xs
xsm
sm
md
lg

คนแบบนี้ยังมีในโลก "ธัญญ่า" ทึ่งหัวใจ "ลุงวันเลิด" ต้นตำรับชาบูนางใน ไม่คิดค่าเฟรนไชส์สักบาท เพราะอยากช่วยคน!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คนแบบนี้ยังมีในโลก "ลุงวันเลิด" ต้นตำรับชาบูนางใน ไม่คิดค่าเฟรนไชส์แม้แต่บาทเดียว สอน - ให้สูตรด้วยใจ หวังช่วยคน แบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์จากกำไรทำบุญ - ช่วยรพ. ด้าน "เต้ย" มือโพสต์ยันไม่กลับไปกินร้านเดิม แต่วอนแยกแยะ ไม่เกี่ยวกับสาขาอื่น

รายการ "ถามสุดซอย" ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.20 - 23.15 น. ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล" เปิดใจสัมภาษณ์ "คุณแนน" เจ้าของร้านชาบูนางใน สาขากัลปพฤกษ์ ซึ่งออกมาโพสต์ปกป้อง "ลุงวันเลิด" ต้นตำรับร้านชาบูนางใน กรณีประเด็นร้อนที่กำลังกระหึ่มโซเชียล จนทัวร์ไปลงร้านชาบูนางใน

ทำไมออกมาปกป้องชาบูนางใน?
แนน : "อยากช่วยให้ทุกคนเข้าใจว่าร้านที่เกิดเหตุไม่ใช่ร้านต้นตำรับคุณลุง คือคุณลุงวันเลิด เป็นต้นตำรับชาบูนางใน เป็นผู้มีพระคุณของแนนเหมือนกันที่ให้โอกาสได้เปิดร้านชาบูนางใน ก็ไม่อยากให้ชื่อเสียงคุณลุงเสื่อมเสียค่ะ"

ลุงเลิดเป็นผู้ก่อตั้ง แต่ร้านที่เกิดเรื่องอยู่ใกล้ๆ กัน การได้เฟรนไชส์จากคุณลุง ต้องเสียเงินซื้อมั้ย?
แนน : "คุณลุงไม่ได้เก็บค่าเฟรนไชส์จากคนที่ไปขอเลย คุณลุงสอนทุกคนทุกอย่างด้วยใจล้วนๆ ให้ด้วยใจเลย คุณลุงช่วยคนมากกว่าค่ะ ย้อนไป 10 ปีที่แล้ว แนนได้ไปกินที่ร้านคุณลุง เมื่อปี 2552 คุณลุงเปิดร้านใหม่ๆ เป็นลูกค้าประจำ ไปทานบ่อยๆ และชื่นชอบอาหารคุณลุง จนต่อมาเริ่มรู้ว่าเริ่มมีการเปิดสาขาบ้างแต่ยังไม่เยอะ ก็เลยขอเข้าไปคุยกับลุงบ้าง ตกใจเหมือนกันที่คุณลุงไม่ได้คิดค่าเฟรนไชส์อะไรเลย คุณลุงให้มาเรียนที่ร้าน ฝึกทำทุกอย่าง และให้ชื่อร้านที่เป็นแบรนด์ที่คุณลุงสร้างขึ้นมา ให้สูตรทุกอย่างค่ะ"

ลุงใจดีมาก ไปคุยกับคุณลุงแบบไหน คุยบ่อยมั้ยกว่าจะได้รับเฟรนไชส์?
แนน : "หลายครั้งเหมือนกันค่ะ แล้วมีคนอื่นที่ไปขอเหมือนกัน ไปขอหลายคน ตอนหลังก็รู้จักหลายสาขาที่ไปขอพร้อมๆ กันในช่วงนั้น"

ตอนนี้มีกี่สาขา?
แนน : "80-90 สาขาได้มั้งคะ รวมต่างจังหวัดด้วย"

ทุกคนไม่ได้เสียตังค์เลย?
แนน : "ใช่ค่ะ"

ถ้าลุงเก็บค่าเฟรนไชส์ ลุงรวยมากนะ?
แนน : "ใช่ค่ะ แต่คุณลุงจะมีให้ตกลงกัน ว่าถ้าทำไปแล้วมีกำไร ก็แบ่งผลกำไรคืนกลับที่ร้าน 10 เปอร์เซ็นต์ ในส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ตรงนี้ คุณลุงเอาส่วนหนึ่งไปทำบุญตามรพ. ต่างๆ แล้วก็บอกว่าทุกคนก็จะได้เหมือนกัน คนที่มาทานที่ร้านก็จะได้บุญเหมือนกัน"

