“ไมค์” ร่ำไห้ เปิดใจ ที่ผ่านมาดูแล“ซาร่า” และลูกทุกสิ่ง ทั้งจ่ายค่าเทอมปีละ 8 แสน ให้เงินเดือนละ 3-4 หมื่น จ่ายค่าที่พัก จ้างพี่เลี้ยงยันคนขับรถ พอโควิดงานหด ขอลดเงินกลับมีปัญหา ไม่ให้เจอลูก เผยขอรับรองบุตรมาตลอดกลับโดนบ่ายเบี่ยง ยันอยากมีส่วนปกครองลูก ไม่ได้พรากลูก
หลังจากที่เมื่อช่วงเช้า “ซาร่า”ออกมาเปิดใจถึง “ไมค์ พิรัชต์”ว่า ถูกลดเงินค่าเทอมลูก และให้อยู่ห้องเช่าเดือนละ 4,000 บาท โดนตัดน้ำตัดไฟ บีบให้ออกจากคอนโด และอีกสารพัดเรื่อง พอตกเย็นไมค์ ที่มาพร้อมกับ “ทนายเจมส์” ก็มาเปิดใจที่ช่อง 9 โดยไมค์เผยว่า
“ขอชี้แจงเรื่องว่าทำไมถึงต้องไปร้องต่อศาล ก็เพื่อให้ได้สิทธิ์บิดาโดยชอบทางกฎหมาย และปกครองลูก แค่ขอปกครองร่วมครับ และคำว่าพรากไม่น่าจะใช้กับกรณีนี้ได้ และไม่อยากให้แม็กซ์เวลล์เห็นว่าผมไปพรากเขาจากแม่ เพราะสิทธิ์ที่ขอแค่ต้องการเจอลูกได้ปกติ อยากมีสิทธิในตัวเขาไม่ใช่แค่ให้เงินอย่างเดียว ผมอยากเห็นเขาเจริญเติบโต”
“ผมไม่ได้เจอลูกมาสักพักแล้ว ครั้งสุดท้ายคือช่วง มี.ค. เพราะตอนนั้นผมติดกักตัว และไม่ได้เจอยาวมาจนช่วง ก.ค. ช่วงวันเกิดแม็กซ์และมีเหตุการณ์หลายอย่างซับซ้อน ผมต้องไปดักเจอลูกที่โรงเรียนหรือเจอใต้คอนโด (น้ำตาซึม)”
“เขาบอกว่าไม่ได้กีดกัน แต่การคุยกันหลังจากที่ไปคุยกันเรื่องปรับค่าใช้จ่าย มันก็เริ่มยากพอสมควร ส่วนเรื่องเวลาที่เขาว่าไม่ตรงกัน คือ มันมีเหตุการณ์ใหญ่ที่ผมไม่โอเค ที่ให้ผมไปรอเก้อที่สนามบิน ตอนนั้นผมบอกเขาว่าอยากไปรับลูกมาที่บ้านเพื่อฉลองวันเกิด ซาร่าก็บอกว่างั้นก็ให้มารับ แต่ไปๆ มาๆ ผมกลับไปรอเก้อคืออะไร คือเรื่องมันมีสะสมมาเรื่อยๆ มีรายละเอียดหลายอย่างที่สังคมอาจจะเห็นแค่นี้ แต่เจตนาล่ะคืออะไร ไม่ดูที่เจตนาเหรอ”
บอกช่วงโควิดเลยทำให้ทุกอย่างแย่หมด
“ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับซาร่าคือวันที่ 12 ก.ค. (น้ำตาซึม) ผมถ่ายรูปได้แว๊บนึงตอนที่ผมเห็นเขาอยู่อีกฝั่งถนน และส่งไปถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ถ้าคุยกันเองได้ใครอยากจะขึ้นศาล ใครอยากจะออกสื่อ ผมพิมพ์อะไรไปเขาก็ไม่ตอบ เรื่องที่ผมถามบ่อยสุดคือเรื่องนี้ เรื่องโรงเรียน ผมเชื่อว่าทุกคนโดนเรื่องโควิดหมด