หลังจากที่ “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” ประกาศผ่านรายการแฉ ว่าหลังจากนี้ “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” หรือ “ติ๊ก กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ” ไม่มีโอกาสกลับมาเป็นภรรยา แต่ยังให้สิทธิทำหน้าที่แม่ เพราะไม่มีใครแทนที่หน้าที่นี้ได้ แต่ติ๊กต้องปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ต้องเลิกการพนันให้ได้
ล่าสุด วันนี้ (11 ก.ย.) ติ๊กได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บโชว์ ช่องวัน 31 ด้วยอาการน้ำตานองหน้า ร้องไห้สลับปล่อยโฮตลอดเวลา โดยเผยว่าถึงกับพูดกับตัวเองว่า “มึงนี่เจ๋งนะ ผ่าน 7 วันแรกมาได้ (ร้องไห้) ความรู้สึกเหมือนนั่งนับวัน แต่ละคืนผ่านไปยากมาก ไม่สามารถดูรูปลูกในไอจีได้เลย
พยายามขอพี่หนุ่ม เจอวีจิได้มั้ย ทำไมเจอไม่ได้ รู้ว่าพี่หนุ่มคิดยังไง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ก็เลยรอ เดี๋ยวบอกว่าได้เดี๋ยวไม่ได้ รอจนถึงวันศุกร์ แต่ก็เปลี่ยนอีกแล้ว เราเฝ้ารอทุกวันทุกคืน จนตัดสินใจกลับไปที่บ้าน เพราะรู้ว่าพี่หนุ่มไม่อยู่บ้าน มั่นใจว่าน่าจะเจอลูกได้ แต่ก็ไม่ได้เจอ
ติ๊กกดกริ่งตามมารยาทแล้วไม่มีคนเปิด ก็กดรัวๆ กดด้วยความร้อนรน แค่ลูกอยู่ตรงนี้ ขอเจอก่อนพี่หนุ่มจะกลับบ้านได้มั้ย เข้าไปเคาะประตู ข้างล่างไม่มีใครอยู่ ไปเคาะดังๆ แล้วตะโกนว่าให้เจอลูกหน่อย อยากเจอลูกมาก ทุบประตูแล้วตะโกนไป เหมือนคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ แต่ไม่ถึงสติแตกมาก ว่าหนูขอเจอลูกหน่อยไม่ได้เหรอ แต่ไม่มีคนตอบมาสักคน
สุดท้ายตำรวจมา หนูเลยถามว่าใครโทร.เรียกมา เขาบอกว่าเจ้าของบ้าน หนูบอกว่าหนูเป็นแม่คน ไม่ทำร้ายลูกอยู่แล้ว หนูรอมาหลายวันแล้ว ตำรวจเลยบอกว่าเข้าใจ แต่ต้องทำตามหน้าที่ จริงๆ เวลานี้เป็นเวลายามวิกาล มากลางวันสิจะได้ไม่ผิดกฎหมาย
หนูก็ไปกลางวัน หนูรู้ว่าพี่หนุ่มถ่ายละคร หนูก็เลยไป เห็นรถพี่หนุ่มก็คิดว่าพี่หนุ่มไปกับรถตู้กองถ่าย ก็กดกริ่งตามธรรมดา แต่มีการโทร.หาพี่เลี้ยงวีจิ เขาก็เปิดวิดีโอคอลว่าน้องหลับอยู่ เขาคงได้รับคำสั่งมา หนูบังคับให้เขายังไงต้องเอาลูกมาให้หนูเจอหน้า หนูไม่ไหวแล้วจริงๆ พี่เขาตัดสินใจอุ้มลูกมาให้ หนูยืนอยู่หน้าประตูรั้ว วีจิมาแป๊บเดียวไม่ถึง 2 นาที เขาก็ยิ้ม แต่จับลูกไม่ได้ (ร้องไห้โฮ) พยายามผลักกลอน แต่มันถูกล็อกจากข้างใน
