“ไบร์ท วชิรวิชญ์” มาไกล ดังเกินฝันแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าต้องแลกกับชีวิตส่วนตัว แจงเรื่องที่โดนขุดมีทั้งจริงและไม่จริง เครียดจนนอนไม่หลับ กินไม่ลง ขอโทษที่เคยทำผิด แก้ไขอดีตไม่ได้ เผยเรื่องหัวใจได้รับแรงกระแทกเพราะแรงดรามา แต่หากจะไม่ชอบตนเพราะมีแฟนก็ยอมรับ ขอบคุณแฟนๆ ที่รักตนโดยไม่สนใจเรื่องความรัก
หลังมีเรื่องดรามาออกมาอย่างไม่ขาดสาย สำหรับพระเอกหนุ่มขวัญใจสาววาย “ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี” วันนี้ได้ฤกษ์ดี มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “idolo Collection 2” เจ้าตัวก็เลยถือโอกาสนี้ออกมาเปิดใจเคลียร์ทุกประเด็นที่เกิดขึ้น ให้ฟังกันชัดๆ แบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก พร้อมฝากผลงานซีรีส์ “เพราะเรา(ยัง)คู่กัน Still 2gether” ซีรีส์ที่กลับมาต่อยอดความสำเร็จจากซีรีส์ “เพราะเราคู่กัน 2gether The Series” ที่เตรียมกลับสร้างปรากฎการณ์ความฟินอีกครั้งในวันที่ 14 สิงหาคมนี้
“อยากดูมากๆ ครับ ศุกร์หน้าจะได้ดูกันแล้ว บอกได้เลยว่าถ้าซีซั่นที่แล้วที่สนุก ฟิน และจิ้นแล้ว ซีซั่นนี้ผมว่าอีกเลเวลหนึ่งเลย มิติของตัวละครมันเติบโตขึ้น ในเนื้อเรื่องจะพูดถึงความสัมพันธ์หลังจากที่เราคบกันแล้วก็จะมีคาแรคเตอร์ที่โตขึ้น ถ้าส่วนตัวผมตัวละครสารวัตรก็จะเป็นเวอร์ชั่นที่ยิ้มแย้มขึ้น นิ่งน้อยลง มีความขี้อ้อนมุ้งมิ้งก็อยากให้ดูจริงๆ
ผมว่าพวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นตัวผม ทีมงาน นักแสดง และน้องวิน เมธวิน ทุกคนทำเต็มที่มากๆ คิดว่าแฟนๆ น่าจะชอบ เพราะมันสนุก ถามว่าตอนถ่ายทำความกดดันมีไหม ผมว่ามันเหมือนสนิทกันแล้ว พี่ๆ ในกองรู้จักกันมันก็ไม่ได้เป็นเชิงกดดันมาก ผมว่าบรรยากาศมันดีมากเลยเวลาพวกผมถ่ายกัน ทุกคิวเป็นคิวที่มีความสุขมากที่ได้มาเจอเพื่อน มันเลยไม่ได้ออกไปเป็นแนวทางกดดัน แต่เหมือนว่ามาทำสิ่งที่เราชอบและอยากให้คนได้ดูมากกว่า”
ส่วนตัวคาดหวังไว้ว่าอยากให้ดูแล้วสนุก รับรองกลับมาคราวนี้หายคิดถึงแน่นอน
“อยากให้สนุกกันแหละ อยากให้ทั้ง 5 ตอนนี้เป็น 5 ตอนที่สารวัตร ไทน์ หรือว่าเพื่อนๆ ทุกคนได้กลับมาให้เพื่อนๆ ได้หายคิดถึง ซึ่งผมว่า 5 ตอนที่เราได้ถ่ายทำกันไปแล้วทำงานตรงนี้ได้แน่นอนครับ อะไรที่ซีซั่นที่แล้วไม่ได้มีให้ดู ซีซั่นนี้ก็จะมีให้ดูครับ แต่ไม่บอกว่ามีอะไรมาก ถามว่าขายของเยอะไหม เอาเป็นว่าอาชีพหลักเป็นนักแสดง อาชีพเสริมเป็นเซลครับ(หัวเราะ)”
