xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนเส้นทางสายดนตรี "พี สะเดิด" ผู้เกิดใหม่กลายเป็น "มีม"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ขอบคุณภาพจากแฟนเพจ Anime-TPK)
แจ้งเกิดพร้อมโด่งดังจากผลงานแนวเพลงลูกทุ่งร็อคอีสาน ชีวิตช่วงหนึ่งตกอับจนต้องเดินสายเข้าวัดทำบุญ ปัจจุบันเป็นนักร้องวัย 40 กว่าๆ ที่แทบจะไม่มีผลงานใหม่ๆ ออกมา


จากคุณสมบัติดังกล่าว จะมีสักกี่คนกันที่คิดว่านักร้องที่ชื่อ "พี สะเดิด" จะมาแจ้งเกิดอีกครั้งในวงการการ์ตูน และกลายเป็นขวัญใจของเด็กยุคใหม่ไปซะอย่างนั้น


บนเส้นทางสายดนตรี"พี สะเดิด" มีชื่อจริงว่า "พีรพัฒน์ สวัสดิ์มูล หรือ เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2521 ที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เจ้าตัวเป็นคนที่ชอบร้องเพลงและเล่นกีต้าร์มาตั้งแต่เด็ก โดยมีศิลปินที่ชื่นชอบคือ "ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์"

หลังจบชั้นประถมศึกษาไปเรียนต่อระดับชั้นมัธยมที่โรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร และระดับปวช.ที่วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี โดยในระหว่างเรียนนั้นก็เดินสายประกวดร้องเพลงและแข่งโฟล์คซองตามเวทีต่างๆ และเคยได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภาคมาแล้ว

เมื่อเรียนจบ ปวช. เด็กหนุ่มได้สิทธิ์โควตาไปเรียนที่อุเทนถวายท่ามกลางความเป็นห่วงของมารดาที่กลัวว่าลูกชายจะไปมีเรื่องมีราวเนื่องจากช่วงนั้นมีข่าวเด็กอาชีวะตีกันบ่อยๆ ทำให้เขาตัวตัดสินใจไม่เรียนต่อและไปเป็นนักร้องตามสวนอาหาร และหารายได้ทางอื่นๆ ทั้ง สอนคอมพิวเตอร์, ตัดสติกเกอร์, รับจ้างทั่วไป, เขียนแบบ, ทำป้ายโฆษณา, ทำโมเดล ฯลฯ

ต่อมาเจ้าตัวตัดสินใจไปเรียนช่างก่อสร้าง ก่อนจะถูกแมวมองชักชวนให้มาเป็นศิลปินในสังกัดพีจีเอ็ม เร็คคอร์ด ทำงานเพลงในนามของวง "ร็อคสะเดิด" โดยรับตำแหน่งร้องนำและเล่นกีต้าร์

ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับแนวดนตรีที่มีส่วนผสมทั้งสามช่า หมอลำซิ่ง รวมถึงความเป็นร็อคเพียงแค่อัลบั้มแรกที่ออกมาอย่าง "ร็อคตลาดแตก" ในปี 2541 วงร็อคสะเดิดและเจ้าตัวก็กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างทันที โดยมีเพลงฮิตที่เป็นอมตะมาจนถึงปัจจุบัน ทั้ง สาวซำน้อย, ซิ่งสะเดิด, มันมากับความเมา ฯลฯ

หลังออกงานเพลงร่วมกับวงร็อคสะเดิดในสังกัดพีจีเอ็ม เร็คคอร์ดรวม 4 อัลบั้มพร้อมทำยอดขายกว่า 5 ล้านชุด ในปี 2545 นักร้องหนุ่มก็ย้ายไปเป็นนักร้องแกรมมี่ โกลด์ โดยทำงานร่วมกันนานเกือบ 18 ปี มีเพลงฮิตออกมาอย่างมากมาย อาทิ สาวกระโปรงเหี่ยน, จี่หอย ฯลฯ

ในปี 2560 หลังหมดสัญญากับแกรมมี่โกลด์ "พี สะเดิด" ตัดสินใจออกมาเป็นนักร้องอิสระ ซึ่งหลังจากนั้นชื่อเสียงของเจ้าตัวก็ค่อยๆ จะเงียบหายไป


ชีวิตหักเหสู่ทางสายบุญ
ในปี 2562 ชื่อของ "พี สะเดิด" ตัวจะตกเป็นข่าวว่าหอบหลักฐานไปฟ้องคนที่กล่าวหาว่าเขาใช้โครงการทำบุญสร้างวัดหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยต่อมาเข้าก็ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าที่ผ่านมาชีวิตตกต่ำ จนต้องหันหน้าเข้าวัดถือศีลทำให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ

"เป็นช่วงที่เจอวิฤกติของชีวิต เหมือนวัยรุ่นคนหนึ่งที่ต้องเจอ บางคนอาจจะเจอหลายช่วง บางคนเจอช่วงเดียวแล้วเข็ดเลย อยากจะเปลี่ยนชีวิตตัวเอง มันก็เป็นเหตุการณ์ในวัยรุ่นแค่นั้นเอง ตอนนั้นเคยเป็นนักร้องมาแล้ว แล้วเจอวิกฤติช่วงหนึ่ง เพราะว่าเที่ยวตามประสาวัยรุ่น"

