“นิหน่า” เผยนานๆ จะออกงานคู่ “แบงค์” สักที เพราะทำงานคนละสายงาน ฟุ้งตอนนี้สามีแข็งแรงมากขึ้น ดูแลตัวเองดี ขอบคุณกำลังใจที่ส่งมาให้ ด้าน “แบงค์” เปิดใจโชคดีที่ภรรยาดูแลอย่างดี คอยหาของที่มีประโยชน์กับตนมาให้ทาน อีกทั้งได้รับกำลังใจจากลูกๆ พร้อมสู้ต่อ ยังไม่ตายง่ายๆ
ไม่ได้เห็นคู่ของพิธีกรสาว “นิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์” และสามี “แบงค์ พชร ปัญญายงค์” ออกงานด้วยกันมาพักใหญ่ ตั้งแต่แบงค์ตรวจเจอก้อนเนื้อมะเร็งที่ตับ และเข้ารับการรักษาตัวมาตลอดตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ล่าสุดทั้งคู่ควงแขนมาร่วมงานแถลงข่าว SK ZIC SIX A SIDE การแข่งขันฟุตบอลเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 11 ปี ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ห้องประชุมชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติการกีฬาแห่งประเทศไทย (หัวหมาก) นิหน่าและแบงค์ก็เผยว่ากลับมารับงานปกติแล้ว แต่ก็ระมัดระวังป้องกันเรื่องเชื้อโรคมากขึ้น
นิหน่า : “นานๆ จะได้ออกงานคู่ค่ะ คือมันอยู่คนละฟีลกันมากกว่า (หัวเราะ) วันนี้เขาก็มาให้กำลังใจค่ะ”
แบงค์ : “ก็จะมีแต่งานบอลนี่แหละครับที่ได้ออกคู่กัน (หัวเราะ)”
นิหน่า : “ใช่ค่ะ ไม่งั้นเขาก็จะไปสายเศรษฐกิจ นิหน่าก็มาสายกีฬา สายคุณแม่ไป ช่วงนี้ก็กลับมารับงานปกติแล้วค่ะ”
แบงค์ : “นิหน่าเขายังไม่ได้หยุดเลย ตั้งครรภ์จะคลอดลูกเขายังไม่หยุดจากงานเลย (หัวเราะ)”
นิหน่า : “ก็ยังทำงานอยู่เรื่อยๆ ค่ะ แต่ตอนนี้เวลาออกงานก็จะระมัดระวังมากขึ้น อย่างเช่นถ้าไปไหนก็ต้องใส่หน้ากาก ยกเว้นช่วงที่เราต้องทำงานก็อาจจะเป็นเฟสชีลด์แทน”
เผยตอนนี้การรักษามีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ และได้กำลังใจดีมาตลอด
แบงค์ : “ตอนนี้สุขภาพก็นิ่งมา 1 ปีแล้วครับ ก็ต้องเฝ้าระวังไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าเว้นห่างทุก 4 เดือนครับ คุณหมอก็มีให้เฝ้าระวังหลายอย่างครับ แต่เราก็จะคัดสรรอะไรที่มันเหมาะกับเรา บางคนก็แนะนำว่าอย่ากินเนื้อแดง อย่ากินอาหารทะเล อย่ากินของดิบ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย เราก็จะคัดสรรเฉพาะสิ่งที่ดีที่เหมาะกับเรา ซึ่งอาจจะไม่ดีสำหรับคนอื่นก็ได้ ก็ต้องลองปรึกษาคุณหมอดู มันมีหลากหลายวิธีครับ”
นิหน่า : “เขาออกกำลังกายเยอะค่ะ ฟิตกว่านิหน่าอีก ในขณะที่เรานอนดูซีรีส์เกาหลี กินแล้วก็นอน แต่เขาออกกำลังกาย วิ่งตลอด ก็ดีค่ะ เขาก็ได้ดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้น”
แบงค์ : “ก็ได้ภรรยาดีคอยช่วยดูแลครับ ก็ออกกำลังกายไม่ได้มากขึ้น ไม่ได้น้อยลง แต่ดูแลเรื่องการกินมากขึ้น ในเรื่องการบริโภคนิหน่าเขาก็จัดสรรของดีๆ ให้เหมาะกับร่างกายที่ดีกว่า”
นิหน่า : “คุณหมอก็จะแนะนำอาหารหลากหลายค่ะ ออกกำลังกาย คือเป็นเรื่องเบสิกที่หลายคนรู้แหละ แต่บางทีเราขี้เกียจเอง เรื่องออกกำลังกายคุณหมอก็แนะนำ แต่ว่าไม่ให้หักโหม่เกินไป ให้ออกแต่พอดีๆ อาหารก็ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าจะต้องมานั่งห้ามโน่นนี่ คือห้ามอะไรที่เป็นไขมันหรือพวกน้ำตาล อย่ากินหวานเยอะ แต่คุณแบงค์เขาเป็นคนไม่ทานหวาน ไม่ทานของมันอยู่แล้ว นอกนั้นก็ทานปกติ ทานให้หลากหลายค่ะ”