แล้วทุกสาขาเอา 10 เปอร์เซ็นต์มาให้ลุงมั้ย?
แนน : "แต่ละสาขาจะส่งไปให้คุณลุงกันเอง โดยที่เอาจริงๆ คุณลุงไม่เคยเรียกร้องค่ะ ไม่เคยมาเรียกร้องใดๆ ทุกคนจะทราบอยู่แล้ว คุณลุงเป็นผู้มีพระคุณ พอเราทำสรุปต่อเดือนเราก็ส่งไปให้คุณลุง"

การเปิดเฟรนไชส์ แล้วเรื่องวัตถุดิบ?
แนน : "คุณลุงจะสอนเราตั้งแต่แรก ลุงจะมีลิสต์ซัพพลายเออร์ให้เราทุกอย่าง ว่าอันนี้สั่งตรงนี้ อันนี้สั่งตรงนี้ ให้คอนแท็กมา แต่พวกผักสด คุณลุงก็บอกว่าให้หาเอาที่ใกล้ๆ เพื่อความสดของวัตถุดิบ ให้เลือกของที่ดีมีคุณภาพ อันไหนไม่ดีให้ทิ้งไปเลย อย่าเสียดายของ ให้เรายึดคตินี้มาตลอด น้ำซุปจะมีสูตรเฉพาะว่าต้องใส่อะไรบ้าง เท่าไหร่ เพื่อให้น้ำซุปมีความหอม โดดเด่น แตกต่างจากที่อื่น ส่วนน้ำจิ้มเป็นสูตรลับของนางใน รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ทานกับหมูสามชั้น หรือเนื้ออร่อยมากๆ อยากให้ลองชิมดูค่ะ"

แล้วเคยมีคนมาหาแนน อยากเปิดชาบู ขอสูตรบ้างมั้ย?
แนน : "มีคนมาถามบ้างค่ะ ซื้อสูตรมาหรือเปล่า ซื้อยังไง แต่ช่วงก่อนหน้านี้ต้องขอโทษทุกคน เรียกตรงๆ เลยว่าเราไม่ได้บอกใครไปเลยว่าเฟรนไชส์ฟรี เพราะเราเป็นห่วงคุณลุงด้วย ถ้าทุกคนรู้ ทุกคนก็จะแห่ไปหาคุณลุง เราบอกว่าเรารู้จักกับคุณลุง ลุงเลยเปิดโอกาสให้เราซะมากกว่า"

ลุงไม่หวงสูตร ให้ทุกเมนู โห ทำไมถึงมีคนดีแบบนี้ในสังคม คุณลุงน่ารักมาก?
แนน : "ลุงน่ารักจริงๆ ค่ะ"

ไปกินบุฟเฟ่ต์ทุกคนเลยมั้ย?
แนน : "จริงๆ ที่ร้านมีทั้งบุฟเฟ่ต์และตามสั่งค่ะ สมัยก่อนแนนเคยไปกินตามสั่ง เพราะคิดว่ากินน้อย แต่ปรากฎว่าบิลออกมาแพงกว่าบุฟเฟ่ต์ สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือคุณลุงคิดราคาให้เป็นบุฟเฟ่ต์ ส่วนที่เกินไปไม่คิด นี่เป็นสิ่งที่แนนประทับใจมาก"

เอาความใจดีของลุงมาใช้ที่ร้านตัวเองมั้ย?
แนน : "เคยเหมือนกันค่ะ ลูกค้ามากินที่้ร้าน ถ้าแนนไม่ได้อยู่ แต่เด็กอาจไม่ทราบ ตอนนั้นแนนอยู่ แล้วลูกค้ามาเกินเกินไปเยอะ แนนก็วิ่งตามเขาออกไป บอกว่าขอโทษนะคะ อันนี้เดี๋ยวคิดเป็นราคาบุฟเฟ่ต์ ลูกค้าก็งงเหมือนกันค่ะ เขาไม่เคยเจอแบบนี้เหมือนกัน"

