“ซี” ยันตอนนี้ “เอมี่” ยังไม่ท้อง ขอพึ่งหมอให้ทำลูกให้ อยากมีลูกอย่างน้อย 2 คน แต่ตอนนี้มีคนเดียวให้ได้ก่อน แจงตนไม่ใช่พิธีกรอารม์ดีที่แอบกินครีเอทีฟ
แม้จะแฮปปี้ที่ได้หยุดพักผ่อนในช่วงที่ผ่านมาแต่ก็ทำเอาหนุ่ม “ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์” เซ็งด้วยเหมือนกัน เพราะน้ำหนักขึ้นมา 6 กิโล ทำเอาเจ้าตัวโอดด้วยอายุทำให้ลดยากมาก
“มันก็มีทั้งดีและไม่ดี ข้อดีคือ เหมือนเราก็ได้หยุดพักตัวเอง ได้มีโอกาสอยู่กับครอบครัวจริงๆ ได้ทำกิจกรรมที่บางทีเราอาจจะห่างหายมานานกับครอบครัวก็เป็นเรื่องที่ดี ส่วนที่ไม่ดีก็คือมันกินอย่างเดียวเลย มันอ้วน ไม่ได้ทำงานเลย ผมนี่ขึ้นมา 5-6 กิโลเลยนะ แล้วเดี๋ยวนี้กว่าจะลงได้ เราอายุเยอะแล้วมันไม่ง่าย มันยากมาก ก็ชวนเอมี่เขาออกกำลังกาย ที่บ้านมีห้องออกกำลังกายอยู่แล้ว ฟิตเนสก็ไม่ได้ไปเลย”
“ตอนนี้ก็ลดลงมาบ้างแล้วนะ แต่มันลงมาน้อยมากๆ เป็นจุดๆ เพิ่มนี่มันเพิ่งไป 6 แต่ละลงนี่ลดลงมา 0.2-0.5 แต่ก็ไม่เป็นไร เอาสุขภาพดีเป็นหลัก มันขึ้นมาแล้วเราก็เมนเทรนด์ ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย (ได้มีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น?) ได้มีเวลาอยู่กับภรรยานี่แหละ ทำอาหารด้วยกันทุกวัน ออกกำลังกายกัน ออกไปซื้อกับข้าวบ้างนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็รีบกลับ”
กับที่ตนไปคอมเมนต์ชมภรรยา “เอมี่ กลิ่นประทุม” ว่าสวยจังลูก ทำคนสงสัยว่ามีข่าวดีหรือเปล่า เจ้าตัวยันว่าตอนนี้ยังไม่มีข่าวดีอะไร ถ้ามีข่าวดีจริงจะรีบประกาศเลยไม่ปิด
“ไม่ครับ ลูกนี่หมายถึงผมเรียกเมียผมแบบนี้ เมียผมก็เลี้ยงผมว่าลูกเหมือนกัน เป็นคำสร้อย คำน่ารักๆ ก็ยังไม่มาครับ ก็มีการพูดคุยกันแล้ว อย่างที่ทุกคนทราบกัน รอปิดละครก่อน ไม่มีถือเคล็ด3 เดือน ถ้ามีนี่ผมรีบประกาศเลยไม่ต้องห่วง”
เผยยังไม่ได้ปล่อยเพราะภรรยาติดถ่ายละครอีก 4 เดือน
“ที่เปลี่ยนใจก็เริ่มรู้สึกเห็นหลาน เห็นหลายๆ คน จริงๆ ตอนนี้เขาก็ยังมีความคิดนั้นอยู่นะ แต่เขาเริ่มใจอ่อนลงมาบ้างแล้ว พอถึงเวลา จบละครของเขา เราก็ตั้งใจจะไปหาคุณหมอ ไปปรึกษาให้เป็นจริงเป็นจัง ตอนนี้ยังไม่ได้ปล่อยเพราะเขาติดถ่ายละครอยู่เลยยังปล่อยไม่ได้ คิดเยอะไง ก็น่าจะประมาณ 4 เดือนเลย ก็ไม่เป็นไร เอาระหว่างนี้เลยก็ได้ เดี๋ยวค่อยว่ากัน (เผื่อฟลุค?)