บอกลูกๆ ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจอะไรมาก แต่ก็เป็นกำลังใจได้อย่างดี
นิหน่า : “ตัวนิหน่าเองก็ยังเป็นห่วงนะคะ แต่ห่วงแบบพอดีๆ รู้สึกว่าการที่ห่วงเกินไป กังวลเกินไปก็ทำให้เราเสียสุขภาพจิตกันทั้งคู่ ฉะนั้นเราก็มั่นใจว่าเขาดูแลตัวเองดี และมั่นใจว่ามันต้องโอเค สำคัญที่สุดคือเรื่องของกำลังใจ ถ้าเราคิดว่ามันโอเค เราใช้ชีวิตปกติ เราทำตามที่คุณหมอสั่ง ทุกอย่างมันก็น่าจะโอเคค่ะ”
แบงค์ : “ลูกๆ ก็ให้กำลังใจครับ คือเขาก็รู้ว่าผมไปโรงพยาบาล ไปรักษา เขาก็ไปนอนอยู่ข้างๆ ตอนไปผ่าไส้ติ่งเขาก็ไปนอนข้างๆ”
นิหน่า : “คือเราก็คุยกับเขาเท่าที่เด็กวัยนี้จะเข้าใจ เราจะไม่ไปพูดให้มันเยอะเกิน ข้อมูลเยอะไปหรือน้อยไป เราพูดแค่ให้เขาเข้าใจ แล้วเขาก็จะไม่ถาม ไม่สงสัย ไม่กลัวด้วย เพราะฉะนั้นนี่เป็นสิ่งสำคัญในการคุยกับลูก อย่างไปโรงพยาบาลนิหน่าไปผ่าตัดเข่า ผ่าไส้ติ่ง ลูกก็ไปปูถุงนอนอยู่ด้วยกัน พยาบาลยังตกใจ ตอนคุณแบงค์ก็เหมือนกัน เขาก็เอาเก้าอี้สองตัวมาชนกันแล้วก็นอน บอกว่าเรามาเปลี่ยนที่นอนนะ คุณพ่อมารักษานะ ไม่สบายนิดหน่อย แต่โอเค แข็งแรงสู้ๆ เด็กๆ เขาเข้าใจค่ะ แล้วก็ไปออกกำลังกายกันทั้งบ้าน”
แบงค์ : “ลูกๆ เป็นกำลังใจเหมือนภรรยาเลยครับ ดูแลทุกอย่าง อย่างช่วงที่เราเข้ารับการรักษา ในการลุก การยืน การเข้าห้องน้ำ น้องแพทก็จะมาคอยดู คอยพยุงให้ เขาทราบแหละครับในจุดๆ นึง และอีกอย่างโชคดีว่าที่บ้านเรารับมือได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ น้องชาย หรือภรรยา รวมถึงลูกๆ ให้เขาเลือกที่จะเรียนรู้และเติบโตไปกับเรา กับปัญหาที่เราเจอ และแก้ไขกันไปได้สบายๆ ไม่ได้ยาก ไม่ได้กังวล อย่างที่นิหน่าบอกแหละครับ สุขภาพใจสำคัญไม่แพ้สุขภาพกายเลย ฉะนั้นเราก็อย่าไปกลัวมัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะไปหรอก (หัวเราะ)”
นิหน่า : “แต่ก็ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ มีส่งมาเยอะเลย มีทั้งกำลังใจ และมีทั้งบางท่านก็ขอคำปรึกษา ทำให้เรารู้ว่าในตอนนี้มีคนที่เขาหนักกว่าเราเยอะมาก กลายเป็นว่าสุดท้ายแล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับเรา และสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอื่นด้วย ก็อยากจะส่งกำลังใจกลับไปให้กับทุกๆ คนที่ส่งมาให้เรานะคะ ขอบคุณและซาบซึ้งใจมากจริงๆ ค่ะ”
พร้อมขอให้กำลังใจทุกคนที่ต้องผจญกับวิกฤตโควิด-19 ในตอนนี้
นิหน่า : “ก็อยากจะส่งกำลังใจให้ทุกๆ ท่านที่อาจจะเจอเรื่องราวที่หนักหนาสาหัสอยู่ตอนนี้นะคะ ลำบากใจ ลำบากกาย ก็ขอให้อดทนนะคะ อยากจะให้สู้ๆ เราต่างคนต่างก็เจอสภาวะที่ลำบากเหมือนกันทั้งนั้น มากน้อยต่างกัน แต่ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือถ้าเราไม่หมดหวังเชื่อว่าเราก็สามารถผ่านมันไปได้ค่ะ อย่าท้อนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ”
แบงค์ : “ทุกวิกฤตมีทางออกเสมอนะครับ ไม่ว่าจะเป็นปี 40 ปี 51 จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้นถ้าเรายังสู้ไปกับมัน ไม่ว่าจะคุณ ผม หรือใครก็แล้วแต่ เราไม่ได้ประสบแค่ในไทยนะครับรอบนี้ เราประสบทั้งโลกพร้อมๆ กัน ถ้าเกิดเรายังสู้ไปกับมัน และพยายามหาแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ซึ่งมันมีแน่ๆ รับรองได้ว่าการกลับมายืนบนแข้งตัวเอง กลับมาอยู่บนภาวะปกติที่ดีกว่ามันเป็นไปได้ครับ”