ราคาบุฟเฟ่ต์อยู่ที่หัวละเท่าไหร่?
แนน : "349 บาท แรกเริ่มมีราคาเดียว แต่หลังๆ ทำตัวถูกลงมาคือ 299 สำหรับคนไม่ทานเนื้อกับซีฟู้ด"

กับข่าวที่เกิดขึ้น พอเห็นข่าวรู้สึกยังไง?
แนน : "ตอนแรกที่เห็นเลยก็ตกใจนิดนึงเพราะกระแสค่อนข้างแรง"

การที่ไปทานชาบูแล้วลูกค้าทานเยอะมากแบบนี้ เราสามารถเก็บเงินลูกค้าเพิ่มได้มั้ย?
แนน : "ไม่ได้ค่ะ"

แนนเคยเจอลูกค้าที่ทานเยอะๆ แบบนี้มั้ย?
แนน : "เคยเจอบ้างค่ะ"

การทำร้านบุฟเฟ่ต์ไม่สามารถเก็บเงินลูกค้าเพิ่มได้?
แนน : "ใช่ค่ะ"

คิดวว่าร้านที่เป็นข่าว ทำไมเขาถึงกล้าบอกลูกค้าว่าถ้ามาทานครั้งหน้าจะเก็บเงินเพิ่ม?
แนน : "แนนไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว ไม่สามารถตอบได้ว่าเขาคิดยังไงตรงนั้น แต่ตอนที่เห็นข่าว เป็นห่วงร้านคุณลุงมากกว่าตอนที่คิดมาแว๊บแรก เพราะสาขาค่อนข้างใกล้กันกับจุดที่เกิดเหตุ ก็กลัวคนเข้าใจผิด แนนก็เป็นลูกค้าคุณหนึ่งของคุณลุงเหมือนกัน และรู้สึกว่าคุณลุงบริการลูกค้าดีมากๆ แล้วคุณลุงเคยบอกแนนตอนไปขอเฟรนไชส์ว่าไม่ต้องห่วงเลย ให้เขากินได้เต็มที่ เพราะถ้าเขารู้สึกคุ้มค่า เขาก็จะกลับมาทานที่ร้านเราอีก"

คุณเป๋า หลานชายลุงวันเลิด อยู่ในสาย กับประเด็นที่เกิดขึ้น รู้สึกยังไง?
เป๋า : "ตอนแรกก็ตกใจก่อน อย่างแรกที่ทำเลย คือเฟซบุ๊กไปหาคุณนัทที่ประสบเรื่องนี้ ก็ขอโทษเขาก่อนเลยในนามสาขา ขอโทษที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเยียวยาความรู้สึกเขาโดยการที่ขอโทษเขาโดยตรง ไม่ต้องการผ่านสื่อโซเชียล แล้วจะเลี้ยงข้าวเขาด้วย"

ทั้งที่สาขาทำให้เกิดเรื่อง ไม่ใช่สาขาลุงวันเลิด?
เป๋า : "ใช่ครับแต่พอเป็นนางใน เราก็ปฏิเสธไม่ได้ เราเป็นสาขาออริจินัล ก็ต้องมีส่วนช่วยดูแลด้วย ไม่งั้นกระทบหมดครับ"

ลุงวันเลิดว่ายังไงบ้าง?
เป๋า : "สิ่งที่ผมพูดในวันนี้ก็เอามาจากความรู้สึกลุงวันเลิดที่ผมคุยเลยครับ มีแต่ความรู้สึก เสียใจ และขอโทษโดยไม่มีข้อโต้แย้งทั้งสิ้นครับ"

ได้คุยกับเจ้าของสาขาที่มีเรื่องมั้ย?
เป๋า : "คุณลุงคุยแล้วนะครับ ผมว่าอย่างแรกสาขา 43 เขาก็คงรู้สึกเสียใจ ส่วนเรื่องการตัดสินใจเขาในช่วงนั้นๆ ก็คงก้าวล่วงไม่ได้ว่าทำไมตัดสินใจอย่างนั้น สถานการณ์แต่ละอย่างเราก็ไม่รู้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นครับ"

ร้านปิดร้าน?
เป๋า : "พี่นักข่าวบอกว่าเขาปิดร้าน เลยไปสัมภาษณ์ไม่ได้ครับ"