พี่หนุ่มลงมาบอกว่าให้ไป ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจจับ หนูก็ขอร้อง นั่งคุกเข่า ลูกอยู่ตรงนี้ ขอกอด ขออุ้มหน่อยก็ได้ สุดท้ายหนูก็ออกไป หนูไม่ได้ไปเพราะกลัวตำรวจ หนูไปเพราะพี่หนุ่มกำลังจะต่อว่ายามหน้าหมู่บ้าน จะเอาเรื่องเขา หนูเลยถอยหลังว่าถ้าวันนี้ต้องผิดอะไร ยอมรับได้หมดอยู่แล้ว นิสัยจริงกล้ารับกล้าทำ กล้าเสี่ยง ถ้าหนูออกมา หนูอาจพูดความจริงไม่เคลียร์ไม่ชัด เพราะใจหนูมันยังไม่ได้ ไม่พร้อม ด้วยคำถามคำตอบ ทำให้หนูอธิบายไม่ได้ชัดเจน”
เผยตั้งใจพูดความจริงให้เป็นของขวัญหนุ่ม แต่อีกฝ่ายไม่ฟังแล้ว ยอมรับว่าโกหก พูดความจริงไม่หมด ลั่นในชีวิตนี้ไม่มีใครดีเท่าเขาแล้ว
“หนูขออนุญาตว่าบางอย่างหนูพูดไม่ได้ หนูไม่อยากพาดพิงถึงใคร หนูไม่รู้มาก่อน แต่ก่อนหน้านั้นวันที่ 19 มีการต้องพูดอีกรอบ มีปัญหาที่ต้องเคลียร์ ไปวัดนั่งเคลียร์ปัญหากับผู้ใหญ่สองฝ่าย วันนั้นร้อนกับร้อน ไม่มีใครเย็น หนูพยายามเย็นแล้ว รอจังหวะอธิบาย จังหวะพูด วันนั้นหนูต้องการพูดความจริงเพื่อเป็นของขวัญพี่หนุ่ม เจตนาหนูไม่เคยปิดบังโกหก ถ้ามองเจตนา พื้นฐานความรัก ความเมตตา ให้อภัยจริงๆ ต้องมองไม่ใช่ปัญหา ต้องมองว่าที่มาที่ไปตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เราสองคนเท่านั้นที่ปลอบใจให้กัน เป็นแรงกำลังใจกัน
วันนั้นหนูตั้งใจจะพูดความจริงทุกอย่างที่พี่หนุ่มอยากรู้ ทุกอย่างจริงๆ หนูยอมรับว่าบางอย่างหนูพูดไม่หมด บางอย่างหนูพูดโกหกจริง
หนูออกจากบ้านเพราะเรื่องเงินคอนเสิร์ต ติ๊กทำอย่างนั้นจริง ขอน้อมรับ ไม่ได้ยอมรับเพื่อหนีความผิด ติ๊กยอมรับตั้งแต่วันที่อยู่ที่วัดแล้ว ในชีวิตติ๊กไม่มีใครดีเท่าเขาแล้ว ณ วันนั้นที่ตั้งใจจะไปพูดที่วัด”
แจงเรื่องเงิน 300-500 หนุ่มได้มากก็ให้มาก ได้น้อยก็ให้น้อย 6-7 เดือนหลังให้เดือนละ 3 หมื่น และเคยให้มากกว่านั้น
“วันนั้นหนูขอโทษจริงๆ ไม่มีเวลาให้อธิบาย ตอนแรกๆ ที่เดินเข้ามาในชีวิตพี่หนุ่ม พี่หนุ่มไม่ได้มีงานปังเท่าตอนนี้ ต่อให้เขาไม่มีเงิน เราต้องกัดก้อนเกลือกิน หนูก็อยู่ หนูอยู่ได้ทุกสถานการณ์ ทุกสภาพ แรกๆ ให้ 300 บ้าง วางไว้ให้ บางทีก็ 500 ต่อวัน เขาให้บ้าง มีน้อยให้น้อย มีมากพี่เขาก็ให้มาก แต่ ณ วันนั้นไม่มีโอกาสได้อธิบาย
เราอยู่ร่วมกันมาเหมือนนาน แต่จริงๆ ไม่นาน อยู่กับพี่หนุ่มไม่ถึง 2 ปี ช่วงแรกๆ พี่หนุ่มให้อย่างนั้นจริงๆ เป็นระยะเวลาช่วงหนึ่งจริงๆ แต่ไม่ใช่ช่วงยาวๆ พอพี่หนุ่มมีงานเยอะก็ให้หมื่นนึงต่อเดือน ถ้าพี่หนุ่มได้เงินเยอะก็จะให้เยอะ 3 หมื่นตั้งแต่อยู่บ้านหลังนี้ก็น่าจะ 6-7 เดือน
