จากเหตุการณ์การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส หรือ โควิด 19 ทำเอาผู้คนทั่วโลกต้องถูกล็อกอยู่บ้าน เศรษฐกิจทั่วโลกชะงักงัน บางธุรกิจถึงขั้นล้มตึงต้องปิดกิจการ แต่งานนี้มีบริษัทที่ทำยอดขายสวนทางพุ่งทะยานแบบฉุดไม่อยู่ หลังมีรายงานว่าโรงงานผลิตตุ๊กตายางจากจีนทำยอดส่งออกสูงลิ่ว
ตามรายงานระบุว่า โรงงานผลิตตุ๊กตายางระดับสมจริงที่สุดใน เซินเจิ้น ของจีน ที่มีกำลังการผลิตตุ๊กตายางตกอยู่ที่ 4,000 ตัวต่อเดือน ซึ่ง 8 ใน 10 ของกำลังการผลิตต้องส่งออกไปที่ยุโรปเพราะมีการสั่งนำเข้าเป็นจำนวนมาก
บริษัท อี้อู๋ เหยียนเชิง อี-คอมเมิร์ซ จำกัด ได้เผยว่า ตุ๊กตายางแบรนด์ Yannova มีราคาตั้งแต่ 112 ยูโร หรือประมาณ 4,100 บาท ไปจนถึง 2,250 ยูโร หรือประมาณ 82,500 บาท ในรุ่นที่ส่งเสียงได้ ซึ่งออเดอร์ส่วนใหญ่จะสั่งผ่านแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง AliExpress ของ Alibaba ที่มีเครือข่ายเข้าถึง 200 ประเทศจากทั่วโลก
ข้อมูลจาก AliExpress ได้เผยให้เห็นว่า ยอดขายเซ็กซ์ทอยเติบโตขึ้นมากถึง 50% นับตั้งแต่การระบาดของโคโรนาไวรัสจนเป็นเหตุให้มีการล็อกดาวน์ ส่วนตุ๊กตายางรายงานจาก The Paper เว็บข่าวของเซี่ยงไฮ้ระบุว่า มียอดขายเติบโตขึ้นมากกว่า 2 เท่าเช่นกัน
เหยียนซีเสวีย ซีอีโอของบริษัท อี้อู๋ เหยียนเชิง ได้เปิดเผยว่ายอดส่งออกส่วนมากของบริษัทจะส่งไปที่ สเปน, อิตาลี และ เยอรมัน เมื่อตอนที่ จูเซปเป คอนเต นายกรัฐมตรีของอิตาลี ที่ตัดสินใจสั่งปิดประเทศไปเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ยอดสั่งของจากอิตาลีพุ่งขึ้นมากถึง 500% หากเทียบเวลาเดียวกันกับเมื่อปีที่แล้ว
ทางด้าน เฉินชิง ผู้จัดการบริษัท ระบุว่า แม้ยอดจากอิตาลีจะพุ่งขึ้นสูงมากแต่ทางบริษัทจะมียอดส่งออกไปที่เยอรมันมากกว่าที่อื่น “เรามีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3,000 – 4,000 ตัวต่อเดือน ซึ่งถูกส่งไปหลักๆคือที่ยุโรป, อเมริกา และ ญี่ปุ่น เมื่อปีที่แล้วหลักคือ 90% ของการผลิตจะถูกส่งออกทั้งหมด แต่ปีนี้เนื่องจากความต้องการในประเทศเองก็มีมากขึ้นด้วยยอดส่งออกจึงจำเป็นต้องลดลงอยู่ที่ 80% ซึ่งออเดอร์จากเยอรมันเพิ่มขึ้นมากที่สุด ส่วนสิ่งที่กระทบกับเรามากที่สุดก็คือเรื่องค่าใช้จ่ายในการส่งของ เนื่องจากเส้นทางส่งของตามปกติถูกปิดกั้น ดังนั้นเราจึงต้องใช้การขนส่งทางทะเล”
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าการสั่งตุ๊กตายางที่เพิ่มขึ้นนั้นจะเกิดขึ้นเพราะต้องการปลดปล่อยความต้องการทางเพศอย่างเดียว เฉินชิง ระบุว่า ลูกค้าบางรายสั่งซื้อตุ๊กตายางก็เพื่อไปประดับตกแต่งร้านหรือธุรกิจเพื่อสร้างบรรยากาศแทนที่คนจริงๆ หรือบางคนก็สั่งไปประดับเพื่อแก้เหงาเสมือนมีเพื่อนอยู่ด้วย
ตุ๊กตายางสุดล้ำไม่ใช่แค่ตุ๊กตาเป่าลม
ซีอีโอ เหยียน ยังเผยด้วยว่า “คนส่วนใหญ่ ยังมีความคิดว่าตุ๊กตายางต้องเป่าลมเข้าไปเพื่อให้ใช้งานได้ แต่ความจริงแล้ว วัสดุที่ใช้มันถูกพัฒนาไปอย่างมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
ซึ่งตุ๊กตายางในปัจจุบันมีความสมจริงมากขึ้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 165 ซม. ผลิตจากโครงโลหะผสมและยางคุณภาพดี โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 35 กก. พร้อมกันนั้นยังมีใบหน้าให้เลือกหลากหลายถึง 160 หน้ารวมถึงขนาดรูปร่างก็มีหลากหลายให้เลือกเช่นกัน โดยทุกแบบล้วนขึ้นแบบมาจากคนจริงๆทั้งสิ้น
