xs
xsm
sm
md
lg

เผาแล้ว “แม่โอ วรุฒ” “นีโน่” เผยมรดกเงิน 9 แสน-บ้านที่เชียงใหม่ เตรียมจัดสรรให้ทายาท 2 คน อย่างเป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เผาแล้ว “แม่โอ วรุฒ” ด้าน “นีโน่ เมทนี” เผยสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้เพื่อนรัก เตรียมจัดสรรมรดกหลังครบ 100 วัน “แม่ปุ๊” แบ่งทายาททั้ง 2 คน อย่างเป็นธรรมที่สุด ลั่นเหลือบ้านที่เชียงใหม่ เงิน 9 แสน จากงานศพโอ เผยตอนนี้ “แอร์บัส” ลูกโออีกคนยังไม่ติดต่อมา ย้ำไม่ใช่ผู้จัดการมรดก

เป็นอีกหนึ่งวันที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัว “วรธรรม” หลังจากที่ “แม่ปุ๊ อรพิน วรธรรม (กุญชร ณ อยุธยา)” คุณแม่ของอดีตพระเอกหนุ่มโกโบริในตำนาน “โอ วรุฒ วรธรรม” เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลื่นล้ม และเข้ารับการรักษาตัวห้องไอซียูนานร่วมเดือน ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ในวัย 84 ปี โดยญาติได้นำร่างของแม่ปุ๊มาประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดศรีเอี่ยม ย่านบางนา กรุงเทพมหานคร

วันนี้ (11 ก.ค. 63) ที่บริเวณศาลา 5 ครอบครัววรธรรมได้จัดพิธีฌาปนกิจศพ ท่ามกลางบรรยากาศเศร้า พิธีสงฆ์เริ่มขึ้นในช่วงเวลา 13.00 น. หลังจากบำเพ็ญกุศลอุทิศให้ผู้ล่วงลับ พร้อมด้วย พระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ หลังจากนั้น จะเป็นการเคลื่อนศพวนรอบเมรุจำนวน 3 รอบ ก่อนเคลื่อนไปตั้งที่เมรุ

จากนั้นเวลา 16.00 น. เป็นขั้นตอนการทอดผ้าบังสุกุล จำนวน 10 ผืน แด่พระสงฆ์ ต่อมาเวลา 16.10 น. เป็นการกล่าวประวัติผู้วายชนม์และคำไว้อาลัยโดยญาติคนสนิท ก่อนจะเริ่มพิธีวางดอกไม้จันทน์และฌาปนกิจศพในช่วง 16.30 น.

ในส่วนของคนบันเทิงที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัยนั้น มีเพียง “นีโน่ เมทนี บุรณศิริ” เพื่อนซี้คนสนิทของโอ ที่มาพร้อมคุณแม่ “ธารารัตน์ บุรณศิริ” ตลอดจน อุ้ย สุธิตา เกตานนท์, โยโกะ ทาคาโน่ และ ดุ๊ก ภาณุเดช วัฒนสุชาติ เท่านั้น

ด้าน “นีโน่ เมทนี” ได้เปิดใจถึงสิ่งที่จะทำให้เพื่อนรักเป็นครั้งสุดท้าย คือ การจัดสรรมรดกให้ทายาท 2 คน อย่างยุติธรรม เนื่องจากไม่มีพินัยกรรม โดยจะดำเนินการหลังจากครบ 100 วัน แม่ปุ๊ไปแล้ว ย้ำตนไม่ใช่ผู้จัดการมรดก

“ลูกหลานที่เหลืออยู่ทุกคนของป้าแกก็มาร่วมส่งแกด้วยกัน วันนี้ที่ 13 หลานๆ จะไปลอยอังคารกันที่ดอยเต่า คือ ทุกคนในครอบครัวเขาก็ไปลอยที่ดอยเต่ากันหมด พอดีมีพระอาจารย์ที่วัดที่ดอยเต่า ที่เป็นที่นับถือของครอบครัววรธรรมอยู่ด้วย ก็เลยลอยกันที่นั่น ก็เอา 4 คนลอยอยู่ด้วยกันหมดเลยที่ดอยเต่า จะได้อยู่ด้วยกันต่อ”

“ไม่มีอะไรต้องสานต่อให้ครอบครัววรธรรมแล้ว หมดแล้ว ก็เหลือทายาทเขา ก็ดูทายาทเขาต่อไปเท่าที่เราจะทำได้ ตามวาระ ตามสิ่งที่ควรจะเป็น”

