เพื่อนจุฬาฯ หลั่งน้ำตา "เติม ชนินทร" หมดหวังรักษา - ติดต่อซื้อปืนในเน็ต สลดแชตสุดท้ายก่อนปลิดชีพ

สลด เพื่อนจุฬาฯ เล่าทั้งน้ำตา "เติม ชนินทร" ติดต่อซื้อปืนจากอินเตอร์เน็ต ต่อสู้กับความป่วยจนจิตใจแย่ ซึมเศร้า ต้องพบจิตแพทย์ พ้อต้องกล้าหาญเพียงไหนถึงทำแบบนี้ ทั้งที่เกลียดและกลัวปืน เผยแชตสุดท้าย ปลดล็อกแล้ว

บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก สำหรับพิธีฌาปนกิจศพ "เติม ชนินทร ประเสริฐประศาสน์" ผู้กำกับแรงเงา-เพลิงบุญซึ่งเสียชีวิตเพราะฆ่าตัวตายบนวีลแชร์ โดยหลังจากที่เคลื่อนศพไปยังเมรุ เพื่อนสนิทจากจุฬาฯ รุ่น 16 ได้กล่าวความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนพร้อมเสียงสะอื้น เผยถึงวันแรกที่เพื่อนป่วย จนถึงวันสุดท้ายที่เพื่อนรักตัดสินใจจบชีวิตตนเองด้วยการฆ่าตัวตาย

“ในช่วงเดือน ก.พ. 61 เติมได้ล้มป่วยลงด้วยอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้น้ำท่วมปอด หอบหายใจเหนื่อยลำบาก จนแทบนอนไม่ได้ และมีกล้ามเนื้อหัวใจตายบางส่วน เติมได้แอดมิดเข้ารักษาตัวด้วยการสวนหัวใจ ทำบอลลูนและมีโรคแทรกซ้อนเช่นกรดไหลย้อน เครียด นอนไม่หลับ แผลกดทับรวมไปถึงโรคเดิมคือโรคเบาหวาน"

"เติมรักษาตัวเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งจนอาการดีขึ้น จนเริ่มทำงานถ่ายทำแรงเงา 2 แต่อาการเจ็บป่วยต้องเกิดขึ้นอีกครั้งจนต้องหยุดถ่ายทำเพื่อรักษาตัวนาน 5 เดือน จึงกลับมาทำต่อจนเสร็จ นับว่าตลอดการถ่ายทำแรงเงา 2 เติมต้องสู้กับอาการเจ็บป่วยไปพร้อมๆ กับการทำงาน จนบางครั้งก็มีอาการฉุนเฉียวใส่ทีมงานบ้าง"

"จากนั้นอาการป่วยยังทรุดๆ ทรงๆ จนทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ นอนได้น้อย จึงได้เดินทางไปพบกับจิตแพทย์ ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเติมมีอาการซึมเศร้า และแพทย์ก็ได้สั่งยามาให้ทาน คู่กับยารักษาหัวใจ และได้เริ่มฝึกอานาปานสติควบคู่ไปด้วย"

"ต้นปี 2563 เติมได้เข้าแอดมิดอีกครั้งด้วยอาการลิ้นหัวใจรั่ว ที่สืบเนื่องจากปัญหาเดิมของปอดและหัวใจ เกิดน้ำคั่งในร่างกายมากขึ้น จนต้องมีการเจาะน้ำออก แต่ไม่กี่วันก็กลับมาอีก อาการป่วยเริ่มหนักขึ้น จึงแอดมิดอีกครั้ง และการแอดมิดครั้งนี้ทำให้เติมมีกำลังใจมากขึ้น เพราะแพทย์ได้วินิจฉัยแล้วว่าจะสามารถผ่าตัด หรือรักษาอย่างไรต่อไป"

"แม้อาการของโรคหัวใจจะดีขึ้น แต่ก็มีส่งผลให้ค่าตับกับค่าไตแย่ลง จนต้องควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด กินได้แต่รสจืด ห้ามกินเค็มหรือหวานเลย ซึ่งเติมหงุดหงิด เพราะปกติเป็นคนเอ็นจอยอีทติ้งมากๆ เติมยังเคยพูดกับน้องๆ ว่ากินอาหารแค่วันละ 24 มื้อเอง เติมต้องทนกับการควบคุมอาหาร และทนอีกหลายอย่างจนเกิดเป็นแผลกดทับ อ่อนเพลีย เหนื่อย เดินไม่ไหว นอนได้น้อย จนต้องใช้วีลแชร์ ท้องอืด น้ำหนักลดลงจนเหลือ 74 ก.ก."

