xs
xsm
sm
md
lg

ทวีตผิดเพราะคิดน้อย! “เต ตะวัน” ขอโทษ ปัดเป็นโฆษกแก้ปัญหาให้ดารา gmmtv

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เต ตะวัน” เปิดใจผมไม่ใช่โฆษกจีเอ็มเอ็มทีวี รับมีน้องๆ ในค่ายมาปรึกษาบ้าง แต่แค่รับฟัง เคสไหนช่วยได้ก็ช่วย เผยทุกโพสต์ที่ทวีตไป มาจากการคิดและตกตะกอนกับเรื่องที่เจอมา ไม่ได้พาดพิงบุคคลใด รับนอยด์บ้างถ้าคนจะตีความผิดจนโยงให้เป็นเรื่อง

ไม่ว่า Gmmtv จะเกิดอะไรขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดความร้อนแรงในทวิตเตอร์ ลุกลามจนกลายเป็นแฮชแท็กร้อน #นักแสดงตึกเจ็มเป็นไรมากปะ ทำเอาทั้งค่ายสั่นสะเทือนไปช่วงหนึ่ง นอกจาก “คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์” และ “กัน อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์” ต้องมาตั้งโต๊ะชี้แจงแล้ว อีกหนึ่งชื่อที่ชาวทวีตมักจะพูดถึงคือ “เต ตะวัน วิหครัตน์” ที่หลายคนให้ฉายาว่าเป็น “พี่ชายที่แสนดี” เพราะไม่ว่าค่ายนี้จะเกิดดรามาอะไร “หนุ่มเต” ก็มักจะขี่ม้าขาวมาสยบดรามานั้นๆ ล่าสุด เจ้าตัวก็เอ่ยปากว่าบางอย่างที่ทวีตไปก็มาจากใจ โพสต์ไว้ก็เหมือนไดอารี่ส่วนตัว ไม่ได้พาดพิงถึงใครทั้งนั้น ส่วนถ้าจะกระทบจิตใจใครก็ต้องขออภัย รับว่านอยด์ถ้าหากถูกโยงไปเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับตนเอง

“ไม่มีอะไรหรอกครับ คนอาจจะแซวเล่นๆ มากกว่าเรื่องว่าถ้าเกิดอะไรในค่ายก็ต้องให้พี่เตออกมาเคลียร์ ซึ่งการที่ผมโพสต์ในทวิตเตอร์เป็นข้อคิดต่างๆ นิสัยอันนี้ผมติดมาจากคุณย่ามากกว่า ผมเป็นคนชอบเขียนและคุณย่าเองก็เป็นนักเขียน และย่าก็สอนให้เราเขียนตั้งแต่เด็ก และเวลาผมพูดอะไรออกไปมักจะเรียบเรียงคำพูดไม่ค่อยได้ ผมเลยคิดว่าทวิตเตอร์คือไดอารี่ของเรา บางทีเราเห็นเรื่องนี้มา เราก็เอาเรื่องนั้นมาทวีตเก็บเอาไว้ เป็นไดอารี่ความทรงจำของเรา ซึ่งบางทีก็ต้องขอโทษด้วยถ้าเราทวีตไปแล้วมันไม่ตรงจังหวะหรือทวีตไปแล้วไปพอดีกับเหตุการณ์อื่นๆ ในขณะนั้น ก็อาจจะทำให้คนเข้าใจผิด มีเรื่องมีราวได้ ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

“คือถามว่ามันพอมันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น เราจะทำยังไง ซึ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะมันเกิดไปแล้ว เปรียบเหมือนไฟกำลังลุก และถ้าเราออกมาพูดมันอาจจะยิ่งทำให้เรื่องมันยิ่งแรงขึ้น บางทีเราเองก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย แต่ถูกโยงไปเฉย หรือบางทีเราอาจจะได้ฟังมาจากคนอื่น และเราก็เอามาคิดเหมือนมันตกตะกอนได้เอง ตามที่คุณย่าเคยสอนมา ก็เลยเอามาทวีตลงในโซเชียล (ซี่งหลายทวีตเรา ก็ดันไปตรงกับเหตุการณ์ของน้องๆ พอดี?) สิ่งที่เราทวีตไปมันก็มาจากเรื่องราวของคนใกล้ตัวเรานี่แหละ บางทีเราก็ทวีตไปโดยไม่รู้ตัว หรือทวีตไปขณะที่เรื่องมันคุกรุ่นอยู่ อันนี้เราก็คิดน้อยไป ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วย

โต้โพสต์ปกป้องน้องในค่าย เพียงแค่จังหวะมันพอดี ปัดเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย เรื่องตัวเองยังเอาไม่รอดเลย
“อย่างบางคนมองว่าผมโพสต์เพื่อปกป้องน้องๆ ในค่ายหรือเปล่า เพราะอย่างที่บอกโพสต์ไปมันบังเอิญไปพอเหมาะกับเหตุการณ์นั้นพอดี ซึ่งเราไม่ได้โพสต์หรือทวีตเพราะจุดประสงค์นั้นเลย บางทีผมได้ยิน ได้ฟังเรื่องต่างๆ มาจากทุกคน และเราก็เอามาคิด ตกตะกอนด้วยตัวเองและก็มาโพสต์ มาแชร์ให้กับทุกคนได้อ่าน ข้อความในประโยคอาจจะเป็นข้อคิดให้กับเขาได้มาก”