คุณแนนบอกว่าอยู่ใกล้สาขาต้นตำรับคือร้านลุงวันเลิด ทำไมเปิดใกล้ๆ กันได้?
เป๋า : "จริงๆ เป็นคนรู้จักกับลุงวันเลิดด้วย และเขาก็มีบ้านอยู่ตรงนั้นด้วย เขาก็เลยขอเปิดครับ"

ลุงใจดีมาก?
เป๋า : "ลุงวันเลิดเป็นคนใจดีมาก ผมคิดว่าเรื่องที่เกิด หลายๆ คนคงเห็นแล้วว่ามีแต่คนเซฟลุงวันเลิด เซฟชานูบางในพระรามเก้า 41 กัน และมีคนพูดว่าลุงวันเลิดเป็นผู้มีพระคุณของพวกเรา คือตอนให้เฟรนไชส์ ลุงไม่เคยคิดเงินแค่บาทเดียว เพราะลุงต้องการให้สัมมาอาชีพกับคนเพื่อให้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวต่อได้ แค่นี้ก็สื่อแล้วว่าลุงเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีมาก แล้วผมว่าชาวนางในได้เรียนรู้จากลุง ลุงจะสอน 2 ข้อเสมอคือซื่อสัตย์กับกตัญญู ซึ่งกตัญญูในที่นี้หมายถึงการรู้คุณคนด้วยนะครับ เพราะลุงพูดเสมอว่าที่ร้านเป็นได้ทุกวันนี้ ก็ต้องขอบคุณน้องๆ ทุกช่วงอายุที่มาอุดหนุน มาคอยตำหนิว่ารสชาติต้องปรับอะไรบ้าง เราถึงมีได้ทุกวันนี้ เราต้องนึกถึงเขาเสมอ อย่าไปหักหลังเขาด้วยการเอาวัตถุดิบไม่ดีให้เขากิน"

ถ้าตอนนี้คนแห่ไปให้ลุงสอน ไปขอเฟรนไชส์จะทำยังไง?
เป๋า : "ต้องมานั่งสัมภาษณ์ก่อนครับ ทำไมถึงอยากทำ มันเหนื่อยนะ ไม่ใช่ว่าทุกคนมาแล้วจะได้หมด ถ้ามาทำร้านแค่เอาเงินมาลงทุน ผมคิดว่าคุณลุงไม่อนุญาต คุณลุงอยากให้สัมมาอาชีพกับคนที่มีความขยันจริงๆ และอยากทำให้เป็นอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวได้"

คุณลุงได้บอกมั้ยจะมีกฎอะไรเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก?
เป๋า : "ผมเชื่อว่าถ้าย้อนกลับไปได้เขาคงไม่ทำ แล้วผมว่าเรื่องนี้จริงๆ ก็ไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก"

ตัวลุงวันเลิดเครียดมั้ยกับเรื่องนี้?
เป๋า : "เครียดมากครับ แต่พอมาดูวันนี้ คนรักลุงวันเลิดเยอะมากครับ กระแสโซเชียลเมื่อวานตอนเย็นค่อนข้างแรง แต่พอตอนกลางคืนถึงตอนเช้า ทุกคนแห่มาบอกว่ามันคนละสาขากัน เซฟลุงวันเลิด ลุงเป็นผู้มีพระคุณ ผมว่ามันดูอบอุ่น ทั้งที่วันนี้ลุงไม่สบายนะครับ ลุงก็ยังลงมาต้อนรับพี่ๆ นักข่าวทุกคนเองเลย ถ้าได้มีโอกาสรู้จักลุงจะต้องรักลุงเหมือนกัน ลุงทำร้านให้เหมือนฟีลบ้าน ต่อให้ทานไม่หมดแล้วจะเอากลับลุงยังไม่ว่าเลย ต่อให้ทานแล้วขาดทุนลุงก็ไม่ว่า พอโจทย์คือทานแล้วเหมือนที่บ้าน อยากให้อบอุ่นแบบนั้น คุณอยากเอากลับก็เรื่องของคุณ"