"จากหลังนั้น แพทย์แจ้งอาการต่ออีกว่าอาการลิ้นหัวใจรั่ว ไม่สามารถผ่าตัดได้ เพราะเสี่ยงเกินไปมาก ความหวังในการรักษาหาย เหมือนดับวูบลงไปในทันที และการป่วยเรื้อรังทำให้เติมบ่นเบื่อหน่ายบอกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป"

"ผมขอเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าอาวุธปืนมันสามารถหาซื้อได้ทางอินเตอร์เน็ตได้ไม่ยาก เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา เติมโทร.มาบอกว่าพรุ่งนี้จะไปนั่งรถเล่นกับแท็กซี่ขาประจำ ผมเลยอาสาว่าอยากไปไหน เดี๋ยวพาไปเอง เติมบอกว่าไม่ต้อง ไม่ยอมให้ผมไปเป็นเพื่อน ผมสัมผัสได้ถึงคำพูดบางอย่าง ทำให้ผมพูดกับเติมไปว่าอย่าคิดทำอะไรไม่ดีนะ เติมตอบกลับมาว่ากูไม่ทำหรอก กูก็กลัวตายนะ และยังมีภาระอีกหลายอย่าง"

"ถัดมาอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย. เวลา 10.10 น. แท็กซี่ขาประจำมารับเติมที่คอนโด และไปส่งที่ปั๊ม ปตท. เลียบทางด่วน และบอกแท็กซี่ว่าไม่ต้องรอ เดี๋ยวกลับเอง ซึ่งแท็กซี่บอกว่าเติมได้ขึ้นรถไปพร้อมกับชาย 2 คน ที่สวมมาสก์และหมวกสีดำ ขับรถวีโก้มารับ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนที่เติมติดต่อซื้อปืนทางอินเตอร์เน็ต"

"เวลา 15.04 น. ผมไลน์ถามว่าอยู่ไหน เติมบอกว่ากำลังจะกลับบ้าน เวลา 17.04 น. เติมไลน์มาบอกว่าถึงบ้านแล้ว อยู่ตึกเล็ก ผมถามว่าจะกลับตึกใหญ่ตอนไหน กลับยังไง กลับไหวไหม เติมตอบว่ากลับค่ำๆ ไม่ต้องห่วง รปภ. ยุทธ์พากลับ"

"เวลา 18.40 น. ผมโทร.เข้าไปหาเติม แต่เติมไม่รับสาย เวลา 19.51 น. พี่แต้วโทร.มาด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่าแม่บ้านวิ่งมาบอกว่าเติมยิงตัวเอง ผมจึงรีบขับรถมา แต่เติมก็ได้จากไปแล้ว"

"คนเราจะต้องกล้าหาญเพียงไหนถึงจะทำอย่างนี้ได้ ทั้งที่ตลอดมาเติมจะเกลียดและกลัวอาวุธปืนเป็นที่สุด เติมตัดสินใจด้วยสติ ด้วยความแน่วแน่ ด้วยความตั้งใจ เพื่อหนีจากโรคร้ายที่รุมเร้า เพื่อไม่ต้องการเป็นภาระใดๆ"

"คำพูดประโยคสุดท้ายที่เติมส่งมา ซึ่งไม่ปรากฎข้อความตามแชตปกติ กลับขึ้นเป็นข้อความ Annoucer (แจ้งประกาศ) อยู่ด้านบนไลน์ ซึ่งมารู้ที่หลังว่าการตัดสินใจเมื่อวันเสาร์ กูปลดล็อกโล่งสบายแล้ว"

"ในการเป็นนักเขียน เติมเขียนด้วยความคิดสร้างสรรค์อันยอดเยี่ยม ทำการบ้านอย่างละเอียด ทุกบทละคร ทุกตัวละครมีมิติ มีแก่นเรื่องสีสัน"

"ในฐานะผู้กำกับ เติมเป็นผู้กำกับหาตัวจับยาก ในตอนทำงานออกกองถ่าย สร้างสรรค์บรรยากาศผ่อนคลาย สนุกสนาน ทำให้ทุกคนมีความสุขและทำให้ได้งานที่ดี"

"เติมเป็นที่รักของเพื่อนและคนในวงการ มีน้ำใจให้กับทุกคน แม้กระทั่งช่างไฟ ช่างกล้อง รปภ."

"วันนี้เติมได้จากพวกเราไปโดยไม่ได้ร่ำลา เติมเขียนบทละครฉากสุดท้ายให้กับตัวเอง กำกับและแสดงเอง เป็นละครชีวิตจริงที่ผมขอให้ทุกท่านเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของเพื่อนคนนี้"

"ผมเชื่อว่าเติมรับรู้ได้ถึงน้ำใจและความรักที่ทุกคนมีให้ เติมจะต้องยิ้มดีใจ ภูมิใจ และเป็นสุขอยู่บนดินแดนสัมปรายภพ ไม่ต้องทนกับอาการเจ็บป่วยและความทุกข์ ขอให้เติมหลับให้สบาย พวกเราจะจดจำเติมไว้ในความทรงจำ"