“ฟิล์ม ธนภัทร” รับบิวต์ตัวเองให้ใหญ่ จนใหญ่เกินไปคนจำไม่ได้ ถูกใบสั่งผู้ใหญ่ให้รีดหุ่น แฮปปี้หุ่นตอนนี้ มีของดีก็ต้องโชว์ ฟุ้งเรื่องหัวใจมีคนที่ซุ่มคุย แต่ไม่ใช่ “ใบเฟิร์น” สนิทที่สุดแต่ยังไม่สิ้นสุดทางเพื่อน พร้อมเมื่อไหร่จะเปิดตัว
หุ่นแน่นๆ อยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมาฟิตหุ่นเป๊ะ จนเอฟซีละลาย ล่าสุด “ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ” เปิดใจระหว่างงานบวงสรวงละครเรื่อง พายุทราย ณ แอ็กซ์ สตูดิโอ ปทุมธานี ยอมรับว่าต้องลดน้ำหนักลงมา เพราะก่อนหน้านี้ฟิตหุ่นจนตัวใหญ่ล่ำ ถูกผู้ใหญ่สั่งให้ลดด่วน อีกทั้งในละครก็ต้องถอดเสื้อโชว์หุ่น
“ผอมลงด้วยครับ ดูแลรูปร่างมากขึ้น คือไม่รู้ว่าต้องถอดเยอะขนาดนี้ แต่ด้วยความที่อยากหุ่นดีอยู่แล้ว ก็ค่อนข้างมีความสุขกับการฟิตหุ่นแค่นั้นเอง ซิกแพ็กยังไม่มาขนาดนั้น ยังไม่พร้อมขนาดนั้น ก็อยากฟิตกว่านี้ อยากฟิตทุกส่วนครับ ก็เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีนะครับ น้ำหนักตอนแรกช่วงที่บิวต์ใหม่ๆ ก็เพิ่มขึ้นมาเยอะครับ ตอนนี้ก็โดนสั่งลดเหมือนกัน ก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนชีวิตมากครับ แค่เลือกอาหาร ทำอาหารกินเอง หรือซื้ออาหารคลีนกินเอา
ถามว่าเพราะทางผู้ใหญ่สั่งหรือผมต้องการฟิตหุ่นเอง เรื่องฟิตหุ่นเป็นความต้องการหลักของผมมากกว่า ไม่เกี่ยวกันครับ ก็มีปัญหาเรื่องฟิตติ้งเสื้อผ้านิดหน่อยครับ มีปรับเปลี่ยนไซส์กันบ้าง ขึ้นๆ ลงๆ ผมไม่ได้อ้วนขนาดนั้น เพียงแค่ตัวใหญ่ขึ้นเฉยๆ ใส่สูทแล้วติดกระดุมไม่ได้ ก่อนหน้านี้กล้ามเนื้อแน่นกว่านี้ครับ ใหญ่กว่านี้ ตอนนี้เอาลงมาแล้ว ถามว่าลิมิตเรามีขนาดไหนกับการออกกำลังกายฟิตหุ่น ก็ขึ้นอยู่กับบาลานซ์การทำงานด้วยว่าจริงๆ ถ้าความต้องการของตัวเองกับการทำงานก็ค่อนข้างจะสวนทางกันนิดหนึ่ง อยากให้ตัวเองใหญ่กว่านี้ แต่ด้วยการทำงานก็ทำได้แค่นี้
ถามว่าถ้าหุ่นเป็นที่น่าพอใจพร้อมถอดเยอะกว่านี้ไหม ก็พร้อมนะครับ ถ้ามันดีกว่านี้ มีของดีก็อยากโชว์บ้าง แต่ถ้าให้ถ่ายแบบนิตยสารก็คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถ้ามีมาก็พร้อมที่จะฟิตให้ โชว์หวิวผ่านไอจีก็ไม่ขนาดใช้คำว่าหวิว เราก็เป็นคนออกกำลังกาย ชุดออกกำลังกาย เป็นเสื้อกล้าม ไม่ได้วาบหวิวขนาดนั้น แต่ช่วงที่บิวต์ให้มันใหญ่ คนก็จะเข้ามาแซวค่อนข้างเยอะว่าใหญ่มากจนเขาจำไม่ได้”
