"เขมทัตต์" เผยการเดินทางครั้งใหม่ อสมท โฟกัส 3 ส่วน เอาทุกส่วนลงระบบออนไลน์ สร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ สนองผู้บริโภค เข้าถึงคนรุ่นใหม่ แม่และเด็ก ก่อนเคลียร์ดรามาไร้ชื่อ "ใหม่-เบลล่า" ชิงนาฎราช สื่อสารผิดพลาดเพราะโควิด กังวลภาพลักษณ์ แต่จะเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศคนบันเทิง เผยปีนี้จัดแบบนิวนอร์มอล จำกัดคนร่วมงานแค่ 100 คน ดาราแต่งชุดสวยอยู่บ้าน ส่งสัญญาณสดเข้ามา
จัดงานแถลงข่าว อสมท เปิดตัวธุรกิจดิจิทัล "The New Digital Journey" งานนี้ "นายเขมทัตต์ พลเดช" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ได้เปิดใจถึงทิศทางการอสมท หลังจากนี้ โดยจะโฟกัสไปทิศทางเดียวกัน 3 แพลตฟอร์ม และเอาทุกส่วนลงระบบออนไลน์มากขั้น พร้อมสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ตอบสนองผู้บริโภค
“ลักษณะดิจิทัลแพลตฟอร์มและดิจิทัลคอนเทนต์ของ อสมท เราวางพื้นฐานมา 2-3 ปีแล้ว โดยการรวบรวมคอนเทนต์ที่มีอยู่ ธุรกิจที่มีอยู่กระจัดกระจาย ให้มาโฟกัสไปในทิศทางเดียวกัน แบ่งเป็น 3 ส่วน 1 คือคอนเทนต์ ก็มีทั้งที่เป็นของเดิม เราก็จะเอามาลงในระบบออนไลน์มากขึ้น ในเวลาเดียวกันก็สร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองผู้บริโภคและผู้ซื้อในตลาด
สอง ข่าวและสาระ เราขยับขึ้นไปเป็นเรื่องของเอนเตอร์เทนเมนต์ เพราะความบันเทิงเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวใจของคนไทยและคนทั้งโลก เราก็จะมีการปรับปรุงและพัฒนาในส่วนต่างๆ 3 แพลตฟอร์มที่มีอยู่ในท้องตลาด เขาได้วิเคราะห์กันมาแล้วว่าเราจะมีทางแทรกเข้าไปได้อย่างไรบ้าง แล้วเราจะแก้ปัญหากับคนที่อยู่ในโซเชียลอยู่แล้วได้อย่างไรบ้าง
ถ้าเราจะเปรียบก็คงเปรียบเหมือนน้ำ ดาต้าที่มากับน้ำที่เราสามารถกักเก็บไว้ได้ สามารถเอามันมาใช้ประโยชน์ในเชิงอื่นๆ ได้ทั้งสิ้น ดาต้าที่เราทำอยู่ก็จะมาอยู่ในตัวดิจิทัลโซลูชั่น ก็จะทำให้เรามีฝายหรืออ่างเก็บน้ำเล็กๆ ที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้
เช่น the master เป็นเรื่องของ e - Learning เล็กๆ the shot คนที่เป็นช่างภาพ ช่างวิดีโออิสระ กราฟิกดีไซเนอร์ คุณสามารถมาฝากร้าน ฝากไอเดียที่นี่ แล้วคุณก็สามารถได้รับเงิน แลtมีแชร์ริ่งได้ อีกอันคือ backbone คอนเซปต์คือเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของตัววาไรตี้ ที่ไม่ทำให้คนดูข่าวอย่างเดียว แต่ได้ข้อมูลในเชิงหลากหลาย เก่าแก่ คอนเทนต์ในตำนาน
จะเห็นว่าทั้งสามส่วนคือคอนเทนต์ เอนเตอร์เทนเมนต์ และ ดิจิทัลโซลูชั่นได้ มันเหมือนกับสามเหลี่ยมที่เป็นพีระมิดที่จะขับเคลื่อนไปได้ทุกทิศทาง แล้วถามว่าผู้ซื้อและผู้ขายจะเข้ามาอยู่ได้ยังไง คุณสามารถที่จะดูฟรีก็ได้ เข้ามาเอนเกจ subscribeเมื่อมียูสเซอร์เข้ามาเยอะๆ คุณก็จะได้เข้าหาทาร์เก็ต เอาสินค้าเข้าไปหาทาร์เก็ตกรุ๊ปตรงไหนได้บ้าง เรามองในเรื่องของธุรกิจแบบพีระมิด 3 ส่วนและสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้