เรา 5 จะเอาคนดูอยู่ไหมไม่รู้ แต่ดูแล้วจะมีความสุขในทุกสัปดาห์แน่นอน
“เอาคนดูอยู่ไหมไม่รู้ แต่มีความสุขแน่นอนครับ เป็น 5 ตอนที่ผมพูดได้เลยว่ามีความสุขในทุกสัปดาห์ที่ได้ดูแน่นอน แต่ว่าผมก็ยังไม่มีโอกาสได้ดูตัวอย่างเพราะว่าเพิ่งถ่ายเสร็จเลย แค่ว่าตอนที่เราอ่านบทก็รู้สึกว่าซีซั่นนี้มันสนุก แฮปปี้ แต่พอไปถ่ายทำจริงสิ่งที่เราได้ถ่ายทอดออกมา สิ่งที่เรารู้สึกตอนเข้าไปอยู่ในซีน มันแฮปปี้ยิ่งกว่าตอนที่เราอาจเป็นกระดาษอีกครับ เชื่อว่าคนดูต้องรู้สึกไปกับเราแน่ๆ ซีรีส์จะเริ่มออนแอร์วันศุกร์ที่ 14 ส.ค.เป็นตอนแรก เวลา 21.30 น. ทางช่อง GMM 25 วันศุกร์จะกลับมามีความสุขเหมือนเดิม ฝากด้วยนะครับ”
ถึงแม้จะโด่งดังเป็นพลุแตก แต่ก็ยังทำงานเหมือนเดิม ได้ทำหลายอย่างที่ไม่เคยมีโอกาส กำลังสนุกกับงานมากๆ
“เหมือนเดิมครับยังทำงานเหมือนเดิม ตอนนี้มันดีตรงที่ว่าผมได้ทำในหลายๆ อย่างที่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลงหรือว่างานอะไรอื่นๆ ที่กำลังจะตามมา ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่สนุกกับงานมากๆ”
ชีวิตตอนนี้ยิ่งกว่าฝันอีกครับ ยิ่งกว่าที่เคยฝันไว้เยอะเลยครับ หลังๆ ผมพยายามจะมีความสุขกับชีวิต รู้สึกว่าทุกวันนี้ชีวิตผมมีความสุขมากขึ้น ได้มีเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ เยอะขึ้น ที่บ้านผมมีความสุขมากขึ้น เรื่องเครียดน้อยลง ผมว่าผมมีความสุขขึ้นเยอะเหมือนกันนะ”
รับใช้ชีวิตยากขึ้น มีคนจับตามองตลอด เวลาทำเลยต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมเสมอ ถือเป็นการทบทวนตัวเอง ให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน
“ต้องยอมรับว่ามันยากขึ้นแหละ มีอะไรที่เราต้องรับผิดชอบมากขึ้น ด้วยความที่คนที่รู้จักเรามีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีหลายเพศหลายวัยเวลาเราทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบต่อทุกๆ กลุ่ม แต่มันก็เป็นเรื่องดีเหมือนว่าเราได้เช็กตัวเอง ได้มีฟีดแบ็กว่าทำแบบนี้มันดีไหม เราจะได้ทบทวนตัวเองตลอด ผมว่ามันก็ดีนะเพราะว่าเราก็อยากจะดีขึ้นในทุกๆ วันอยู่แล้วด้วยครับ”
เผยเครียดดรามาที่ผ่านมาถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ถ้ารักอาชีพ ต้องพัฒนาต่อ
“มันก็เสียใจ เราก็คิดมาก มีดาวน์บ้าง แต่ว่าสุดท้ายแล้วเราก็รู้สึกว่าเราก็ยังต้องทำตรงนี้ต่อไป เรารักอาชีพนี้อยากอยู่ตรงนี้ก็ต้องทำให้เต็มที่ แล้วมันยังมีคนที่สนับสนุนเรา คนที่รอคอยผลงานดีๆ ของเรา เนี่ยแหละมีความสุขกับชีวิต แล้วผมก็จะทำงานของผมให้ดีและพัฒนาตัวเองต่อไป