ทางด้าน ฟางเจีย แบรนด์เมเนเจอร์ได้เผยว่า “ลูกค้าหลักๆของเราจะเป็นผู้ชายอายุระหว่าง 30 – 35 ปีเป็นวัยทำงานที่มีรายได้ระดับกลางถึงสูง”
และดูเหมือนบริษัทผู้ผลิตตุ๊กตายางยังคงต้องคิดค้นพัฒนาต่อไป เพราะจากการสำรวจความต้องการของลูกค้า ฟางเจีย ระบุว่า ผู้ซื้อคาดหวังที่จะได้ตุ๊กตายางที่มีฟังก์ชันซับซ้อนสามารถโต้ตอบกันได้ขณะมีเพศสัมพันธ์นอกเหนือจากเสียงพื้นฐานที่ใส่เข้าไปในโปรแกรม โดยขั้นต่อไปทางบริษัทต้องการใช้ระบบ เอไอ เข้ามาพัฒนาความสามารถของตุ๊กตายางให้มีความสมจริงมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ตลาดส่งออกของธุรกิจนี้จะเติบโตอย่างมาก แต่ทางบริษัทผู้ผลิตตุ๊กตายางก็ต้องการที่จะเพิ่มยอดขายในประเทศให้เติบโตมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อในประเทศจีนมีความต้องการเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงส่งให้ในจีนมีประชากรชายมากกว่าประชากรหญิงมากมาย โดยคาดว่ามีชายโสดในประเทศมากกว่า 30 ล้านคนเลยทีเดียว จากสถิติดังกล่าว ทางบริษัทจึงอยากเปิดประสบการณ์ใหม่โดยสร้างสถานบริการทางเพศแบบป็อป-อัพสโตร์ที่ใช้งานตุ๊กตายางตามหัวเมืองใหญ่ๆอย่างเช่น เซี่ยงไฮ้
โดย iiMedia Research Group ที่วิเคราะห์การตลาดของจีนได้คาดการณ์ว่าตลาดผลิตภัณฑ์ทางเพศสำหรับผู้ใหญ่ในจีนจะมีมูลค่ามากถึง 5.86 แสนล้านบาทภายในสิ้นปี 2020 เลยทีเดียว เนื่องจากธุรกิจนี้ทำยอดขายเติบโตขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบในช่วงปี 2016 – 2018 โดยโตขึ้นจาก 1.8 แสนล้านบาท ไปอยู่ที่ 4.8 แสนล้านบาท และในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ทางเพศสำหรับผู้ใหญ่ที่ เมดอินไชน่า มียอดขายในตลาดต่างประเทศมากถึง 70% เลยทีเดียว
ไม่ใช่แค่จีนที่ยอดขายพุ่ง แต่ทั่วโลกก็พุ่งด้วย
นอกจากบริษัทในจีนจะมียอดขายเพิ่มขึ้นทะลุเพดานแล้ว Adam and Eve แบรนด์เซ็กซ์ทอยของอเมริกา ก็มียอดขายออนไลน์ในเดือน มี.ค. – เม.ย. สูงขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเช่นกัน
ทาง Wow Tech Group ของ เบอร์ลินเอง ก็มียอดขายออนไลน์ผลิตภัณฑ์แบรนด์ We – Vibe และ Womanizer โตขึ้นมากถึง 200% อีกด้วย
ขณะเดียวกัน Sex Doll Genie ผู้ค้าส่งตุ๊กตายางรายใหญ่ที่สุดของโลก ก็ทำสถิติยอดขายสูงในช่วงโคโรนาไวรัสระบาด โดยตุ๊กตายางระดับพรีเมียมราคาสูงลิ่วที่สั่งผลิตตามความต้องการของลูกค้าขายไปได้มากกว่า 2,600 ตัว ยอดเพิ่มขึ้นถึง 51.6% โดยเป็นการสั่งจากลูกค้าชายโสดในช่วงเดือน ก.พ. - มี.ค. และเพิ่มขึ้นอีก 33.2% ในเดือน เม.ย.
ด้าน Adult Toy Megastore ในนิวซีแลนด์เองก็เผยว่า ยอดขายเซ็กซ์ทอยทะลุมากขึ้นกว่า 3 เท่าในช่วง 48 ชั่วโมงก่อนมีการประกาศล็อกดาวน์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา
แม้เซ็กซ์ทอย และ ตุ๊กตายาง จะมียอดขายสูงขึ้น แต่ทาง เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ บริษัทผู้ผลิตDurex แบรนด์ถุงยางอนามัยชื่อดังก็ได้ออกมาเผยข้อมูลว่ายอดขายถุงยางอนามัยลดลงตั้งแต่เริ่มมีการล็อกดาวน์เนื่องมาจากผู้คนมีเพศสัมพันธ์ลดลงเพราะต้องรักษาระยะห่างทางสังคม
แล็กซ์แมน นาราซีมาห์น หัวหน้าฝ่ายบริหารของบริษัท ยังกล่าวด้วยว่า “ไวรัสตัวนี้กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอังกฤษไม่ใช่แค่คนหนุ่มสาวมีเพศสัมพันธ์กันลดลงเท่านั้นแต่ความเครียดที่เพิ่มขึ้นก็ยังทำให้คู่รักที่อยู่ด้วยกันมีเพศสัมพันธ์น้อยลงเช่นกัน”