บางเดือนพี่หนุ่มให้มากกว่า 3 หมื่นก็มี ถ้ามือถือหายก็ซื้อมือถือให้ จากเงินเขาเอง บางเดือนหลังๆ หนี้เก่าหนูยังมีอยู่ และไม่หมด หนูเลยเอาเงินไปผ่อน ช่วงโควิดที่โดนไป มีเพื่อนที่รวมกันและทวงเงินหนูในเวลาเดียวกันหลายๆ คน”
รับมีทั้งหนี้พนัน และไม่ใช่หนี้พนัน ร่ำไห้ไม่อยากเอาภาระให้หนุ่ม เลยไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด
“หนี้ส่วนหนึ่งไม่ได้เกิดจากพนันทั้งหมด หนี้ของหนูมาจากการฝากประจำของแบงก์ หนูไม่มีเงิน 2-3 ปี หนูก็ไปยืม แต่ปีสุดท้ายหนูขัดสนมากแล้ว หนี้สินตรงนี้พี่หนุ่มไม่ได้ทราบหมด เพราะตอนแรกหนูไม่ได้ตั้งใจมาเรื่องเงิน เราคิดว่าเราผ่อนหมดได้ด้วยตัวเอง ถ้าพูดถึง ความรัก (ร้องไห้) ถ้ามองคนนึง เราไม่อยากเอาภาระเราไปให้พี่หนุ่มทั้งหมด หนูไม่ได้บอกทั้งหมด บอกแค่ส่วนเล็กๆ”
ลั่นความจริงถึงหนี้สินที่มี 3.5 ล้าน
“หนี้สินตอนนี้น่าจะมี 2.5-3.5 ล้าน พอเรารับความจริงตรงนี้ มันก็เคลียร์โล่ง ปัญหาเรื่องเงิน เราต้องแก้เรื่องเงิน เรื่องทองลูกหนูบอกไม่ได้จริงๆ ว่าอยู่ที่ไหน หนูคิดว่าหนูมีสิทธิ์เก็บทองลูกได้ หนูขายทอง ได้กระทำทุกอย่างตามที่พี่หนุ่มพูด 8 เม.ย. หนูได้ซื้อทองมาให้ลูก แต่ล็อกเกตอันนั้นไม่ได้เอาไปขาย ที่มีปัญหา ถ้าไปถามพี่วิชัย (คนขับมอเตอร์ไซค์ที่พาติ๊กไปขายทอง) อีกรอบก็ได้ หนูเอาไปขายเหรอ
ตอนนี้ยอมรับได้หมด วันที่โพสต์ในไอจี หนูรับได้ คนสามารถด่าหนูได้ หนูสามารถยอมรับความผิดที่ทำกับพี่หนุ่ม คนที่ดีกับหนู แต่หนูอธิบายให้ชัดเจนไม่ได้ หนูขอแก้ตัว ยอมรับความผิดทุกอย่าง”
เผยเคยคิดอยากฆ่าตัวตาย เคารพการตัดสินใจ กลับไปเป็นเมียไม่ได้แล้ว
“ตอนออกมาค่ะ มันไม่มีบ้าน ไม่มีลูก (ร้องไห้) ตื่นมาไม่เจอใครสักคน ติ๊กอยู่คนเดียว กักบริเวณตัวเองยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ไม่ออกไปไหน อยู่ด้วยเสื้อผ้าชุดเดียวตอนออกมา (ร้องไห้) พี่เขาให้หนูเก็บของ แต่หนูคิดว่าไม่ร้ายแรงถึงขนาดนั้น
ส่วนเรื่องที่คุยกับทีมทนายพี่หนุ่ม หนูก็ต้องสืบว่าหนูจะได้รับข้อมูลจากใครเพื่อให้หนูเดาทางความคิดพี่หนุ่มได้บ้าง หนูอยากกลับไปอยู่ตรงนั้น อยากกลับไปอยู่กับวีจิ ถ้าความเป็นเมียเป็นไม่ได้แล้วไม่เป็นไร เคารพการตัดสินใจของพี่หนุ่ม แต่ความเป็นแม่ ขอให้หนูเป็นเถอะ (ร้องไห้)
แนวทางที่จะทำให้เจอหนู จากที่หนูประมวลเอง หนึ่งให้พูดความจริง ยอมรับความจริง หนูทำได้ แก้ไขปรับปรุงเป็นคนใหม่ กำลังทำอยู่ค่ะ และพี่หนุ่มไม่อยากผ่าแผลเก่าซ้ำๆ ให้เจ็บปวด คือไม่อยากให้ออกรายการพูดเรื่องซ้ำๆ ของตัวเอง ตอนแรกๆ หนูกังวล ไม่มีสติ กินข้าวไม่ได้ นอนไม่ได้ จะพูดอะไรได้บ้างก็ไม่รู้กฎหมาย พูดไปเดี๋ยวเขาจะโกรธ กลัวเขาไม่รักไม่ให้อภัย”
