สวดศพคืนที่ 2 “พ่อรอง” ยังน้ำตาซึม คิดถึง “แม่ทุม” พ้อไม่มาหากันเลย ใช้ชีวิตผิดตัวติดกันเกินไป ต้องอยู่คนเดียวก็ไม่ไหว รับมีกำลังใจเพราะหลาน ก๊อบปี้ยายทุกอย่างเหมือนตัวตายตัวแทน อิจฉาแม่ทุม ใครๆ ก็รัก เป็นผู้มีแต่ให้ บอกตายไปจะมีคนรักแบบนี้ไหม ซึ้งลูกๆ หลานๆ ช่วย รวมทั้ง “เอ ศุภชัย” บอกหมดเท่าไหร่ก็หมดไป
บรรยากาศพิธีสวดพระอภิธรรมศพอดีตนักแสดงอาวุโส “แม่ทุม ปทุมวดี เค้ามูลคดี” คืนที่ 2 (8 ก.ย.) เวลา 18.30 น. ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ยังคงมีเพื่อนๆ ลูกๆ หลานๆ ทั้งในและนอกวงการมาร่วมไว้อาลัยกันอย่างเนืองแน่น ทำให้ครอบครัวต้องย้ายจากศาลา 2 มาที่ศาลาพ่วงจินดา เนื่องจากมีแขกเหรื่อเป็นจำนวนมาก ขณะที่พวงหรีดก็ล้นศาลา
ซึ่งในคืนนี้เหล่าศิลปินดาราที่มาร่วมไว้อาลัย อาทิ แอนนา ชวนชื่น, ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี, จิ๋ม มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช, ยิ่งยง ยอดบัวงาม, ต๊ะ บอยสเก๊าท์, โย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา, ดวงดาว จารุจินดา, จ๋า ยศสินี ณ นคร, โย่ง เชิญยิ้ม, อูม วิยะดา อุมารินทร์, สีดา พัวพิมล, อรอนงค์ ปัญญาวงศ์, เจี๊ยบ ปวีณา ชารีฟสกุล, ดวงใจ หทัยกาญจน์, โจ้ สุธีศักดิ์, นีโน่ เมทินี บุรณศิริ ฯลฯ ขณะที่ พ่อรอง เค้ามูลคดี ถึงแม้วันนี้มีรอยยิ้มให้เห็นบ้าง แต่ยังคงให้สัมภาษณ์ด้วยอาการน้ำตาคลอเบ้า รับแอบอิจฉาที่ใครๆ ก็รักแม่ทุมขนาดนี้
“(ยิ้ม) วันนี้เห็นรอยยิ้มบ้างแล้ว แต่เมื่อวานไม่ไหวจริงๆ มันเร็วไป ตั้งสติไม่ทัน วันนี้ก็ยังดีที่เจอพวกลูกๆ หลานๆ น้องๆ ก็ยังพอทำให้หัวเราะได้บ้าง แต่ก็จะเริ่มเครียด เพราะศาลาเมื่อวานที่ว่ายังไม่พอ ก็ย้ายมาศาลาใหญ่สุด ก็ยังไม่พออีก จริงๆ จะจองศาลานี้ แต่เมื่อวานไม่ได้ ก็มาได้วันนี้ เลยต้องอยู่ศาลานั้นก่อนแต่พอมาวันนี้ก็ไม่พอ ต้องใช้เก้าอี้เสริม ต้องบอกว่าอันนี้เป็นคุณงามความดีของคุณปทุมวดีที่เขาทำไว้ คนรักเขาเยอะ เรายังอิจฉาเลยว่าวันที่เราตายจะมีใครที่รักเราบ้าง
ถ้าอยู่ต่อหน้าคนมันก็มีความสุขนะ ได้หัวเราะ แต่พอกลับไปบ้านอยู่คนเดียว น้ำตาจะไหลตลอด อย่างเมื่อวานนี้ก็ไหล ตอนลูกเอารูปมาวางให้ดู บอกเป็นรูปแม่ มีคนวาดมาให้ พ่อจะเอาไว้ตรงไหน พูดเพียงแค่นั้น น้ำตาไหลเลย เห็นไม่ได้เลย ไม่รู้ที่ผ่านมาใช้ชีวิตผิดหรือถูก ตั้งแต่ต้นไปไหนก็ไม่เคยห่างกัน ตัวติดกันตลอด นอนก็ต้องเอามือจับกัน เป็นการใช้ชีวิตผิดเหมือนกันนะ พออีกคนจากไป เราอยู่คนเดียวไม่ไหวเลย เมื่อวานตอนรดน้ำศพก็ลงไปหอมแก้มเขา กระซิบข้างหูเขาว่า แม่สัญญากับพ่อว่าเราจะไม่ทิ้งกันไง แล้วแม่ทิ้งพ่อทำไม (น้ำตาคลอ)”