ในเจอร์นี่ที่เราเปิดตัวในวันนี้ นี่คือการเริ่มต้น เมื่อเวลาผ่านไป หรือเส้นทางที่เราผ่านไปมันอาจจะมีเทคโนโลยี หรือคอนเทนต์ใหม่ๆ ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนในแพลตฟอร์มนั้นได้ แต่คอนเซปต์ที่เป็นฐานคือคอนเทนต์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ดิจิทัลโซลูชั่นจะยังเกาะอยู่ แล้วเราก็มีพันธมิตรมากมานที่เข้ามาเสริมทัพ เรามี Line Tiltok และอีกมากมายเข้ามาเสริมทัพเรา คิดว่าหลังจากนี้ก็ยังจะมีพันธมิตรเข้ามาเพิ่มอีก”
เข้าถึงกลุ่มแม่และเด็ก ไม่เคยมีแพลตฟอร์มนี้มาก่อน
“เรามี little yak เป็นกลุ่มของแม่และเด็ก ซึ่งมันยังไม่เคยมีแพลตฟอร์มอย่างนี้มาก่อน ก็จะไปทดแทนในส่วนที่ขาดหายไปของสังคมที่ไม่ค่อยมีเวลาในการเลี้ยงดูบุตรสักเท่าไหร่ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ครอบครัวพวกนี้สามารถเข้ามาตรงนี้ได้ โตขึ้นมาหน่อยก็เป็นไนน์เอนเตอร์เทนที่สามารถเข้าถึงทุกแพลตฟอร์มที่จะมีทั้งดาราและดีเจ หรือจะเข้าไปในส่วนของเพลงและดนตรี
แล้วก็มีส่วนของการสร้างแรงบันดาลใจ ใฝ่หาความรู้ การท่องเที่ยว หรือเรื่องของการหางาน หรือจะเป็นในส่วนของ boy love ก็จะเป็นซีรีส์ต่างๆ จะเห็นว่าทุกอย่างมันมีตัวเชื่อมในการสอดประสานด้วยกันทั้งหมด
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราคิดว่าเป็นการเดินทางครั้งใหม่ของอสมท ที่ขับเคลื่อนให้ทันสมัยขึ้น โดยใช้ทีมงานที่เราเตรียมความพร้อมกันมาประมาณ 2 ปีแล้วครับ ก็จะได้เห็นกันในไตรมาส4”
เผยแพลตฟอร์มสำนักข่าวไทยเน้นออนไลน์มากยิ่งขึ้น ร่วมกับสำนักข่าวต่างประเทศ ให้สอดคล้องกลุ่มเป้าหมาย
“ปกติสำนักข่าวไทยจะอาศัยแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งในแพลตฟอร์มนั้นจะกำหนดด้วยระยะเวลา แต่คนรุ่นใหม่เขาเสพข่าวตลอด 24 ชั่วโมง ฉะนั้นในตัวแพลตฟอร์มตรงนั้นเขาก็จะเอาคอนเทนต์ของสำนักข่าวไทยไปแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือฟุตเทจ หรือคลิปที่มีอยู่แล้ว เอามาอีดิตใหม่ให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย สองคือมีอัลกอริทึ่มเพิ่มเติม ให้ดูย้อนหลังได้ สามสามารถที่จะแยกออกมาเป็นเรื่องของบทบรรณาธิการ เป็นเรื่องของภาพ เรื่องของคอมเมนต์ได้ แล้วก็มีเอนเกจของคนที่เข้ามา เมื่อเรามีหลากหลายเราก็สามารถทำให้ภาพลักษณ์ของสำนักข่าวไทยกระจายมากขึ้น
ขณะเดียวกันสำนักข่าวต่างประเทศก็ถามเรามาว่าถ้าจะซื้อข่าวในประเทศไทยสำนักข่าวไหนเชื่อถือได้มากที่สุด mcot ก็จะเป็นแหล่งที่อ้างอิงได้ ฉะนั้นการที่จะแปรสภาพเป็นภาษาอังกฤษบ้าง ภาษาจีนบ้างเป็นสิ่งที่เราจะทำ แล้วถ้าเรามีเรื่องของตัวโปรแกรมที่จะสามารถแปรภาษาได้หลายภาษาก็จะทำให้เราสามารถยกระดับคุณภาพของข่าวที่สำนักข่าวไทยได้มากยิ่งขึ้น”
แจงสาเหตุดรามา ไร้ชื่อ "ใหม่ เจริญปุระ - เบลล่า ราณี แคมเปน" ชิงนาฎราช