ครับผม (หัวเราะ)”
กังวลอายุที่มากแล้วเพิ่งเริ่มอยากมีลูก จึงตั้งใจพึ่งวิทยาศาสตร์ให้หมอช่วยเลือกตัวที่แข็งแกร่ง และดีที่สุดไปเลยดีกว่า ส่วนวิธีทางธรรมชาติก็เป็นความสุขไป
“แน่นอนครับ เรื่องอายุเป็นปัจจัยหลักและปัจจัยสำคัญมากด้วยเกี่ยวกับเรื่องของการมีลูก ถึงได้บอกว่า ณ วันนี้ถ้าธรรมชาติจ๋าเลยนี่อันตราย ก็จะไม่ดีต่อทั้งตัวแม่และตัวลูก เราก็ไปคุยกับคุณหมอเลยดีกว่า เอาตัวที่พีคที่สุด แข็งแกร่งสุด ดีที่สุดมาเลยดีกว่า”
“เราก็ชัดเจนว่าพึ่งแพทย์ มันดีกว่าด้วยอายุเราด้วย เพื่อความมั่นใจจริงๆ ตอนนี้วิวัฒนาการมันมาขนาดนี้แล้ว ก็ได้ ส่วนเรื่องธรรมชาติก็เป็นความสุขไป ส่วนที่จะมีลูกจริงๆ เราก็อยากจะให้สบายใจเราด้วย ทุกคนก็บอกอย่างนี้กันหมด วันเวลามันก็ไม่ได้เหมือนกับสมัยก่อน ถ้าเรายังวัยรุ่นอยู่เราธรรมชาติเต็มที่เลย ตอนนี้เราอายุทั้งสองคน”
บอกใจอยากมีลูกอย่างน้อย 2 คน แต่ตอนนี้มีคนเดียวให้ได้ก่อน
“ใจผมนะ อย่างน้อยๆ ผมอยากจะมี 2 คน แต่ตอนนี้อายุเยอะแล้ว เอาซักคนนึงให้ได้ก่อนเถอะ (กลัวเสียดายไหมที่เราเริ่มวางแผนครอบครัวช้าไป?) ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าผมโตมาจนถึงทุกวันนี้ได้นะ ลูกผมก็ต้องทำได้ ผมไม่ได้จะเลี้ยงเขาเพื่อให้เขามาดูแลผมนะ ไม่ได้อยากมีลูกเพื่อให้เขามาดูแลเราตอนแก่ ไม่เป็นไร ไม่ต้องดูแลก็ได้”
“เราก็มีสถานที่ของเรา ถ้ามันจะจบจริงๆ มันก็มีที่ของมันอยู่แล้ว ก็คงเสียดายเวลาถ้ามีเขาขึ้นมาจริงๆ แล้วเราอยากจะอยู่กับเขานานๆ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามันจะเกิดขึ้นจริงๆมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติของชีวิต มันก็เป็นอย่างนี้แหละ”
กับข่าวพิธีกรอารมณ์ดีแอบกินครีเอทีฟรายการที่หลายคนมองว่าเป็นตนนั้น เจ้าตัวแจงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพราะไม่ใช่ตนอยู่แล้ว
“เห็นแล้ว ทุกคนส่งมาให้ผมดูหมดแล้ว ผมก็ขำ ไม่เป็นไร ก็แล้วแต่ มันไม่ใช่ผมอยู่แล้ว ทุกคนสามารถไปดูที่เวิร์คพ้อยท์ได้ ก็ไปถามเอาแล้วกัน ผมว่ามีคนรู้แล้วกันว่าเป็นใคร ฉะนั้น ผมว่าผมไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายหรือแก้ตัวว่ามันไม่ใช่ผม หรือถ้าใครคิดว่าเป็นผมก็ไม่เป็นไร ก็แล้วแต่”
“ก็ขำๆ กัน คนในเวิร์คพ้อยท์นั้นแหละส่งมา เขาก็มาอำผมว่าเป็นไงพิธีกรอารมณ์ดี แอบกินครีเอทีฟ วันนั้นเกือบจะเรียกครีเอทีฟมาถ่ายรูปด้วยกันแล้วลงรูปว่านี่เป็นเมียผมเอง แต่กลัวว่าจะดรามาไง ผมว่าเรื่องแบบนี้ใครทำก็รู้แหละ มันปิดกันไม่ได้”
ไม่กลัวถูกเข้าใจผิด บอกถึงออกมาพูดยังไงคนก็เชื่อไปแล้ว ส่วนภรรยาไม่ว่าอะไร ลั่นตนอยู่ในจุดที่รู้ตัวว่าต้องทำตัวยังไง
“ก็เข้าใจผิดกันอยู่แล้ว ถึงจะชี้แจงก็ยังมีคนเข้าใจผิด ฉะนั้นไม่ต้องชี้แจง แล้วแต่เลย อันไหนเป็นเรื่องจริงมันก็เป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว อันไหนไม่จริงมันก็ไม่จริง ใครจะคิดยังไงก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็แล้วแต่คุณ ผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่”
“ภรรยาก็ไม่ว่าอะไร อย่างที่บอกถ้าเรื่องมันไม่จริง ยังไงมันก็ไม่จริง ผมไม่ได้ส่งให้เขาดู เขาเห็นข่าวก่อนผมอีก ประมาณ 2-3 วันได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ได้ยังไงคือเขาเห็นในเพจนั่นแหละ แต่เขาอ่านแล้วไม่ได้พูดอะไร ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าเขาเชื่อใจหรือแอบไปสืบมาแล้วก็ไม่รู้ ก็ไม่เป็นไร ก็แล้วแต่ ผมอยู่ในจุดที่ผมรู้ตัวว่าผมจะต้องทำตัวยังไง”