พ้อไม่ยอมมาหากันเลย
“ไม่มีเลย ไม่ยอมมาหา แต่ถ้ามาหาก็จะถามแม่ว่าให้พ่อขอสามตัวตรงๆ เถอะ ลูกหลานให้กำลังใจจนตอนนี้เริ่มเบื่อแล้ว เวลาเราจะออกเดินก็ต้องมีการถามว่าพ่อจะไปไหน พ่อนั่งก่อนเดี๋ยวล้มพอจะกินอันนี้ ก็ทักอีกว่าเขาห้ามกินนะพวกเครื่องดื่มชูกำลัง เวลานี้เหมือนอยู่ในกรอบ ก็เลยบอกว่าเธอปล่อยฉันบ้างได้ไหม คือไม่มีใครให้ห่วงแล้วไง เมื่อก่อนห่วงแม่ พอแม่ไม่อยู่ก็ห่วงพ่อคนเดียวเลย”
กำลังใจคือหลานสาว ไม่มีคงแย่ เผยเป็นตัวตายตัวแทน ก๊อบปี้แม่ทุมทุกอย่าง
“มันทำไม่ได้หรอก มันสร้างไม่ได้ เวลานี้กำลังใจมีอย่างเดียวคือหลานสาว น้องพิมพ์นั่นแหละ นับวันก๊อบปี้ยายมาทุกอย่าง เราชอบแอบดูเขา ไม่ว่าจะนั่ง ไม่ว่าจะทำอะไรเหมือนยายทุกอย่าง มันถึงได้บอกว่าตัวตายตัวแทน เพราะว่าถ้าไม่มีพิมพ์พ่อก็แย่เหมือนกัน
ถามว่าหลานถามถึงแม่ทุมไหม ไม่เท่าไหร่นะ คือ ตอนนี้จะยุ่งกับตา คือ ความผูกพันของเขากับยายแทบจะน้อยมาก เขาอยู่กับยายจริง แต่พอเขา 2 ขวบกว่า ยายก็เข้าโรงพยาบาลแล้ว เลยไม่ได้เล่นด้วยกัน จากนั้นก็อยู่กับตาตลอด ก็เลยติดตา”
เผยลูกๆ หลานๆ ในวงการผูกพันแม่ทุม เพราะเป็นคนที่มีแต่ให้ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย บอกหมดเท่าไหร่ให้หมดไป
“คือ ผูกพันกับยายทุมนั่นแหละ เพราะว่ายายทุมเป็นคนมีแต่ให้ ให้กับทุกคนจริงๆ อย่างงานนี้มันสิ้นเปลืองนะ เอ ศุภชัย บอกว่าหมดเท่าไหร่หมดไปพ่อ นี่แม่เอ เพราะว่าถ้าไม่มีปทุมวดีก็ไม่มี เอ ศุภชัย เขาผูกพันมาตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเลย ตั้งแต่เป็นนักศึกษา ม.รังสิต เป็นพี่รหัสของยุ้ย ก็ตามดูยุ้ยไปคอนเสิร์ต ก็ตามไปตามมา แล้วมาส่งยุ้ยที่บ้านแล้วก็กลับบ้าน
ทุมบอกอย่ากลับเลยลูกเอ้ย มานอนบ้านแม่นี่แหละ เอก็เลยอยู่ตั้งแต่วันนั้นตั้งแต่ที่ยุ้ยเรียนปีหนึ่ง แล้วจนตอนนี้ยุ้ยอายุ 40 กว่า มันรักผูกพันกัน เขาบอกว่าถ้าไม่มีปทุมวดีก็ไม่มีเอ ศุภชัย เขาพูดคำนี้มาเราน้ำตาไหลเลย อย่างหีบศพพ่อก็จองเอาไว้ 5,000 บาท เขาบอกไม่เอา พ่อก็บอกว่าเอ มันตั้งหลายหมื่น มันเปลือง เขาบอกนี่แม่เอ เอมีสิทธิ เอเป็นลูกแม่ เอมีสิทธิทำอะไรก็ได้ ก็เลยบอกเอาตามใจเอ็ง
เราไม่ต้องทำอะไรเลย ลูกหลานทั้งนั้น ลูกทัศนวรรณ ลูกมยุรฉัตร ลูกโฉมฉาย ทั้งหมดนี่ยายทุมเลี้ยงมาทั้งนั้น ก็ดีใจแทนเขา ถึงบอกว่าการเป็นคนดังเนี่ยมันช่วยอะไรไม่ได้นะ พอความดังหมดไป ก็ไม่ต่างจากหมาตัวนึงถ้ายิ่งนิสัยไม่ดีนะ มันก็เหมือนกับหมาตัวนึง แต่ความดีนี่ลงไปนอนในหีบศพแล้วคนก็ยังรัก (ยิ้ม)”