“รางวัลนาฎราชเราเป็นรางวัลคุณภาพ ต้องกลับมาดูที่คอนเซปต์ของการจัดรางวัลก่อนว่าเป็นรางวัลที่คนในวงการบันเทิงโหวตให้คนในวงการบันเทิงด้วยกัน ซึ่งถือว่าสุดยอดมาก คนละค่ายกันแต่โหวตให้อีกค่ายนึง เป็นการได้รับเกียรติอย่างสูงมาก มีทั้งคนเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถามว่าบางปีมีไหม มี รางวัลอื่นๆ ก็มี แต่ตรงนี้ผมคิดว่าไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก คนที่เป็นแฟนคลับของดารา ก็จะมีการโพสต์กันไป ผมว่าส่วนหนึ่งเราต้องมานั่งดูว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วมันมาจากช่วงโควิด-19 เราเริ่มที่จะรับรางวัลที่ส่งเข้าประกวด มันติดโควิด-19 พอดี
ความที่มันติดขัดตรงนั้นมันก็เลยทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ผมคิดว่าทางช่อง 3 เองที่อยู่กับทางนาฎราชและสมาพันธ์มาโดยตลอด ก็มีความเข้าใจที่ดี ผลงานคุณภาพของทั้งช่อง 3 ช่อง 7 หรือช่องอื่นก็มีคุณภาพมากขึ้นเพียงแต่ว่าเราต้องให้เกียรติกับทางผู้ส่งด้วยว่าจะส่งแบบไหน ส่งใคร ผมคิดว่าตัวดารา หรือแฟนคลับดาราก็น่าจะเข้าใจตรงนี้ ทางนาฎราชเองก็มีคณะทำงานส่วนหนึ่ง เขาก็กังวลใจมากว่าภาพลักษณ์ของนาฎราชจะเป็นยังไง
ผมก็ให้คำแนะนำและกำลังใจว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราปรารถนาดี เพียงแต่ช่วงเวลาที่ติดโควิด-19 มันทำให้เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดออกไป ผลงานของการประกาศรางวัลนาฎราชในเดือนกันยายนนี้จะยังคงคุณภาพ และรักษามาตรฐานผลงานของดาราและผู้ผลิตไว้เช่นเดิม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะเข้าใจและให้กำลังใจกับคณะทำงานประกาศรางวัลนาฎราชต่อไป
ถามว่าจะกระทบภาพลักษณ์ไหม ถ้าย้อนไปดูคุณภาพของการประกาศรางวัลนาฎราชไม่เคยเปลี่ยนแปลง คุณภาพของโหวตเตอร์ที่แตกต่างจากรางวัลอื่นที่มีคณะกรรมการมอบให้โดยใช้ดุลยพินิจ แต่นาฎราชใช้ระบบโหวตเตอร์ แล้วมีการเก็บคะแนน เป็นความลับอย่างดีไม่ให้ใครรู้ แม้กระทั้งผมหรือคณะทำงานก็ยังไม่ทราบ ไปรู้ผลเอาวันสุดท้าย ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อย่างนึงของนาฎราช
คุณภาพกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมต้องมาด้วยกัน มันอาจจะมีการปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาอะไรบ้างอย่าง เรายังรักษามาตรฐานของการให้นรางวัลนาฎราชอยู่”
ยันไม่ได้เปลี่ยนกฎช่องไม่สามารถโหวตให้ละครตัวเองมา 2 ปี
“จริงๆ เราไม่ได้เปลี่ยนกฎเองนะ เป็นการทำงานร่วมกันของทั้งกรรมการ บริษัทที่เก็บคะแนนด้วย เพราะว่า 10 กว่าปีแล้ว คนที่ก่อตั้ง แล้วโหวตเตอร์บางท่านหรือหลายท่านออกไปจากวงการแล้ว ฉะนั้นคะแนนโหวตเตอร์มันอาจจะไม่เสถียร ที่ผมบอกไปแล้วก็คือทำอย่างไรให้คุณภาพหรือมาตรฐานรางวัลยังคงศักดิ์สิทธิ์อยู่ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ทางดารา คนเบื้องหน้าและเบื้องหลังมีความมั่นใจ ถือว่าเป็นเกียรติยศอันสูงสุด ก็เลยมีการปรับตัวโหวตเตอร์ซึ่งในลักษณะของบริษัทที่ทำระบบเขาก็บอกว่าตัวโหวตเตอร์เกิน 500 ขึ้น มันจะดูเยอะเกินไป