จริงๆ ตอนนั้นหนักเหมือนกันครับ กินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับ แต่ผมแค่รู้สึกว่าเรารู้ว่าตัวเองวันนี้เป็นยังไง เราจะทำสิ่งดีๆ จะตั้งใจทำงาน ถ้าเราทำต่อไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งคนก็ต้องเห็นว่าผมเป็นคนยังไงวันนี้ อยากจะให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกันครับ”
ถึงจะหนักแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยร้องไห้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ผมไม่ใช่คนร้องไห้ครับ สิ่งที่ทำให้ก้าวผ่านมาได้ก็คงเป็นครอบครัวครับ คือจริงๆ ผมไม่ใช่คนที่จะปรึกษาครอบครัวเท่าไหร่ จะไม่ได้บอกว่าแม่เครียด ผมจะไม่ค่อยเล่าครับ เก็บปัญหาและจัดการกับตัวเองมากกว่า แต่ว่าครอบครัวจะเป็นกำลังใจตรงที่ว่างานที่เราทำตรงนี้มันไม่ได้ทำเพื่อเราคนเดียวไง ครอบครัวหรือญาติพี่น้องก็ได้ประโยชน์จากเราในงานตรงนี้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องไปต่อครับ ต้องสู้ต่อ”
ถูกจับจ้องยันชีวิตวัยเด็ก ไม่คิดว่าการทำงานในวงการบันเทิง ต้องแลกกับชีวิตความเป็นส่วนตัว
“จริงๆ ผมทำงานมานานแล้วนะครับ ผมใช้ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กมาก็คือมีคนจับตามองมาอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ แค่วันนี้มันอาจจะมีคนมองเยอะขึ้น มีกลุ่มคนรู้จักมากขึ้น มีความรับผิดชอบที่มันมากขึ้นเฉยๆ ครับ”
บางคนยังขุดเรื่องเก่าๆ มาพูดทั้งๆ ที่ผ่านไปนานมากแล้ว ยอมรับว่ามีทั้งเรื่องจริงและไม่จริง อันไหนผิดก็ต้องขอโทษ แต่ตอนนี้ตั้งใจจะเป็นคนที่ดีขึ้น
“มันก็มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริงครับ อันไหนที่เป็นเรื่องจริงแล้วเราผิด ผมก็ขอโทษทุกคนเลยที่ผมทำอะไรไม่ดีไว้ตอนเด็ก ทำให้รู้ว่าตอนเด็กไม่ได้เป็นคนที่น่ารักเท่าไหร่ แต่วันนี้อย่างที่บอกครับ ตั้งใจจะเป็นคนที่ดีขึ้น ตั้งใจจะทำประโยชน์ให้คนอื่นมากขึ้นครับ”
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียนให้พัฒนาตัวเอง ไปในทางที่ดีกว่าเก่า
“อย่างที่บอก ผมว่าคนเราผิดพลาดได้ครับ แต่ผิดแล้วเราต้องจำ เราต้องดูว่าสิ่งนี้มันดีหรือไม่ดี และเราก็นำไปเป็นบทเรียนพัฒนาตัวเองว่า อนาคตฉันจะเป็นยังไง ฉันจะทำยังไงให้มันดีขึ้น”
ไม่เคยตัดพ้อว่าทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ บอกเขามีสิทธิ์เพราะเราเคยทำผิด กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้แล้ว