ปัดซุ่มคบ “ใบเฟิร์น อัญชสา มงคลสมัย” เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น
“ก็มีคนเข้ามาคุยครับ กับใบเฟิร์นเป็นเพื่อนกัน (หัวเราะ) รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว ร่วมงานกันมาก็ 3-4 ปีแล้ว หลายเรื่องแล้ว เป็นเพื่อนกัน ก็เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากขึ้น ใช้คำนี้ดีกว่า แต่ว่าก็เป็นเพื่อนกันครับ ถ้าวันหนึ่งมันจะมีเดี๋ยวมันก็มีมันเอง แต่ตอนนี้เป็นเพื่อนกัน สิ้นสุดทางเพื่อน เฟรนด์โซนแบบนี้เหรอ (หัวเราะ) ก็คือถ้าวันหนึ่งมันจะใช่มันก็ใช่เองแหละ ตอนนี้เป็นเพื่อนกันและเป็นเพื่อนที่ดีต่อไป ผมคิดแค่นี้
ถามว่าเขาใช่สำหรับเราไหม ก็เป็นคนน่ารักครับ น่ารักในสายตาเรา โอกาสลุ้นหรือพัฒนา ทำไมล่ะ ก็ไม่ปิดตัวเองนะ แต่คือตอนนี้ก็บอกได้ชัดๆ ว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ ครับ และคนที่คุยก็ไม่ใช่ใบเฟิร์นครับ ถามว่าสนิทกันขนาดไหน ก็คุยกันได้ทุกเรื่องครับ ด้วยความที่เป็นเพื่อนสนิทกันเลยคุยกันได้ทุกเรื่อง เลยคิดว่ามันยากที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ เพราะรู้จักกันดีเกินไป เขาเป็นคนที่รู้เรื่องผมเยอะ ผมก็เป็นคนรู้เรื่องเขาเยอะ (รู้เรื่องไม่ดีกันก็เยอะ?) ก็ใช่ ก็เลยรู้สึกว่ามันจะมีโอกาสเป็นไปมากกว่านั้นหรือเปล่า แต่คือถ้าวันหนึ่งมันจะพัฒนา มันก็เป็นเรื่องของโชคชะตาและเรื่องของอนาคต”
ฟุ้งซุ่มคุยสาวนอกวงการ ถ้าใช่พร้อมเปิดตัว
“เขาก็เป็นที่ปรึกษาหัวใจให้ผมด้วยหลายครั้ง (ยิ้ม) เขาก็ไม่ถึงกับช่วยสแกนขนาดนั้นครับ บางครั้งถ้าทำงานด้วยกันก็อาจจะมีปรึกษากันบ้าง ทั้งเขาและเราก็ผลัดกันปรึกษา เป็นที่ระบาย ถามว่าสาวที่เราคุยใบเฟิร์นรู้จักไหม ตอนนี้ยังครับ ก็คุยกันมาได้นิดหน่อย ก็ยังรู้สึกแฮปปี้ใช้ชีวิตกับการทำงานและทุ่มเทกับการทำงาน เป็นคนนอกวงการ แต่ว่ายังใช้คำว่าเป็นแค่คนคุยดีกว่า เพราะเรารู้สึกว่าเรายังไม่พร้อมที่จะให้สถานะกับใครขนาดนั้น อย่างที่เห็นทุกวันนี้สิงอยู่กับฟิตเนส ยิม และถ่ายละคร
ถามว่าไม่กลัวเขาน้อยใจที่ให้สถานะได้แค่เพื่อน ก็มันเป็นความจริงว่าตอนนี้มันยังเป็นได้แค่นี้ ถ้าวันหนึ่งมันจะใช่ ผมว่ามันถึงเวลามันก็จะใช่เอง คุยกันก็ไม่นานมากครับ ถ้ามันใช่ เดี๋ยวก็คงเปิดตัวเองแหละ ผมก็อยากมีความรักเหมือนคนธรรมดาทั่วไปเหมือนกัน เรื่องเดตก็มีไปกับเพื่อนครับ มีบ้าง ถามว่ากลัวคนจับตามองไหม ก็ไม่ขนาดนั้นนะ ก็รู้สึกว่าใช้ชีวิตให้มีความสุขไปด้วย”