"เสร็จแล้วได้ไปเจอเพื่อนอยู่ในร้านเหล้า คุยกันเรื่องวัด แล้วก็ชวนกันไปวัด แล้วก็ได้ไปเจอครูบาอาจารย์ เขาก็ทักโดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ว่าเป็นแบบนี้ๆ ไปปฏิบัติศีล 5 ดู เราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ลองปฏิบัติดู 3 เดือน เห็นผลแน่นอน ถ้าไม่เห็นผล ชีวิตไม่ดีขึ้น ไม่ต้องกลับมาที่วัด ท่านก็ออกแนวผู้ชายๆ นักเลงหน่อย"

"เราก็ทำได้หักดิบเลย เชื่อไหมช่วงนั้นออกอัลบั้ม2 ของแกรมมี่ เพลงมันดังขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันเราก็ประพฤติตัวใหม่ด้วย แล้วก็ทำงานอย่างที่ควรจะทำ ก็คือไปโปรโมตเพลง ขยันเต็มที่เลย..."

นั่นเองที่ทำให้เขาเดินหน้าเข้าวัดทำบุญมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการเดินสายหารายได้สร้างวัดในต่างประเทศตามที่รับปากกับครูบาอาจารย์ไว้ก่อนจะถูกข้อครหาดังกล่าว..."จริงๆ ผมทำกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องบุญมาด้วยความศรัทธา เพราะว่าชีวิตตัวเองดีขึ้นด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนา"

"แล้วครูบาอาจารย์ก็ฝากเอาไว้ อยากให้ทำ เพราะว่าในยุโรป ศาสนาเราจะเจริญรุ่งเรืองในอนาคต อาจารย์ฝากไว้ 7 ปี ซึ่งผมทำมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น ทำในเอเชีย ผมก็ทำ ทำในเกาหลี หรือออสเตรียเลีย ก่อนที่จะไปยุโรป"


เกิดอีกครั้งในโลกการ์ตูน
หลังจากข่าวคราวเรื่องการฟ้องร้อง จากนั้นมา "พี สะเดิด" ก็แทบจะไม่เป็นข่าวอะไรอีกเลย

กระทั่งไม่นานมานี้เมื่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์นำภาพของเจ้าตัวไปเปรียบเทียบกับตัวการ์ตูน "เอเลน เยเกอร์" พระเอกเรื่อง Attack on Titan พร้อมระบุข้อความ "เอเลนคอสเป็นพีสะเดิด หรือพีสะเดิดคอสเป็นเอเลน หรือเอเลนนามสกุลพีสะเดิด หรือเยกเกอร์แปลเป็นไทยว่าสะเดิด หรือจริงๆแล้วพีสะเดิดกับเอเลนคือคนเดียวกัน !!?"

ปรากฏว่าไม่นานนักร้องดังก็เข้ามารีทวิตดังกล่าว โดยบอกว่าตนตามอ่านอยู่ "ผมอ่านทุกทวิตนะ" จากนั้นเจต้าตัวก็มีการทวิตข้อความว่าหากมีคน Follower ถึง 1000 จะแต่งเพลง "เขาเรียกผมว่าเอเลน" เท่านั้นเองโลกใหม่ของนักร้องหนุ่มก็เกิดขึ้นทันที

โดยจากทวิตเตอร์ที่มีผู้ติดตามไม่ถึงพันตั้งแต่ตั้งทวิตเตอร์ในเดือนธันวาคม 2016 ไม่กี่วันหลังจากทวิตดังกล่าวปรากฏว่าตอนนี้ได้มีคนเข้าไปกดติดตามนักร้องหนุ่มแล้วกว่า 25,000 ฟอลโลเวอร์

ถึงตอนนี้ต้องบอกว่าหนุ่ม "พี สะเดิด" ได้กลายเป็น "มีม" ( MEME) ของเหล่าคอการ์ตูนไปแล้ว หลังจากที่มีผู้จับเอาตัวการ์ตูนจากหลายๆ เรื่องมาเปรียบเทียบกับเขา ซึ่งเจ้าตัวเองก็ถือโอกาสสร้างแฟนคลับกลุ่มใหม่ด้วยการให้แรงบันดาลใจด้วยประโยคอย่าง "นายเองก็เป็นพีสะเดิดได้นะ"

ทั้งนี้นอกจากเพลง "เขาเรียกผมว่าเอเลน" ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการบันทึกเสียงและคาดว่าจะเสร็จออกมาในช่วงกลางเดือนนี้แล้ว ทางด้านของนักร้องหนุ่มยังมีความคิดเตรียมผลิตสินค้าที่เป็นสัญลักษณ์ของตนเองอย่างผ้าโพกหัวให้ "ด้อม PSD" กลุ่มแฟนคลับของตนเองอีกต่างหาก

คงต้องจับตาดูกันว่านับจากนี้ไปแฟนคลับกลุ่มใหม่จะส่งผลให้งานเพลงของ "พี สะเดิด" เป็นไปในทิศทางใดหรือไม่อย่างไร? เมื่อเจ้าตัวยอมรับว่าตนพร้อมที่จะพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว













กำลังโหลดความคิดเห็น