“ซาร่า” ร่ำไห้ เผย“ไมค์” ลดเงินค่าเทอมลูกให้เหลือปีละ 100,000 และให้ย้ายไปอยู่คอนโดเช่าเดือนละ 4,000 ห้องกว้าง 22 ตร.ม. แถมโดนตัดน้ำตัดไฟ เพราะเจ้าของห้องบีบให้ออก ลั่นไม่ยอมให้ปกครองร่วม ความเป็นพ่ออยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่อยู่ในกระดาษ ตอนนี้เอาลูกย้ายไปเรียนที่ภูเก็ต ออกค่าใช้จ่ายเอง ถ้าจะจ่ายก็จ่าย ไม่จ่ายก็แล้วแต่ ไม่ตอบท้องลูกอีกคนจริงหรือไม่ บอกไม่เกี่ยวกับรูปคดี
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นของคนในวงการบันเทิงที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เรื่องที่หนุ่ม “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล”จู่ๆ ก็ออกมายื่นคำร้องต่อศาลขอสิทธิ์ปกครองลูกร่วมกับ “ซาร่า คาซิงกินี”จากนั้นก็โดนทัวร์ลงชุดใหญ่หาว่าทำไมเพิ่งจะมาขอใช้สิทธิ์ตอนนี้ ทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก ทำให้ไมค์ต้องออกมาโพสต์ขอความเห็นใจร่ายยาว ว่า ตั้งแต่เหตุการณ์ซาร่าตั้งท้อง รับผิดชอบค่าเลี้ยงดูไปเกือบ 10 ล้าน ไปจนถึงการยื่นขอรับรองบุตรตั้งแต่แรกแต่ถูกซาร่าปฏิเสธมาตลอด กระทั่งล่าสุดไม่ได้เจอลูกมาหลายเดือน ทำให้ต้องออกมายื่นศาลขอปกครองร่วม
ล่าสุด วันนี้ (16 ก.ย.) ซาร่า พร้อมกับทนายวนิดา แซ่ก๊วย ได้มาเปิดใจถึงเรื่องนี้ครั้งแรกผ่านรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 โดย ซาร่า เผยว่า
“แยกทางกับไมค์ 6 ปีกว่าๆ แล้ว ก็มีบางช่วงแรกๆ ที่เขาไม่ได้ช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูตอนช่วงที่ยังมีปัญหากัน แต่พอคุยกันลงตัวเขาก็ช่วยมาเรื่อยๆ แต่เราไม่เคยคุยกันเรื่องการรับรองบุตร เมื่อ 5 ปีที่แล้วเรามีปัญหาเรื่องนี้ผ่านสื่อกันเป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ ตอนนั้นเขาบอกว่า รับรองบุตรแล้ว แต่มันไม่เคยเกิดขึ้น และเขาก็ไม่เคยขอปกครองบุตรก่อนหน้านี้ และไม่เคยพูดกันเรื่องนี้ คือเขาควรคุยกับเราดีๆ ก็ได้ แต่วันนึงแม่หนูก็เดินมาพร้อมกับหมายศาลที่ส่งมาที่บ้าน”
“ที่ไมค์บอกไม่เจอลูก 5 เดือนไม่จริง เมื่อเดือน ก.ค. ยังไปเบิร์ธเดย์ลูกอยู่เลยที่คอนโด แต่ไม่ได้เอาเค้กอะไรมา แต่งตัวเป็นสไปเดอร์แมน เขาก็เจอกันและลงในไอจี เขาอยากเจอลูกเมื่อไหร่ได้ตลอด แต่ถ้าวันไหนเราไม่ว่างเขาก็เข้าใจ ไม่เคยพาลูกหนีอย่างที่เขาบอกค่ะ และทุกๆ วันเกิดลูก เราจะอยู่ที่ภูเก็ตอยู่แล้ว แต่จะฉลองก่อนหน้านั้นที่กรุงเทพฯ หนูจะหนีทำไม เขาบินไปหาก็ได้แค่ภูเก็ต”