ผมก็ต้องคิดถึงความมั่นคง เมื่อต้นปีผมไปปรึกษาเขาว่าจะเอายังไง ถ้าจ่ายปีละ 8-9 แสนมันไม่ไหว ถ้าผมไม่มีงานแล้วจะทำยังไง ให้ลองไปหาโรงเรียนใหม่ ผมก็เอาเวลาว่างไปดูโรงเรียนหลายที่ ซึ่งบางที่เขาก็ปิดรับไปแล้วเพราะคุยไปนานแล้ว ก็เหลือที่เดียวที่คิดว่าดีสุดตอนนี้ ก็เลยบอกว่าเลิศหล้ามั้ย 2 ภาษาไทย-อังกฤษ ค่าเทอมแสนห้า ผมไปดูด้วยตัวเองมันก็ไม่ได้แย่ เพื่อนฝรั่งก็แนะนำว่าดี ราคาก็สมเหตุสมผล สำหรับผมแล้วดูดีมาก แต่เขาเสนอประสานมิตร เขากับลูกอยากไปดูด้วยตัวเอง”
“ผมคุยกับเขาว่าแชร์มั้ยในสถานการณ์แบบนี้ เหมือนเขาจะรับฟัง แต่ผมก็ไม่เคยได้คำตอบ ผมเสียเงินกับเรื่องพวกนี้เยอะมาก ผมไปเอาลูกออกจากโรงเรียนจริง แต่ไม่ใช่ว่าผมจะเอาออกเพราะความสะใจ ผมก็ติดต่อที่โรงเรียนเขาก็บอกว่าวันนั้นเป็นวันสุดท้ายถ้าไม่เข้าเรียนจะเสียเงินประกัน 3 แสนเลย ผมก็รีบทำเอกสาร แต่ก็กลายเป็นว่าลูกหมดสภาพการเป็นนักเรียนที่ไบรตัน แล้วเขาก็พาลูกกลับภูเก็ต ผมก็ถามอยู่เรื่อยๆ จนโรงเรียนใกล้จะเปิด แล้วผมก็โทรไปถามทางโรงเรียนอีกว่าให้ลูกกลับเข้าเรียนได้มั้ย เพราะไม่งั้นก็เสีย 3 แสนละลายน้ำเลย”
บอกเลือกคอนโดให้หลายราคา แต่ไม่เคยได้คำตอบ
“เรื่องคอนโดที่ว่าผมให้ย้าย (ถอนหายใจ) คุณภาพชีวิตแล้วแต่แต่ละคนจะตีความหมาย เรื่องโรงเรียนคุณภาพชีวิตผมก็ดูแล้ว เรื่องคอนโดผมก็เสนอตรงเกษตรนวมินทร์ ค่อนข้างโอเคไม่แพง ผมก็ส่งไปตั้งแต่ 4,800 8,000 13,000 ถ้าผมอยู่ได้ ลูกผมก็น่าจะอยู่ได้ แต่ไม่เคยได้คำตอบ สิ่งที่ผมส่งรูปไปมีทั้งสนามเด็กเล่น มีฟิตเนส และผมไม่ได้บังคับว่าต้องไปอยู่ คุณชอบแบบไหน แล้วเราจะช่วยจ่ายกันยังไง”
“เรื่องคอนโดที่ว่าผมบีบ มันไม่ใช่คอนโดผม เป็นคอนโดพี่ชายว่าขอให้หลานอยู่ ผมขอจ่ายค่าเช่าถูก ก็ไม่มีปัญหา แต่พอช่วงโควิดทุกคนโดนผลกระทบ พี่ผมทำธุรกิจห้องเช่า คนไม่จ่ายค่าเช่า ห้องว่าง ก็เลยเป็นทางเลือกเดียวที่ว่าเขาต้องปล่อยห้องนี้ ผมก็ไปคุยกับซาร่าหาคอนโดให้ใกล้โรงเรียน ก็ให้เวลาเขา จนถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าเรื่องคอนโดจะเอายังไง พอรู้ว่าเขากลับภูเก็ต ผมก็เข้าไปที่คอนโดดูสภาพห้อง ก็เห็นมีเงาคน เลยเคาะ ก็เจอผู้ชายอายุ 40 กว่า ไม่รู้มาทำไม ตอนหลังทราบว่าเป็นคนขับรถ แต่เป็นคนละคนกับที่ผมจ้างให้ คนนี้น่าจะเป็นสามีของพี่เลี้ยงลูก ผมก็บอกเรื่องนี้กับพี่ชายเขาก็เลยตัดคีการ์ดและตัดน้ำ เพราะเขาก็กลัว แต่เขาตัดแค่ 5 วันเท่านั้น ซาร่าเขาแจ้งว่าจะมีคนมาขนของจริง แต่เขาแจ้งวันนั้นเลย แต่ที่ผมเห็นคือคุณมาอยู่กันแบบสามีภรรยา พี่ชายผมก็ตกใจ ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ได้คำตอบ”
“เขาเลิกคุยกับผมตั้งแต่ 12 ก.ค.ก่อนที่จะได้หมายศาลนะครับหมายศาลได้ 18 ก.ค.เจอเขาล่าสุดตอนที่ไปรับลูกที่โรงเรียนช่วงนั้นกำลังจะปิดเทอม”
“มันมีรายละเอียดเยอะ (น้ำตาซึม) ผมไม่อยากจะพูดเพราะมันจะกระทบกับลูก ที่ผ่านมา ก็คุยกันดีมาตลอด ผมไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่พอผมไปขอลดตรงนั้นตรงนี้ก็เริ่มมีปัญหา มีคำถามเยอะมาก และผมอยากได้คำตอบ ผมอยากรู้ว่าลูกผมเรียนที่ไหน”
บอกทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายเยอะไม่ใช่แค่เรื่องลูก
“เรื่องค่าเทอมที่ผมจ่ายประมาณ 2 ล้าน เป็นเลขกลมๆ ผมจ่าย 100% ตั้งแต่คลอดออกมาวันแรกก็จ่าย 4 แสนกว่าค่าคลอด แต่ไม่มีลายลักษณ์อักษร แต่ก็มาคุยกันตอนหลังว่าผมอาจจะจ่ายได้ไม่เยอะ ก็ให้เดือนละ 3 หมื่นบ้าง 5 หมื่นบ้าง ค่าพี่เลี้ยง ค่าคนรถ ค่าประกัน ค่าโรงเรียน ค่าประกันชีวิต ค่าจัดงานวันเกิดทุกครั้ง เงินอีกเดือนละ 3-4 หมื่น อื่นๆ อีกมากมาย ผมฝากเงินประจำให้ลูกเดือนละหมื่น ถ้าเขาโตขึ้นเขาจะมีเงินก้อนนี้อยู่แน่นอน ต่อให้ผมลำบากแค่ไหนผมจะไม่แตะเงินก้อนนี้ของลูก”
“ผมโอเคตั้งแต่วันที่เขาคลอดออกมาแล้ว มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผมจะไม่เซ็นเอกสารใบนี้ แค่รับรองบุตร เอกสารใบนึงสำคัญกว่าการกระทำเหรอครับ (น้ำตาซึม)”
“6 ปีที่ผ่านมาเกือบ 10 ล้าน แต่ผมไม่มีสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับลูกได้พอสมควร ผมไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายของลูกทั้งหมด ผมต้องจ่ายทั้งบริษัทต่อปีเกือบ 10 ล้าน แต่ถึงมีปัญหากันผมก็ยังจ่ายเดือนละ 3หมื่นต่อเนื่องมาทุกเดือน และถ้าเขาเอาลูกไปเรียนที่ภูเก็ตแล้วที่ผมโอนไปนี่คือเงินอะไร ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.ผมก็ตัด เพราะเขาไปออกงานออกรายการรายได้เยอะกว่าผมอีก มันมาช่วยกันไม่ได้เหรอ แต่เขาบอกเขาไม่มี”