"คุณเต้ย" ซึ่งเป็นคนไปทานร้านนั้นและโพสต์ข้อความเกี่ยวกับร้านเงินจากบุฟเฟ่ต์ คุณเต้ยพอจะเล่าเรื่องราวให้ฟังหน่อยได้มั้ย?
เต้ย : "ปกติไปทานเป็นประจำอยู่แล้ว เดือนนึงทาน 2-3 ครั้ง ไปจนกระทั่งพนักงานจำได้ เราก็ทานไปตามปกติ สั่งเนื้อไป 6 ถาด สั่งกุ้งไป 2 สั่งวุ้นเส้น สั่งไข่ พอเราจะสั่งเพิ่ม พนักงานอยู่ไกล เราก็เรียกเจ้าของซึ่งอยู่ใกล้ๆ มารับออเดอร์ เขาก็บอกว่าถ้าลูกค้าจะสั่งแต่เนื้อกับกุ้ง ไม่สั่งผักเลย เขาไม่ค่อยโอเค ทำให้ร้านขาดทุน เราเลยสงสัย แต่เขาคุยด้วยน้ำเสียงปกติเรียบร้อยดี ผมก็ถามว่าหมายความว่ายังไงที่พูด เขาก็เลยขึ้นเสียงว่าที่เรากินไป เราสั่งเนื้อที 6 ถาด 10 ถาด ร้านก็ยังไม่ได้ค่าของเลย ไหนจะค่าพนักงานอีก แบบนี้ร้านขาดทุน ถ้าคราวหน้ามาแล้วสั่งแบบนี้อีกเขาจะเก็บตังค์เพิ่ม"

ตอนนั้นพูดอะไรกลับไป?
เต้ย : "ไม่ได้พูดอะไรครับ ยอมรับว่าครั้งหน้าไม่มาแน่นอนครับ"

เวลาไปจะสั่งกันแบบนี้อยู่แล้ว?
เต้ย : "ครับ เป็นปกติครับ"

ปกติเนื้อกี่ถาด?
เต้ย : "จริงๆ มันเป็นเนื้อสไลด์ ขึ้นอยู่ว่าวันนั้นเขาสไลด์มาเท่าไหร่ ผมกะว่า 1 ถาดประมาณ 200-300 กรัม กินเฉลี่ยๆ ก็ประมาณ 6-12 ถาด"

กุ้งล่ะคะ?
เต้ย : "กุ้งประมาณ 4-5 ถาดครับ"

หลังเกิดเรื่อง มีการไปอันไลค์เพจร้านด้วย ทางร้านมีอะไรตอบโต้บ้าง?
เต้ย : "พอเราอันไลค์เพจ ทางร้านก็ส่งมาให้ทางผมกดไลค์อีกรอบนึง แต่เฟซบุ๊กมันจะถามรีวิวของผู้ใช้ว่าจะแนะนำร้านนี้มั้ย ผมเลยพิมพ์ไปว่าผมไม่แนะนำร้านนี้ เพราะผมเสียความรู้สึกที่ร้านบุฟเฟ่ต์ทำแบบนี้ด้วย"

ยื่นเรื่องไปสคบ.แล้วด้วย?
เต้ย : "เรียบร้อยแล้วครับ สคบ. ตอบรับแล้ว เป็นการยื่นเรื่องไปทางช่องทางออนไลน์ วันนี้สคบ.ติดต่อกลับมาให้ส่งหลักฐานและเอกสารเพิ่มเติมครับ"

คุณเต้ยยื่นสคบ. ต้องการอะไร?
เต้ย : "เราไม่ต้องการให้เกิดกับใคร การที่เราทำธุรกิจร้านอาหารประเภทนี้เป็นเรื่องสิทธิผู้บริโภค สิ่งที่เรายื่นเรื่องเพื่อปกป้องประโยชน์ของผู้บริโภค สิทธิที่ผู้บริโภคพึงได้"

ทราบมั้ยว่าร้านลุงวันเลิดซึ่งเป็นร้านต้นตำรับอยู่ใกล้ๆกัน?
เต้ย : "เพิ่งทราบนี่แหละครับ"

ปกติเคยไปทานสาขาลุงวันเลิดมั้ย?
เต้ย : "เคยไปเมื่อนานมากแล้ว หลายปีแล้วครับ"

แล้วจะไปสาขาลุงวันเลิดมั้ย?
เต้ย : "วันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับหลาน หรือคนที่ร้านลุงวันเลิด แกก็น่ารักมาก โทรมาขอโทษแทน ถือว่าเป็นตัวแทนเฟรนไชส์ทั้งหมดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็คิดว่าอยากจะเข้าไปคุยกับคุณลุงเหมือนกันครับ"