สองมันไม่สามารถจะนับคะแนนได้ ฉะนั้นตัวโหวตเตอร์จะต้องมีการปรับปรุง คนที่เกษียณไปแล้วหรือที่อายุมากๆ หรือไม่ได้เข้ามาแอ็กทีฟในโหวตเตอร์ก็ต้องทำให้มันมีคคุณภาพ นี่คือที่มา แต่ถามว่าระบบการคิดนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากของเดิมจากเมื่อปีแรกที่ทำเลยนะครับ”
ชี้ช่อง 3 ยื่นเสนอเพิ่มไม่ได้แล้ว
“มันเข้าระบบคอมพิวเตอร์ไปแล้วครับ เรื่องความทรงคุณค่าของเวที ผมยังมั่นใจนะครับว่ารางวัลนาฎราชยังเป็นรางวัลที่ทรงคุณค่า เป็นเกียรติยศของดาราที่ได้รางวัลนี้ เป็นไปไม่ได้หรอกครับที่ดาราของอีกค่ายนึงจะมาโหวตให้อีกค่ายนึง แต่รางวัลนาฎราชเป็นรางวัลเดียวที่สามารถทำตรงนี้ได้ แล้วคนในวงการรักกัน และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ร่วมงานประกาศรางวัลนาฎราช”
ลั่นเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ในแง่ของกรรมการสมาพันธ์กับคณะทำงานก็กังวลและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราก็ได้มีการหารือและคุยกับทางผู้จัด รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทุกคนก็เข้าใจ ถือเป็นประสบการณ์ที่ผ่านไป เรากลับมาดูสิว่าประกาซรางวัลนาฎราชที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนี้ คุณภาพของดาราคนไหน ผู้จัดคนไหนจะทรงคุณค่าอย่างเช่นเดิม ผมคิดว่าความสนุก การลุ้นของรางวัลก็ไม่แตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา”
เผยจัดงานแบบนิวนอร์มอล ดาราแต่งชุดสวยอยู่บ้าน ส่งสัญญาณสดเข้ามา
“นิวนอร์มอล สโคปจะเล็กลงแต่ยังคงมีความสนุก ยังมีโชว์ ยังมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ เรามองว่าผู้จัดหลายคนไม่อยากจะมารวมตัวกันเยอะ บวกกับฮอล์ต่างๆ ที่มีอยู่ตอนนี้เขาก็ไม่อยากจะรับงานใหญ่ๆ เพราะจะต้องมีการตรวจ กวดขันมาตรฐานมากขึ้น เรามองว่าการทำนิวนอร์มอลมันเป็นเทรนด์ของโลก ไปดูว่าวันที่ประกาศรางวัลนาฎราชที่ทางทีมงานเตรียมไว้ เราจะเห็นดาราแต่งชุดสวยงามแต่อยู่ที่บ้าน แล้วก็มีการส่งสัญญาณสดมา ผู้ที่ได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัลก็แล้วแต่ แล้วก็มีอีกกลุ่มนึงเข้าไปในพื้นที่สตูดิโอ อันนี้จะเป็นเสน่ห์อันใหม่ของนิวนอร์มอล ก็คือดารา คนที่มาร่วมงานแต่งหน้า ใส่ชุดราตรีเหมือนมางานปกติเลย แต่ไม่ได้มาที่งาน แต่ก็จะมีบางส่วนที่มาร่วมงาน
ตัวสตูดิโอที่เราทำมันเป็นไซส์ที่จำกัดจำนวนคนเข้า ก็จะมีกรรมการส่วนนึง ดาราและผู้จัดส่วนนึง สำหรับดารา ผู้จัดที่มาไม่ได้เราคุยกันแล้วเขาจะเตรียมพร้อมเลยว่าเขาจะเตรียมสวยอยู่ที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้หรือที่กองถ่าย พอประกาศผลรางวัลปุ๊บสามารถจะพูด สื่อสารกันได้ ขอบคุณได้ แล้วก็จะมีผู้แทนของช่องหรือผู้จัดรับรางวัลแทน แต่ดาราถ้าเป็นตัวเกร็งเราพยายามจะให้มาทุกคน ทุกค่าย ซึ่งจำกัดคนไม่เกิน 100 คน คือน้อยมาก ปกตินี่คือ 500 คน”