเลือกชีวิตคู่ใครสักคนหนึ่ง มันเป็นแค่เซนส์และก็สัญชาตญาณล้วนๆ เพราะสุดท้ายแล้วที่ผมบอก ผมเต็มที่ตั้งแต่แรกคือเราใส่ความรู้สึกไปทั้งหมด ไม่ได้กั๊กว่าเอ่อ เราไม่ได้สมรสกัน งั้นตรงนี้เราไม่ต้องคิด หรืออะไรยังงี้ เพราะไม่งั้นเราไม่รู้ว่ามันจะเป็นไง ก็ใส่ให้มันเต็มที่”

“ก็คือเต็มที่กับชีวิตความรัก และผมเองก็คิดว่าเรายังต้องเรียนรู้กับชีวิตความรักไปจนแก่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ได้คิดว่าเธอคือแม่ของลูกฉันแล้วเหมาะสม เพราะผมคิดว่าตัวผมเองและตัวเขาเองก็ต้องมีการปรับปรุงตลอดเวลา จนถึงทุกวันนี้ก็ยังต้องปรับ ผมก็คิดว่ามันสนุกดีที่จะมีใครสักคนเข้ามาเป็นบัดดี้ในชีวิตสักคน อย่างผมก็เพิ่งเรียนรู้ว่า จริงๆ แล้วเราสามารถแสดงความอ่อนแอได้ ให้กับคนที่เรารู้สึกว่าเขาพร้อมเป็นที่พิงให้เรา ไม่ใช่ว่าเป็นผู้ชายแล้วโดนปลูกฝังว่าต้องสตรอง เหมือนสลับกัน เลยคิดว่าตรงนี้แหละถือเป็นเรื่องใหม่ในชีวิตของผม หลังจากที่เป็นทางการขึ้น”


















กำลังโหลดความคิดเห็น