“ไม่นะ ผมรู้สึกว่าเขาก็มีสิทธิ์ เราเคยทำผิด เขารู้ เขาไม่โอเค เราก็ต้องรับผิดชอบแหละ แต่ผมไม่สามารถไปแก้ไขอดีตได้ สิ่งที่ผมทำได้คือจะทำพรุ่งนี้ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ ส่วนคนที่ยังเข้าใจผิด ก็ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าทำร้ายผมก็พอ
แฟนคลับให้กำลังใจเยอะแยะมากครับ แฟนคลับช่วยเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นข้อความหลายๆ ช่องทางในโซเชียล เวลาเราเห็นก็ทำให้รู้ว่า ยังมีคนซัปพอร์ตเราอยู่ ยังมีคนที่รอคอยผลงานเราอยู่ ยังมีคนที่เรายังเป็นกำลังใจให้เขาอยู่ งานเรามันไม่ได้เพื่อเราคนเดียว เราทำเพื่อใครหลายๆ คน ทำให้รู้สึกว่ายังมีแรงทำต่อ มันได้ทำเพื่อคนอื่นด้วย ผมแค่รู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบต่อสังคม แต่แฟนคลับเหมือนเป็นแรงใจให้ผมมากกว่า แฟนคลับผมไม่เคยบังคับผมเลยนะครับ จะรักที่ผมเป็นมากกว่า แต่เราก็ต้องรับผิดชอบต่อคนกลุ่มรวมด้วย”
ไม่เอาเรื่องเครียดไปคุยกับที่บ้าน ไม่เคยขอกำลังใจจากครอบครัว ทำแค่โทร.บอกรักแม่เท่านั้น
“ไม่ค่อยเลยครับ ผมไม่ค่อยคุยกับที่บ้านเลย คือผมจะเป็นประเภทไม่อยากเอาเรื่องเครียดๆ ไปให้คนอื่นที่เขาไม่น่าจะแก้ปัญหาให้ผมได้ ผมจะเป็นแนวแบบโทร.ไป รักแม่นะ เออแม่รักลูก พอ ผมจะไม่ไปนั่งขอกำลังใจอะไรขนาดนั้นครับ ถ้าช่วงที่หนักจริงๆ คนให้กำลังใจจะเป็นคุณน้า น้ากิ๊ก น้าผมจะมาอยู่ด้วยแทบทุกวันเลย เป็นคนที่เข้าใจผมที่สุดแล้วครับ”
สถานะหัวใจตอนนี้ว่างอยู่หรือเปล่า ไม่ใช่ประเด็น อยากให้ชอบที่ผลงานมากกว่า ขอบคุณคนที่ยังรักเพราะชื่นชอบในผลงาน โดยไม่สนเรื่องอื่น
“ตอนนี้เหรอครับ ก็...อืม จะยังว่างหรือไม่ว่าง ผมว่าไม่ใช่ประเด็น ผมอยากให้คนโฟกัสที่งานผมมากกว่า ถ้าใครจะรู้สึกไม่ชอบผม เพราะว่าผมหัวใจไม่ว่าง ผมก็ยอมรับครับ แต่ก็สำหรับคนที่ยังโฟกัสผลงานอยู่ ไม่โฟกัสในเรื่องอื่นๆ ผมก็ขอบคุณมากๆ ที่ยังรักผม (ยกมือไหว้)
“จริงๆ ผมรู้สึกว่าผมโฟกัสกับงานมากกว่า ผมรู้สึกว่าถ้าจะให้ใครจำผมได้ในภาพไหน ผมอยากให้จำผมว่าคือคนที่ตั้งใจทำงาน ผมคือคนที่พัฒนาตัวเอง ไม่ใช่ชอบผมเพราะว่าผมโสด หรือชอบเพราะผมโสด”
รับความมีชื่อเสียง ส่งผลในเรื่องของความรัก
“มีครับ แต่ว่ามียังไง ผมขอเก็บไว้แล้วกัน ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ อีพี 1 วันที่ 14 สิงหาคมนี้ ทาง GMM 25 เวลา 21.30 น. สารวัตร ไทน์ และเพื่อนๆ กำลังจะกลับมา ขอให้ทุกคนมีความสุขกันทุกคนนะครับ ขอบคุณครับ”