“ดีเจบอย” จะไม่เอาเรื่องโรคจิตแอบถ่ายในห้องน้ำกลางฟิตเนส หากทำลายหลักฐานทิ้ง รับหวั่นอีกฝ่ายเอาไปเผยแพร่ในโซเชียล แต่ยังเห็นใจอีกฝ่าย หวั่นไม่มีที่ยืน “เจนี่” หวั่นมีอาการทางจิต แนะให้แจ้งความ
กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันที หลังจากที่ “ดีเจบอย ฌาฆฤณ” โพสต์ประณามโรคจิต แอบถ่ายในห้องน้ำฟิตเนส แถมยังเป็นคนคุ้นเคยที่เจอหน้ากันในฟิตเนสมาก่อน ล่าสุด เจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ยอมรับว่า หากอีกฝ่ายลบคลิปทิ้งจะไม่เอาเรื่อง แต่ถ้าหลุดออกมาเจอกันแน่
“เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ คือ ช่วงที่ยิมกำลังจะปิดแล้ว เป็นยิมเล็กๆ มีคนออกกำลังกายประมาณ 10 คน มีทั้งขาจรและขาประจำ แล้วพอเราออกกำลังกายเสร็จเลยขอโอกาสไปล้างตัวแป๊บหนึ่ง ตอนเข้าไปก็ไม่เจอใครแล้วอยู่ สักพักหนึ่งเข้าไปไม่ถึง 2 นาที เพราะเราเองไม่ได้อาบน้ำ แค่เข้าไปล้างตัว ให้เหงื่อหลุดไป แล้วพออยู่สักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงแก๊ก ก็เลยหันไปมองข้างหลัง เพราะเราหันหน้าเข้ากำแพงไปฝั่งฝักบัว”
“แล้วพอเราหันไปดูข้างหลัง โห้ เห็นเป็นหัวคือคนโผล่หน้าออกมาจากกำแพง เนื่องจากกำแพงไม่สูงมาก แล้วความพีกคืออยู่ที่มีมือถือกำลังจับภาพอยู่แล้วดึงลงทันที หลังจากที่เราเห็น เราเคยเห็นแต่ในโซเชียล ในหนัง ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเรา เลยทำอะไรไม่ถูก ต้องทำไงต่อ เลยตัดสินใจตะโกนไป เฮ้ยพี่ ทำไมทำกับผมแบบนี้ครับ”
ยังเห็นใจอีกฝ่าย หวั่นไม่มีที่ยืน
“ส่วนตัวตรงที่เขาเห็นเราไม่ได้ห่วง กลัวต้องการบันทึกภาพและบันทึกวิดีโอ เราซีเรียสในส่วนนั้น ตอนนั้นทำได้แค่ตะโกนไปก่อน เพื่อให้เขาได้รับรู้ว่าเราเห็นในสิ่งที่เขาทำ หลังจากนั้น บอยก็ได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่ง วินาทีนั้นหลังจากที่แต่งตัวเสร็จก็เลยตัดสินใจเดินไปปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ฟิตเนส เพื่อสอบถามข้อมูลของชายคนดังกล่าว ว่า พอจะมีช่องทางไหนติดต่อหรือสื่อสารกับเขาได้บ้าง เพราะหากเราโวยวายไป ณ ตอนนั้น เราก็แอบคิดว่าเขาเองจะมีพื้นที่ยืนในสังคมหรือไม่ คือคิดเยอะ เห็นใจเขา”
“แต่ในทางกลับกันหากภาพหรือคลิปเราหลุดไป ยิ่งเดี๋ยวนี้โซเชียลมันเร็วมาก เราก็เลยแอบกลัว เลยตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน อย่างน้อยจะได้เป็นหลักฐาน หากอนาคตเกิดอะไรขึ้น รวมถึงโพสต์ไว้ก่อนว่าเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นกับเราและเตือนไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวนี้โซเชียลเป็นบิ๊กดาต้า เสิร์จแป๊บเดียวก็เจอแล้ว ซึ่งหากคนสนิทที่แบบผู้ชายด้วยกันเห็นก็คงไม่เป็นอะไร แต่หากหลุดไปแล้วทางครอบครัวหรือเพื่อนผู้หญิงเห็น ก็มองว่าไม่เหมาะสม และไม่โอเค”