“ที่ยังไม่ยอมให้เขารับรองปกครองบุตร เพราะเขามาขอลดคุณภาพชีวิตลูก ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย คือ เราไม่มีที่อยู่ที่กรุงเทพฯ เขาก็หาให้ เป็นคอนโดพี่แซน พี่ชายเขา แต่วันนึงเขาบอกไม่ไหวที่จะจ่าย เพราะเป็นช่วงโควิดด้วย เราก็มาคุยกัน แต่ก็มาบอกอีกว่าเป็นของคนอื่น มาทราบว่าทีหลังว่าพี่แซนจะขายคอนโด เขาเลยให้ย้าย แต่ทุกอย่างที่เขาลดเราเลยคิดว่า ขอกลับไปบ้านที่ภูเก็ตดีกว่า เพราะเขาจะให้ไปอยู่ห้องเช่าเดือนละ 4,000 ขนาดห้อง 22 ตร.ม. เราสงสารลูก (ร้องไห้) ที่ภูเก็ตก็มีที่กว้างให้วิ่งเล่น ทำไมต้องลดคุณภาพลูกไปอยู่ในห้องแค่นั้น เราคิดว่าโอเคเราคุยกันไม่รู้เรื่อง ปัญหาหลักๆ ไม่ใช่เรื่องเงินไม่ใช่แค่นั้น เพราะซาร่าไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย”
“ส่วนเรื่องโรงเรียนลูก ให้ลดเหลือปีละ 100,000 เลยคิดว่าไม่เป็นไร เรามีกำลังอยากจะให้ลูกเรียนที่ดีๆ คือ ปกติที่เรียนปีที่ 1 มัน 5 แสน ปีที่ 2 ก็ 6 แสน ปีที่ 3 ก็ 7 แสน ไมค์จ่ายให้หมด ไมค์มีสิทธิ์ที่จะให้ลูก แต่ถ้าวันนึงไม่ไหวเขาจะไม่ให้ก็ได้ แต่ตอนนี้ลูกย้ายไปเรียนที่ภูเก็ตแล้ว ค่าเทอมเท่ากัน เราเป็นคนจ่ายเอง ถ้าเขามีสิทธิในการปกครองลูกแล้วต้องลดคุณภาพชีวิตลูกลงเราไม่เอา เราขอเลี้ยงลูกเองดีกว่า ที่ผ่านมาเขาก็ส่งเสียตามที่เขาแจงไว้ ส่วนนึงใช่ ส่วนนึงไม่ใช่ ที่ไม่จริงคือตัวเลขไม่ตรง ค่าเรียนไม่ใช่ 8 แสนอย่างที่ไมค์ลง”
“ไม่ได้คุยกับไมค์ตั้งแต่หมายศาลมาที่บ้าน เดือน ก.ค. ที่เขาบอกเราไม่คุย ไม่ตอบ ไม่อ่านไลน์ไม่จริง แต่ถ้าหลังจากหมายศาลมาคือมีไม่ตอบ ไม่อ่านบ้าง เพราะเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
“เขามีสิทธิในการเป็นพ่อทุกอย่าง แต่ให้สิทธิในการปกครองไม่ได้จริงๆ เพราะส่วนใหญ่เขาอยู่จีน เวลาเราจะทำเอกสารต้องรอพ่อเขามาเซ็นยินยอมด้วย แล้วด้วยความที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ว่าง 24 ชม. ซาร่ามองว่าลูกจะมีปัญหา เช่นเขาต้องไปที่นี่ๆ เขาต้องมานั่งรอพ่อเขา มันทำให้ระบบชีวิตลูกรวน แล้วที่ผ่านมาเราตัดสินใจเรื่องลูกด้วยกันมาตลอด ไม่ใช่เราตัดสินใจฝ่ายเดียว เราโอเพ่นมากกับไมค์เรื่องนี้ ความเป็นพ่ออยู่ที่การกระทำไม่ใช่กระดาษ เขามีสิทธิ์เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอด 6 ปี ลูกจะรักเขาไม่ใช่กระดาษ แต่อยู่ที่การกระทำ และเวลาทุกอย่างที่เขาจะให้ลูกเอง”
ไม่ตอบเรื่องที่มีข่าวว่าท้องลูกคนที่ 2 กลัวกระทบรูปคดี
“ที่ต้องตรวจดีเอ็นเอตอนแรก เพราะผู้ใหญ่ฝั่งไมค์ขอตรวจดีเอ็นเอ แต่ตอนนี้ซาร่าขอไม่ตอบข่าวลือที่ว่าท้อง เดี๋ยวจะกระทบรูปคดี ขอพูดอีกครั้งทีเดียวเมื่อทุกอย่างพร้อม ยอมรับเป็นรูปหนูจริง ไม่คิดปิดบัง แต่ขอพูดทีเดียว”
เผย “ไมค์” อยากให้เป็นข่าว
“เรื่องนี้อยากให้จบที่ลูกได้ผลที่ดีที่สุด เป็นเรื่องที่ซาร่ากับไมค์มีปัญหามาเป็นปีแล้ว และคนที่อยากให้เป็นข่าวคือไมค์ ซึ่งซาร่าเป็นฝ่ายเงียบมาตลอด คนที่จะต้องเจ็บที่สุดคือลูก แต่พอมันเป็นข่าวแล้วซาร่าต้องออกมาปกป้องสิทธิทุกอย่างของลูก”
โดนตัดน้ำตัดไฟ บีบให้ออกไปอยู่ที่อื่น
“ที่บอกว่าถูกตัดน้ำตัดไฟจริงค่ะ เจ้าของห้องทำเพื่อจะให้เราออกไปอยู่ที่อื่น เรื่องที่ให้คนอื่นไปอยู่แทนไม่จริง แต่เป็นญาติที่ไปช่วยขนของ ไมค์คงจะไปเจอ แล้วอาจจะเข้าใจผิด แต่ก็แจ้งไมค์แล้วว่าจะมีคนไปขนของ จะเข้าไปดูมั้ย เขาก็ไม่เข้าไป”
“ยอมรับว่า มีคนเข้ามาในชีวิตเรื่อยๆ ซาร่าก็อยากมีครอบครัวใหม่ อยากทำครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่เราก็ต้องดูความรู้สึกลูกด้วย ตอนนี้ลูกก็แฮปปี้ดี เราไม่ได้เอาเรื่องราวต่างๆ ไปบอกลูก”
กล้าเผชิญหน้า “ไมค์” ออกรายการ
“จริงๆ เรื่องทุกอย่างเราคุยกันเองก็ได้ และหนูไม่กลัวถ้าฝั่งไมค์จะโต้มาอีกแบบ เขาเคยบอกว่า เราไม่ต้องคุยกันอีกแล้ว ซาร่าก็เลยไม่คุยกับเขาอีกเลย หนูกล้ามานั่งคุยพร้อมกับไมค์นะคะ หนูไม่มีปัญหา ถ้าเขากล้า หนูก็กล้า”
ทนาย วนิดา แซ่ก๊วย เผยว่า ถ้า “ไมค์” มีสิทธิ์ปกครองบุตร ทุกอย่างจะต้องได้รับความเห็นร่วมจากไมค์ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาด้านนิติกรรม
“ถ้าไมค์ได้เซ็นปกครองบุตร เขาจะมีสิทธิในการที่จะไม่ยินยอมในการเซ็นเอกสารอะไรต่างๆ ได้ แต่อยู่ๆ มีหมายศาลมาที่บ้าน เขายื่นเรื่องขอปกครองร่วม ถ้าทำนิติกรรมต่างๆ มีปัญหาแน่นอน ถ้าซาร่าจะพาลูกไปหาตาที่ต่างประเทศก็ไปไม่ได้ถ้าไมค์ไม่ยินยอม ต้องขอผ่านไมค์ทุกอย่างนี่คือปัญหา และถ้าไปเรียนที่ภูเก็ตถ้าไมค์มีสิทธิปกครองแล้วเขาก็มีสิทธิที่จะไม่ให้เรียนด้วย เขาไม่สมควรรับสิทธิปกครอง อยากให้เขารับผิดชอบเรื่องการเรียน เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ การเดินทาง ค่าพี่เลี้ยง”
“เรื่องที่ว่าซาร่าท้องไม่เกี่ยวกับคดี เพราะไมค์ไม่เคยบอกว่าซาร่าเป็นภรรยาอยู่แล้ว ถึงจะไปมีแฟนใหม่ก็ไม่ผิด แต่ซาร่าดูแลลูกเป็นอย่างดีไม่เคยบกพร่อง ไม่เกี่ยวกันกับท้อง”