“เขาบอกผมไปแตะเรื่องโรงเรียนของลูก ลูกก็โทร.มาบอกว่าแม็กซ์เวลล์ไม่อยากย้ายโรงเรียน ทำไมไปสื่อสารแบบนั้นกับลูก วันนึงพูดกันดี แต่อีกวันนึงบอกว่าไม่อยากเจอแด็ดดี้แล้ว เขาไปรับข้อมูลอะไรมา เกิดอะไรขึ้นกับลูกผม”
ที่ไม่จดรับรองบุตรแต่แรกเพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาขนาดนี้
“ที่เขาบอกว่าไม่เคยคุยกันเรื่องรับรองบุตร อันนี้ผมไม่เคยติดเลย แต่เขาไม่ให้เซ็นบอกว่ารอให้ลูกโตก่อนและตัดสินเองว่าผมควรจะเป็นพ่อหรือเปล่า เมื่อก่อนผมก็รู้สึกว่าเป็นแค่กระดาษใบเดียว และผมไม่รู้กฎหมายในตอนนั้น ก็บอกว่าไม่เป็นไร ผมคิดว่าจะไม่เป็นไร (น้ำตาซึม) คิดว่าสังคมจะเข้าใจผมไปทำงานต่างประเทศ แปลว่าผมไม่ดูแลเหรอไม่รักลูกเหรอ (ร้องไห้)”
“เขาบอกให้สิทธิเราเป็นพ่อ แต่ไม่ให้สิทธิการปกครองร่วม เขาก็เคยมาขอให้ผมเซ็นเอกสารนะ ผมก็ยังเคยส่งอีเมลให้เขา ไม่เห็นมีปัญหา แต่นี่มันเป็นเรื่องอนาคต ผมไม่มีสิทธิไปกีดกันไม่ให้เขาเจอลูก เราเอาอนาคตมาพูดทำไม ที่ผ่านมา เคยมีแค่ครั้งเดียวเรื่องเอกสาร เขาจะไปต่อพาสปอร์ตลูกในช่วงที่โควิดระบาดที่สุด ความเสี่ยงเยอะสุด คิดว่าผมจะปล่อยมั้ย ไม่ใช่ผมจะไม่ให้ แต่รอให้โรคมันจางก่อนได้มั้ย แต่เขาต้องการ ผมก็อยากถามว่าทำไมต้องรีบไปตอนนั้น เอาเรื่องโรงเรียนลูกก่อนมั้ย”
“ถามว่าใจอยากเอาลูกมาเลี้ยงเองมั้ยไม่มีครับลูกต้องการพ่อและแม่จะขาดใครไม่ได้”
“ข่าวที่ว่าเขามีลูกอีกคนผมไม่ขอยุ่งไม่ใช่เรื่องของผม”
ทนายเจมส์ “จริงมั้ยเราไม่รู้ ตอบแทนเขาไม่ได้ แต่เรายื่นก่อนจะมีข่าวออก ไม่เกี่ยวกัน ถ้าเขาจะมีครอบครัวก็เรื่องของเขา การยื่นคำร้องขอเป็นพ่อตามกฎหมาย ลูกไม่ได้เสียผลประโยชน์ มีแต่พ่อที่เสียเงิน นี่คือทำเอกสารเพื่อมัดตัวไมค์ด้วยซ้ำ แต่อำนาจการปกครองบุตรต้องให้ศาลพิจารณา แต่ส่วนใหญ่ศาลจะอนุญาตให้ปกครองร่วมกัน ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าไมค์เป็นผู้ปกครองและปกครองร่วม ไม่มีว่าขอมีสิทธิ์ดูแลฝ่ายเดียว ถ้าคุยกันได้เองมันจบไปนานแล้ว แต่ไม่มีที่ให้คุยกัน”