“(คนเลยบอกว่าถ้าในค่ายเกิดดรามา จะมีเต ตะวันขี่ม้าขาวมาช่วย?) ผมว่าตอนนี้ผมเอาตัวเองให้รอดก่อนดีไหม (หัวเราะ) ถามกดดันไหม ผมว่าเขาก็แซวเล่นๆ ไม่ได้เก็บเอามาคิดว่าเป็นเรื่องซีเรียสอะไร แต่เวลาเจอเพื่อนๆ ก็จะมีการแซวเกิดขึ้นว่าเป็นที่ปรึกษาแล้วเหรอ เราก็ขำๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่ไม่ได้เป็นเสาหลักอะไรของค่าย เพราะมันก็ทำให้ผมเริ่มเครียดและคิดว่าจะพิมพ์อะไรต้องระวังให้มากขึ้น ว่าเรื่องอะไรที่เราจะพิมพ์แล้วจะไปกระทบคนอื่นไหม ซึ่งบางทีคำพูดเราอาจจะพิมพ์ไปกลางๆ แต่อาจจะไปกระทบกับคนอื่นก็ได้ เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มามันทำให้เราต้องคิดให้มาก คำพูดมันเป็นดาบสองคมมากๆ ถึงคำนั้นมันจะดีแค่ไหน แต่ถ้ามันไปกระทบกับความรู้สึกของใครในช่วงเวลานั้น มันอาจจะทำให้เกิดเรื่อง สร้างความไม่พอใจให้กับคนๆ นั้น จึงทำให้ผมต้องระมัดระวังการใช้โซเซียลให้มากขึ้น”

รับนอยด์เวลาคนเอาสิ่งที่ตนโพสต์ไปตีความผิด แต่ยังไงก็ขอโทษ พร้อมไม่ตอบโต้กลับ
“และบางอย่างเวลามันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เราก็จะเอาเรื่องนั้นมาคิดทบทวนว่ามันเป็นยังไง เราเคยแบบนี้ไหม และช่วงที่ผ่านมามันมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นมา เอาเก็บมาคิดและทบทวน บวกกับเราได้รับข้อมูลมาช่วงนั้นพอดี แต่เราไม่ได้ตั้งใจจะสื่อว่าเป็นใครตรงๆ แต่เหมือนว่าเราตกตะกอนเกี่ยวกับตัวเองมากกว่า และเดี๋ยวนี้จะทวีตอะไรแต่ละที ต้องระวังมาก เพราะคำเพียงไม่กี่คำ หรือเพียงไม่กี่ตัวอักษร เราต้องระวังเพราะมันคิดได้หลายมุมมากๆ ใครจะเอาไปตีความแค่ไหน มันอาจจะส่งผลดีต่อคนกลุ่มนึงที่ได้ประโยชน์ แต่ในอีกด้านนึงคนที่ไม่เข้าใจ เขาอาจจะเอาไปตีความแบบผิดๆ ฉะนั้นเป็นอุทาธรณ์สอนใจให้ผมมากๆ”

“ซึ่งบางประโยคที่เราโพสต์ไปก็มีคนเอาไปตีความเป็นอีกแบบ แต่ไม่ขอยกตัวอย่างนะครับ บางทีเราโพสต์เป็นคำพูดกลางๆ แต่ก็มีคนจับเอาไปโยงกับเหตุการณ์นั้น เหตุการณ์นี้ บางทีจังหวะมันก็แมตช์กันพอดี ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เราจะออกมาพูดก็ไม่ได้ เราก็อึดอัดใจมาก ซึ่งถามว่านอยด์ไหม ผมเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว เพราะผมไม่อยากให้ใครเข้าใจผมผิด บางทีเราจะเครียดมาก คืออยากพิมพ์มาก อยากจะอธิบายให้คนเข้าใจ แต่ถ้าเราอธิบายไป มันก็จะต่อความยาวสาวความยืดไปอีก หรือว่าจะทำให้มันบานปลายไปอีกไหม เลยรู้สึกว่าไม่อธิบายดีกว่า อยู่เงียบๆ ไป”

“ส่วนในชีวิตจริงจะเป็นที่ปรึกษาให้น้องๆ เลยไหม ก็คือ ถ้าใครมีปัญหาอะไรก็จะมาเล่าให้ฟัง แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยเยอะ เพราะเรางานเยอะมาก เราไม่ค่อยได้เจอใครเลย อย่างช่วงก่อนก็จะมีน้องๆ มาเล่าให้ฟังมากกว่า เพราะเห็นว่าเราเป็นรุ่นพี่ มาเล่า มาระบายให้ฟัง บางคนเขาบอกว่ามาคุยกับผลแล้วเขาสบายใจ ก็เลยอยากมาระบายให้ฟังมากกว่า แต่อย่างที่บอกว่าผมให้คำแนะนำไม่เก่ง เป็นคนเรียบเรียงคำพูดไม่เก่ง ผมได้แต่รับฟังให้เขาสบายใจ ซึ่งถ้าให้สอน ให้พูดยาวๆ มักจะไม่ได้ แต่ในฐานะความเป็นพี่ ถ้าเราเคยมีประสบการณ์นั้นมาแล้ว เราก็จะเอาสิ่งนั้นมาสอนเขา แต่บางทีมันแล้วแต่เคสเฉพาะมากๆ หรือมันเป็นเรื่องส่วนบุคคลจริงๆ เราจะแนะนำเป็นเคสๆ ไป”








กำลังโหลดความคิดเห็น