ยกบ้านที่เชียงใหม่ให้ “น้องเอ้ก” ลูกชายโอ แต่ก็ยังมี “แอร์บัส” อีกคน เผยแม่ปุ๊ไม่ได้ทำพินัยกรรมให้ลูกหลาน
“ส่วนเรื่องพินัยกรรม ปัญหาคือไม่ได้ทำไว้ ไม่มีพินัยกรรม ก็ใช้ความเป็นจริง ก็ไม่มีอะไรเยอะมาก มีเงินสดอยู่ก้อนนึงไม่ถึงล้านแล้ว ประมาณ 8-9 แสน มีบ้านที่เชียงใหม่หลังนึง ก็ยกให้น้องเอ้ก ก็เดี๋ยวดูว่าน้องเอ้กจะยังไง แล้วก็ยังมีแอร์บัสอีกคนนึงอีก ก็เดี๋ยวต้องคุยกัน”

“ส่วนจะแบ่งยังไง ผมว่าไว้พ้น 100 วันก่อน ผมยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับญาติๆ เขาเลย ผมก็ต้องทำหน้าที่คุย แต่สิทธิ์จริงๆ ทางกฎหมายก็ต้องเป็นลูกสองคนนั่นแหละ เดี๋ยวว่ากันไป อะไรจะเกิดก็ให้มันเป็นไปตามเรื่องของความเป็นจริง ผมไม่มีผลประโยชน์ตรงนี้อยู่แล้ว ผมถือว่าโอเขาก็มีทายาทอยู่ 2 คน ก็ต้องว่ากันไปตามนั้น เอ้กเขาก็ไม่เคยบอกว่าอยากจะได้ บ้านเอ้กก็ไม่เคยบอกว่าอยากได้ แต่ความรู้สึกของผมเอง ผมคิดเองว่าถ้าในฐานะที่เป็นลูกชายเขาก็ควรจะได้ไป”

“แอร์บัสมีส่วนของทุนการศึกษา ต้องให้เขาเหมือนกัน ทางแอร์บัสนี่ไม่ได้ติดต่อมาเลย นี่เพิ่งได้เบอร์มา เดี๋ยวจะต้องโทร.ไป”

พยายามจัดสรรให้ดีที่สุด ไม่ใช่ผู้จัดการมรดก
“เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด ไม่รู้จะพูดยังไง เงินก็ไม่ใช่เงินเรา บ้านก็ไม่ใช่บ้านเรา แต่ของจริงๆ ก็เป็นของโอทั้งนั้นแหละ ทุกอย่างคือของโอหมดเพราะโอเป็นคนหา เป็นคนซื้อ โอเป็นคนทำ รวมถึงเงินสดที่ผมพูดไปแล้วว่าเป็นเงินจากงานศพโอที่แฟนคลับคนที่รักโอ โอนมาให้แล้วก็อยู่ดูแลพ่อแม่โอมาได้ตลอดจนท่านสิ้นทั้งสองคนก็ยังเหลือเงินอยู่ 9 แสนกว่า ก็ต้องมาดูกัน”

“มันเป็นเงินที่มาจากความบริสุทธิ์ของคนที่รักโอ ก็ดูแหละครับ ใครทำอะไรไว้ดียังไง ผมก็ว่ากันไปตามนั้น ใครดูแลพ่อดูแลแม่ผมก็ต้องแบ่งให้ เป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวทุกคนจะนึกว่าผมเป็นผู้จัดการมรดก ผมไม่ใช่นะ ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย แม่ปุ๊ก็ไม่ได้แต่งตั้งผมเป็นทางการอะไรด้วย ฉะนั้น ก็เอาไปตามความเป็นจริง ตามกฎหมาย ตามทุกอย่างที่เป็นอยู่ ก็ให้แม่ไปให้ครบ 100 วันก่อนค่อยว่ากัน ทำบุญอะไรให้เรียบร้อยก่อน”

“ถ้าถามความผูกพัน ก็เล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ป้าปุ๊ ลุงแรมก็เห็นเรามาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ก็หมดแล้ว เหลือน้อยเต็มทีแล้ว แอร์รุ่น 1 เป็นความผูกพันกัน คือพ่อแม่เรารู้จักกันมาก่อนที่ผมกับโอยังไม่เกิด ตั้งแต่แม่ผมยังเป็นแอร์อยู่การบินไทย”

เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้ โอ วรุฒ เพื่อนรัก
“ก็พยายามครับ ผมเองก็เครียดนะ เพราะผมไม่ใช่ผู้จัดการมรดกนะ ผมก็ทำหน้าที่ของผมในฐานะพี่ชายโอเท่านั้นเอง พยายามทำให้ดีที่สุด ผมว่าโอคิดยังไงผมก็คิดตามโอแหละ แต่โอเขาก็ไม่ได้ทันพูดกับเรา (หัวเราะ) คุยครั้งล่าสุดคือเขาฝากพ่อแม่อะไรอย่างนี้ ให้ช่วยดูถ้าเขาเป็นอะไร เราก็ทำให้ โอจะพูดถึงพ่อแม่เขามากกว่าลูกนะ”




















กำลังโหลดความคิดเห็น