ไมค์ “ผมไม่เห็นประโยชน์ในการพูดที่มันจะดีกับลูกเลย เพราะมันจะมีแต่คนที่เจ็บปวดพังกับพัง ผมรู้ว่าใครเป็นยังไงและสิ่งที่ดีที่สุดคือการเงียบ ผมไม่ต้องสนใจก็ได้ แค่หาเงินเลี้ยงลูก เลี้ยงครอบครัว เลี้ยงพนักงาน เลี้ยงตัวเอง จะมาต่อสู้กันมันได้อะไร รู้สึกชนะจริงๆ ใช่มั้ย”
วอนทั้งน้ำตาอน่าดึงถึงครอบครัว ขอให้ด่าตนแค่คนเดียว
“ด่าผมผมไม่ว่า แต่ด่าถึงครอบครัวผม (ก้มหน้าร้องไห้) ในสิ่งที่พ่อแม่ผมไม่ได้ทำ ไม่ได้พูด น้องสาวผมก็โดนไปด้วย ทั้งๆ ที่น้องสาวผมเป็นคนดี แต่ทุกคนก็อดทน และผมก็ขอโทษครอบครัวผม ที่ผมลากมาเจอปัญหาอะไรก็ไม่รู้ ที่ทำให้มันพังแบบนี้ที่ ทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องมามีปัญหาไปด้วย ทั้งๆ ที่เป็นความเหลาะแหละของผม แต่ไม่ใช่ว่าผมจะต้องผิดพลาดไปตลอดชีวิตนี่ ต้องแก้ไขเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้ ผมขอให้ด่าผมคนเดียว แต่อย่าด่าถึงครอบครัวผม”
“อยากจะบอกอะไรลูกเหรอ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ แด็ดดี้เป็นดารา ยังไงก็ต้องเจอแบบนี้ ยังไงเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แต่ไม่อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้แม็กซ์เอาไปเป็นปม แด็ดดี้และแม่รักลูกอยู่แล้ว ปัญหาของผู้ใหญ่ก็ต้องแก้ให้จบ อย่าไปน้อยใจ หลังจากนี้แด็ดดี้อยากให้แม็กซ์รู้ว่าไม่ว่าใครจะพูดยังไง ให้รู้ว่าวันนี้จนวันตายแด็ดดี้ก็รักลูก ต่อให้ลูกจะพูดอะไรที่ไม่เป็นคำพูดของตัวเอง ก็ไม่ถือสา ถ้าวันนึงแด็ดี้ไม่ได้อยู่กับลูก (ร้องไห้) ที่ตรงนี้ยังเป็นของลูกเสมอ ยังกลับมาหาได้เสมอ”
“เจอได้ไม่มีปัญหา ไกล่เกลี่ยกันได้ คุณต้องการอะไรมาคุยกันในบรรทัดฐานแบบพอดี ผมอยากเคลียร์หลังบ้านไม่งั้นจะเก็บเงียบทำไมหลายปี จบยังไงก็ได้ให้ดีต่อลูก ผมต้องการแค่ได้เจอลูก มีสิทธิ์ตัดสินใจในตัวลูก เรื่องค่าใช้จ่ายให้มันพอดี เด็กคนนึงใช้ถึง 3 หมื่นเหรอ ผมยังใช้ 1.5หมื่นเลย ตอนมีชื่อเสียงผมก็ใช้แค่นั้น ผมไม่รู้เลยว่าปัญหาอยู่ตรงไหน ผมไม่คิดแค้นซาร่าเลย แต่ผมสงสารลูกอยากให้จบเร็วที่สุด”
“ฝากอะไรถึงซาร่าเหรอครับ ไม่มีอะไรจะบอกผ่านสื่อครับ ให้ไปคุยภายใน อย่างแรกตอบไลน์ก่อน ถ้าเขาจ่ายค่าเรียนลูกได้ก็ยินดี แต่มันไม่ใช่ประเด็น อยู่ที่ลูกเรียนอยู่ที่ไหนมากกว่า”
