NIA จับมือ 133 องค์กรพันธมิตรภาครัฐ เอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ แถลงความพร้อมจัดงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2020 ภายใต้แนวคิด “Innovation in Time of Crisis: นวัตกรรมรับมือภาวะวิกฤต” ระหว่างวันที่ 1-4 กันยายนนี้ เข้าชมฟรี!! ผ่านเว็บไซต์https://stxite2020.nia.or.th/ พร้อมเปิดแพลตฟอร์มอีเว้นท์ออนไลน์ สู่ “โลกนวัตกรรมเสมือนจริง” ตอบโจทย์ยุคนิวนอร์มัล
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19 ทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ทั่วโลกได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรุนแรง ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ สำหรับประเทศไทยนั้นมีทั้งการเลื่อนและยกเลิกกิจกรรมประเภทต่างๆ ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ดังนั้น NIA ในฐานะองค์กรหลักที่มุ่งใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมพร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้หารือร่วมกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือ ฟื้นฟูสตาร์ทอัพ ธุรกิจนวัตกรรม ให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ จึงได้กำหนดจัดงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2020 ในรูปแบบเสมือนจริงขึ้น ระหว่างวันที่ 1-4 กันยายนนี้ ผ่านเว็บไซต์ https://stxite2020.nia.or.th/
STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND EXPO 2020 จะเป็นมิติใหม่ของการจัดงานในรูปแบบโลกนวัตกรรมเสมือนจริง (Virtual World) ครั้งแรกของประเทศไทย ที่ผนึกกำลังครั้งสำคัญของเหล่าสตาร์ทอัพและนวัตกรรมชั้นนำของไทย เข้ามาร่วมกันแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมของประเทศในการจัดงานเสมือนจริงให้ยิ่งใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงอัพเดทข้อมูลในแวดวงสตาร์ทอัพและนวัตกรรมจากทั่วโลกที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งสถานการณ์แพร่การระบาดทั่วโลก (Pandemic) ของโรคโควิด 19 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่รุนแรงขึ้นทุกปี และการปรับตัวให้เข้ากับในวิกฤตเศรษฐกิจ (Economic Crisis) ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ภายใต้แนวคิด “Innovation in Times of Crisis” ผ่านแพลตฟอร์มอีเว้นท์ออนไลน์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ NIA ได้ร่วมกับพันธมิตรสร้างขึ้น โดยรวม MICE Innovation (นวัตกรรมเพื่อการประชุมและการจัดนิทรรศการ) จากเหล่าสตาร์ทอัพมืออาชีพของไทย อาทิ Happenn, Zipevent, GetLinks, Fungjai NYLON, Chocolate และ Keen Eye เพื่อเติมเต็มประสบการณ์รูปแบบใหม่ในโลกนวัตกรรมเสมือนจริง ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มัล
นอกจากนั้นแล้ว ปีนี้เรายังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษาทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ รวม 133 องค์กรพันธมิตร ได้แก่ 9 หน่วยงานภาครัฐ, 40 มหาวิทยาลัย, 13 องค์กรพันธมิตรต่างประเทศ, 11 หน่วยงานสมาคม/ สภาสมาคม/ภาคเอกชน, 21 องค์กรภาคเอกชน, 20 สตาร์ทอัพและ SMEs, 8 MICE Innovation และ 11 สื่อพันธมิตร และอีกกว่า 400 หน่วยงานร่วมจัดกิจกรรมแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรม และช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจนวัตกรรมให้แก่สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม ผ่านการสร้างความเชื่อมโยงร่วมกันทุกภาคส่วน
ดร.พันธุ์อาจ กล่าวอย่างมั่นใจว่างานนี้จะเป็นการสร้างมิติใหม่ของอีเว้นท์เสมือนจริงและอุตสาหกรรมไมซ์ให้เกิดขึ้น ทั้ง Real Innovation Experience มิติใหม่ของการสัมผัสประสบการณ์จริงด้านนวัตกรรมจากสตาร์ทอัพและนวัตกรของไทยที่นำมาใช้จริงในงาน, Real-time Connection & Data มิติใหม่ของการเชื่อมต่อแบบทันทีกับเครือข่ายหน่วยงานในแวดวงสตาร์ทอัพและนวัตกรรมทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งการเข้าถึงข้อมูลสำคัญที่เกิดขึ้นภายในงาน และ Real Opportunity มิติใหม่ของการได้รับโอกาสจริงสำหรับผู้สนใจสร้างและต่อยอดธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรม ผ่าน 4 กิจกรรมหลักได้แก่ 1) Virtual Forum งานสัมมนาออนไลน์ในรูปแบบเสมือนจริง เน้นเรื่องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ประเทศในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกถึง 6 ธีม ประกอบด้วย Feed the World/Transforming Healthcare/ Tourism & Entertainment Rebound/Inclusive Society/BCG in Action/Touchless Economy & Trust Society 2) Opportunity โอกาสในการหาคู่ค้าทางธุรกิจและการประกอบอาชีพผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้น ทั้ง Virtual Marketplace ตลาดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบเสมือนกว่า 200 บูธ และจับคู่ธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการนวัตกรรมไทย รวมทั้งการพิชชิ่งของสตาร์ทอัพ, Online Business Consulting บริการให้คำปรึกษาออนไลน์จากสุดยอดเมนเทอร์ ผู้เชี่ยวชาญภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา กว่า 60 ท่าน และ Virtual Job Market รับสมัครงานกว่า 600 ตำแหน่ง จากกว่า 100 องค์กรชั้นนำของประเทศ 3) SHOW ชมการแสดงสดผ่านทางออนไลน์ ที่นำเสนอศิลปะ ดนตรี นันทนาการ และเทคโนโลยีมาจัดแสดงร่วมกันในรูปแบบ Virtual Concert ที่สร้างสรรค์สตูดิโอเสมือนจริง พร้อมให้แฟนคลับใกล้ชิดกับศิลปินและมีส่วนร่วมระหว่างการชม 4) AWARD พิธีประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ Prime Minister Award ให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพไทยให้ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ รวมถึงการนำนวัตกรรมมาช่วยแก้ไขสถานการณ์วิกฤตการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ดร.พันธุ์อาจ กล่าวทิ้งท้ายเชิญชวนทุกคนเข้าชมงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2020 ที่ NIA และหน่วยงานร่วมจัด ได้ทุ่มเทเต็มที่เพื่อจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 1-4 กันยายนนี้ รับชมทางออนไลน์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนที่ https://stxite2020.nia.or.th/