ออกรายการเพราะอยากให้เข้าหูหนุ่ม ศรราม
“ออกรายการเพราะอยากให้หนุ่มรับรู้ความรู้สึก แต่วอนอย่าใจร้อน กำลังไขปัญหาทุกอย่าง อยากให้เห็นว่าเปลี่ยนตัวเองได้ ติ๊กทำมาจากใจ ถ้าหนูผิดแล้วหนูไม่รู้สึกหนูจะไม่ขอโทษ แต่วันนี้หนูออกมา เพราะสิ่งที่หนูพูดไม่ได้เข้าไปอยู่ในหู ในความรู้สึกพี่หนุ่ม ถ้าหนูได้พูดออกสื่อ พี่เขาต้องได้เห็น นั่นคือสาเหตุที่ต้องออกมาในรายการในวันนี้ หนูกำลังจะเปลี่ยน แต่พี่หนุ่มอย่าใจร้อน ต้องเข้าใจหนูด้วย ปัญหาที่หนูต้องแก้ตัวคนเดียว มันหนักนะ ค่าเช่าห้องไม่มี ไม่มีค่าเลี้ยงดูจากพี่หนุ่มแล้ว แต่ไม่ได้เรียกร้อง จะยืนด้วยขาตัวเองให้พี่หนุ่มเห็นว่าหนูเปลี่ยนแล้ว เคลียร์หนี้สินตัวเองด้วย แต่ทองของลูกไถ่มาหมดแล้วค่ะ ทองอยู่กับหนู ซ่อนเอาไว้ที่ที่นึง
(ยกมือไหว้ขอโทษ) หนูขอโทษจากใจจริง สำนึกผิดจริงๆ (ร้องไห้) ต้องการอยากจะแก้ไขในสิ่งที่พี่หนุ่มอยากจะเห็นและบทเรียนครั้งนี้สอนให้หนูรู้ว่าจะไม่มีทางกลับมาทำอย่างนี้อีกแน่นอน เพราะอย่างน้อยก็จะทำให้หนูได้เจอลูก (ปล่อยโฮ) หนูอาจจะเป็นเมียที่ไม่ดีเท่าไหร่นะ แต่การเป็นแม่ของหนูน่ะ หนูขับรถไปคลอดวีจิเองแค่คนเดียวเลย ขอให้เห็นใจในความเป็นแม่ของหนูเถอะ ให้หนูได้เจอลูกเร็วๆ ขอแค่ครั้งเดียวต่อเดือนก็ได้”
อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมแต่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่อยากให้วีจิต้องอับอายมีแม่เล่นการพนัน
“ก็อยากจะบอกลูกว่าแม่อาจจะเป็นแม่ที่ไม่ดีในสายตาของพ่อของวีจิ แต่ในความเป็นแม่ที่แม่ดูแลวีจิมา และสอนวีจิไหว้ ทำให้วีจิเต้น ทำทุกอย่างเพื่อลูกตลอด แต่ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดที่แม่ไม่ตั้งใจจะให้มันเกิด ไม่อยากให้ลูกโตมาแล้วต้องอายคนอื่นว่ามีแม่เล่นการพนัน แต่จริงๆ มันน่าจะคุยกันได้ในครอบครัวคือหนูก็อยากจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก”
บอกปฏิเสธเงินจาก “เสี่ยโป้ อภิรักษ์ ชัยอานนท์” และคนที่จ้างเงินแสนให้ขึ้นงานก็ไม่เอา ขอรับงานสะอาด
“ตอบปฏิเสธเสี่ยโป้ไปแล้วค่ะ เพราะภาพนั้นมันคงไม่เหมาะกับเราแล้วค่ะ คือเขาจะให้ไปไลฟ์ว่าเล่นพนันยังไงอะไรแบบนี้ค่ะ ก็ไม่เอาแล้วค่ะ ส่วนที่มีคนจะให้เงินแล้วไปขึ้นงานเนี่ย ตอนแรกก็งงว่าขึ้นงานอะไร มีเข้ามาจริงๆ ค่ะ แต่ตอนนี้รู้แล้วค่ะ (หัวเราะ) เขาให้แสนนึง แต่ไม่เอาค่ะ ขอรับงานสะอาดอย่างเดียวค่ะ”