ถ้าไปเจอร้านชาบูนางใส สาขาอื่นๆ จะกล้าเข้าอีกมั้ย?
เต้ย : "จริงๆ ต้องแยกแยะนะครับ การที่มีคนทำเรื่องที่อาจไม่ถูกต้องมาสักคนนึง ไม่ได้หมายความว่าองค์กรนั้นหรือเฟรนไชส์นั้นผิดทั้งหมด ผมแยกแยะเป็นคนๆ กัน คำตอบคือเราก็กล้าเข้า"

สรุปสุดท้าย ถ้าไปทานบุฟเฟ่ต์ร้านอื่น เราจะกล้าสั่งเยอะๆ อีกมั้ย?
เต้ย : "(หัวเราะ) ผมคิดว่าเป็นสิทธิของผู้บริโภคนะครับ ตราบใดที่เราสั่งตามเมนูที่เป็นแพ็กเกจ เราก็กล้าสั่งครับ"

คุณเต้ยสั่งเนื้อน่องลาย 6 จานถือว่าเยอะมั้ย?
แนน : "แต่ละท่านก็ทานปริมาณไม่เท่ากัน แนนไม่สามารถตอบได้ว่าเยอะมั้ย"

เวลามีลูกค้ามาทานเยอะๆ แบบนี้เราก็ขาดทุนสิ?
แนน : "เราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าขาดทุนหรือเปล่า แต่คนที่เข้ามา ทานมากน้อยไม่เท่ากัน เราไม่เคยมาคิดเฉพาะบุคคล ว่าคนนี้เรากำไร คนนี้เราขาดทุน การเปิดร้านบุฟเฟ่ต์อาจเฉลี่ยๆ ไป บางคนก็ทานไม่คุ้ม แต่บางคนก็ทานคุ้ม เราไม่ได้เก็บมาคิดตรงนี้"

คุณแนนได้ฟังทั้งคุณเป๋า คุณเต้ย รู้สึกยังไง?
แนน : "จริงๆ ก็เสียใจ ไม่ควรมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย"

ติเจ้าของร้านที่ทำให้ชาบูนางในเสียชื่อไปหมดเลยมั้ย?
แนน : "แนนว่าเขาไม่ตั้งใจทำให้ชาบูนางในเสียชื่อ แต่เราก็ไม่รู้สถานการณ์ที่เขาเจอตอนนั้นว่าเป็นยังไง ไม่สามารถตอบได้ แต่ก็ได้คุยในกลุ่ม เขาก็ขอโทษคุณลุงกับเรื่องที่เกิดขึ้น และเขาก็น่าจะโดนโซเชียลหนักเหมือนกัน คิดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ"

คุณแนนก็เป็นเจ้าของร้านชาบูนางใน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีอะไรอยากบอกคุณเต้ยหรือคุณปาล์มที่ไปทาน ณ วันนั้น?
แนน : "ก็อยากขอโทษคุณเต้ยและคุณปาล์ม ที่ทำให้เสียความรู้สึก ชาบูนางในทุกสาขาก็ขอโทษจริงๆ พวกเราทุกสาขาจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกสำหรับในอนาคต กับลูกค้าทุกคน ทุกท่านค่ะ"

กับลูกค้าที่ทานเยอะๆ จะมีวิธีทำยังไงให้เขาทานน้อยลง?
แนน : "จริงๆ ไม่มีวิธียังไง ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าเลย ลูกค้าเดินเข้ามาในร้านจะกินมากกินน้อยแล้วแต่ลูกค้าเลย เพราะเป็นแนวทางคุณลุงอยู่แล้ว ทานให้อิ่ม ทานไม่หมดเอากลับบ้านได้เป็นบางเคส แต่คุณลุงใจดีจริงๆ"

มีอะไรอยากฝากถึงคนที่รักการทานบุฟเฟต์?
แนน : "แนนก็รักการทานบุฟเฟต์มาก แค่ไปทานพอดี ไม่เหลือแค่นั้นเจ้าของร้านเขาก็ดีใจแล้ว ทานมากทานน้อยไม่เป็นไร ขอแค่อย่าให้มีอาหารเหลือทิ้ง เพราะเสียดายค่ะ"

มีอะไรอยากบอกผู้ชมเพื่อสร้างความมั่นใจ?
แนน : "อยากให้มั่นใจว่าร้านชาบูทุกสาขา พร้อมให้บริการทุกคน ทุกท่าน และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอนค่ะ"








กำลังโหลดความคิดเห็น