“ตอนนั้นเราก็รีบแต่งตัว แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อสอบถามกับเพื่อนว่าเห็นผู้ชายรูปร่างผอมๆ มีรอยสักหรือเปล่า เพื่อนๆ ก็เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราเองก็บอกว่าเขาแอบถ่ายและแอบขึ้นดูเราอาบน้ำเมื่อสักครู่ เพื่อนๆ ก็เลยช่วยกันตามหาก่อนที่จะมีคนมาบอกว่าเขารีบวิ่งไปขึ้นรถ และขับรถออกไปแล้ว เราเลยให้ทางเจ้าหน้าที่ฟิตเนสเช็กข้อมูลให้ในฐานะที่เขาเองก็เป็นสมาชิกของฟิตเนสดังกล่าว ซึ่งวันนี้เองเราก็จะเดินทางไปเอาหลักฐาน รายละเอียดของเขากับทางฟิตเนส”
“ส่วนใหญ่เราจะไปออกกำลังกาย 2 ช่วงเวลา คือ 18.00 น.จะไปต่อยมวย และประมาณ 19.00-21.00 น. ก็จะไปเล่นยิม จะเล่นในช่วงตอนคนน้อยๆ ซึ่งคนที่ก่อเหตุต้องบอกว่าเป็นคนที่เรารู้จักกัน แต่ไม่เคยพูดคุยกัน เป็นเพื่อนร่วมยิมกัน ยิ้มๆ ให้กันตลอด รู้จักกันสนิทกันมาเกือบ 2 ปี ไม่คิดว่าเขาจะทำกันได้ อายุเขาอยู่วัยกลางคนน่าจะประมาณ 40-45 ปี แต่ส่วนตัวดูออกว่าเขาเป็นแนวนั้น ก็เลยงงว่าจุดประสงค์จริงๆ ของเขาว่าอะไรกันแน่ ต้องการเก็บภาพเราไว้เพื่ออะไรก็ตามแต่ในสิ่งที่เขาต้องการ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการจะปล่อยคลิปเพื่อการค้า ปล่อยคลิปกัน”
ถ้าเจอตัวจะขอร้อง ให้ทำลายหลักฐาน จะไม่เอาเรื่อง
“ก็คิดว่าจะคุยกันสักนิดหนึ่ง อย่างน้อยๆ จะบอกว่าผมไม่โกรธนะ เข้าใจ แต่ขอร้องว่าไม่ปล่อยรูปหรือคลิป พร้อมให้ทำลายหลักฐานได้ไหม ผมจะไม่เอาเรื่อง จะพูดดังนั้น แต่คิดว่าเขาเองคงไม่สู้หน้าเรา เพราะส่วนหนึ่งเป็นข่าวไปแล้วและเราจับได้ว่าแอบถ่าย ซึ่งในส่วนที่เรายังจับไม่ได้ว่าเขาเองเคยแอบถ่ายคนอื่นหรือไม่นั้น ส่วนนี้ก็ต้องรอดูกันอีกที ทั้งนี้ ส่วนตัวจะไม่ติดตามหรือตามตัวเขาหากวันนี้ไม่ได้เจอ และพร้อมเดินหน้าดำเนินการให้ถึงที่สุดหากภาพของเราหลุดออกมา แต่หากยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือสร้างความเสียหายให้กับเราก็จะปล่อยไปก่อน”
“เจนี่” หวั่นมีอาการทางจิต ให้แจ้งความ
“ก็มีคุยกับพี่สาว พูดเชิงดักไว้ก่อน หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วไป ผ่านไปเป็นอุทาหรณ์ แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นหรือภาพหรือคลิปหลุดออกมา อันนี้เดี๋ยวเจอกัน ขณะที่ทางเพื่อนๆ เอง อย่าง เจนี่ (เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร) ก็ได้โทร.มาให้กำลังใจ พร้อมบอกว่าฝั่งโน้นมีอาการทางจิตหรือเปล่า ซึ่งส่วนตัวเราเองไม่ได้โฟกัสตรงจุดนั้น เป็นเรื่องที่เราไม่อยากรู้ เจนี่เลยแนะให้ไปแจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐานป้องกันไว้ พร้อมให้เราระวังตัว”
เตือนใช้ห้องน้ำในที่สาธารณะต้องระวัง
“ฝากไว้ 2 ส่วน คือ คนที่ใช้ฟิตเนส ห้องน้ำห้าง หรือห้องน้ำปั๊มน้ำมัน เวลาจะใช้บริการควรจะต้องระมัดระวังและตรวจสอบให้ดี เพราะเรื่องพวกนี้ เราไม่รู้เลยว่าจะเกิดขึ้นกับเรารึเปล่า และมันใกล้ตัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และอีกหนึ่งส่วนคือกลุ่มคนที่ทำเรื่องดังกล่าว ไม่ว่าจะทำเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง หรือจะนำไปสนองความต้องการให้คนอื่น หรือนำไปเพื่ออะไรก็ตาม มันไม่ดี ให้คิดถึงใจเขาใจเรา เพราะคนที่ถูกแอบถ่ายคนที่โดนกระทำมันเสียหายจริงๆ นะ ก็ขอให้หยุดเถอะ เพราะสังคมสมัยนี้เป็นสังคมที่ทำอะไรต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน”