"ปู" เจ็บใจถูกหลอก หญิงขอ 100 ค่าแพมเพิสลูก ใจดีให้ 1,000 กร้าวไม่ถอนแจ้งความ

"ปู กนกวรรณ" ปรี๊ดถูกหญิงหลอกขอเงินกลางไลฟ์ ขอ 100 ใจดีให้ 1,000 ลั่นไม่คิดเอาเงินคืน แต่เสียความรู้สึก เผยอีกฝ่ายโทร.หายิกๆ กลัวถูกแจ้งความ จวกใช้เด็กเป็นเครื่องมือหากิน จะถอนแจ้งความก็ต่อเมื่อเด็กอยู่ในตู้อบจริงเท่านั้น

เมื่อเวลา 14.00 น. “ปู กนกวรรณ บุรานนท์” นักแสดงและภรรยาตลกชื่อดัง “เด๋อ ดอกสะเดา” หอบหลักฐานขึ้น สน. บางนา แจ้งความเอาผิดหลังชาวเน็ตคนหนึ่งที่ได้เข้ามาเมนต์ว่า "ช่วยค่าแพมเพิสหนูหน่อยได้มะ 100 บาท ถือว่าช่วยลูกหนู” ทำให้เห็นใจและโอนเงินไป 1,000 บาท จากนั้นก็ได้ทักแชตหาว่าได้รับเงินหรือยัง ปรากฏเขากลับตอบกลับว่า “นี่! ไม่ใช่บัญชีหนู และชื่อหนู” เจ้าตัวก็เลยคุยไปคุยมาจนคนดังกล่าวโป๊ะแตก ยอมรับว่าที่ทำไปเพราะลำบากจริงๆ แต่เธอก็มองว่าการหลอกลวงคนอื่นเป็นสิ่งไม่เหมาะสมจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

หลังจากแจ้งความเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฉ้อโกง โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งปูก็ได้เผยถึงเรื่องราวในครั้งนี้

“ตอนนี้เราก็มีธุรกิจเล็กๆ นะคะ เราก็จะไลฟ์ทุกวันอาทิตย์ ปรากฎก็มีข้อความมาว่าขอเงิน 100 บาท ช่วยค่าแพมเพิสลูกหนูหน่อย ตอนนั้นก็ยังยุ่งๆ เลยยังไม่ได้ตอบอะไร ทีนี้พอหลังจากไลฟ์เสร็จก็ไปเช็กในกล่องข้อความก็จะมีส่งคลิปมาให้ เป็นเด็กในตู้อบ ซึ่งดูแล้วก็น่าสงสารนะคะ ประกอบกับนึกขึ้นได้ว่าพี่เด๋ออ่านคอมเมนต์ว่ามีคนมาขอตังค์ 100 นึงค่าแพมเพิส เราก็ไปย้อนคลิปดู เขาก็ส่งเบอร์บัญชีมา ก็ปรากฎว่าเป็นคนเดียวกัน เป็นเฟซคนเดียวกัน”

“เขาขอ 100 เราก็โอนไปให้ 1,000 บาท แล้วก็ส่งสลิปไปให้เขาตอนประมาณเกือบเที่ยงคืนครึ่ง บอกว่าพี่โอนแล้วนะ ถ้าเขาตอบกลับมาว่าขอบคุณค่ะพี่ ก็คือจบ แต่เขาตอบว่าพี่โอนไปให้ใครบัญชีไหน นี่ไม่ใช่หนูนะคะ อ้าวมันก็เป็นเรื่องแล้วใช่ไหมคะ เราก็เลยบอกว่าแสดงว่าน้องโดนปลอมเฟซแล้วนะ แต่ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่จะไปแจ้งความให้ เราจะจับผิดไอ้คนนี้มาให้ แต่น้องรู้จักคนนี้ไหม เขาก็บอกว่าหนูลำบากมากเลย แล้วก็เป็นเรื่องอื่นเยอะแยะ แล้วสุดท้ายเขาก็บอกว่ารู้จักคนนั้น เราก็ถามว่าแล้วปล่อยให้เขามาใช้เฟซน้องได้ยังไง แต่ไม่เป็นไรพรุ่งนี้พี่จะแจ้งความเดี๋ยวพี่ช่วย พอเรายืนกรานว่าจะแจ้งความเขาก็ยอมรับว่านี่บัญชีหนูเองค่ะ”

“ถ้าไม่มีลูกเล่นอะไรก็ไม่น่าจะสร้างเรื่องได้ขนาดนี้ ปูก็เลยคิดว่าเขาคงสร้างเรื่องให้เราสงสารและโอนไปให้อีก เพราะเราโอนไปบัญชีผิดคน เจตนาในการช่วยเราผิดแล้ว แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น เรากลับจะช่วยเขาหาความจริงว่าคนที่ทำปลอมนี่มันคือใคร แต่เท่าที่คุยมาไม่มีคุยเรื่องแพมเพิสลูกเลยค่ะ สุดท้ายสรุปว่าเอาตังค์ไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ปูก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นโอนเงินคืนกลับมาเดี๋ยวนี้ เขาก็บอกว่าพรุ่งนี้บ่ายนะคะพี่โน่นนี่ แล้วก็บล็อกปูไปเลยค่ะ”

“ปูก็ไม่ว่าอะไร ปูก็แคปข้อความทุกอย่าง แล้วปูก็โพสต์ตอนตี 3 พอตี 4 เขาปลดบล็อก แล้วเขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะคืนเงินให้นะพี่นั่นนี่ แต่มันมาไกลแล้ว จนทุกวันนี้ยังทั้งทักทั้งโทร.มาอยู่เลยค่ะว่าหนูขอโทษ หนูลำบาก จะโอนเงินคืน คือไม่ได้แล้วค่ะน้อง ถ้าน้องไม่ได้หลอกใครน้องก็ไม่ต้องกลัว แต่ถ้าน้องหลอก น้องก็ต้องมาชี้แจงกับคุณตำรวจเอง”

เผยมีแม่ค้าคนอื่นโดนผู้หญิงคนนี้หลอกเหมือนกัน
“มีค่ะ น้องคนนี้เขาส่งคลิปให้เหมือนกัน แต่แม่ค้าคนนี้เขาถามว่าเด็กอยู่ที่ไหน เขาก็ตอบว่าอยู่หอผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลกระบี่ ชื่อเด็กนี่ๆ แม่ค้าคนนั้นก็โทร.ไปเช็กที่หอผู้ป่วยวิกฤตเลย ปรากฎไม่มีเด็กชื่อนี้ค่ะ ทีนี้พอปูรู้ เมื่อเช้าปูก็ทักไปหาเขาอีกว่าช่วยยืนยันทีว่าน้องอยู่โรงพยาบาลไหน เขาตอบกลับมาว่าอยู่โรงพยาบาลประจวบฯ และชื่อก็ไม่ได้ชื่อเดียวกับที่ส่งให้แม่ค้าคนนั้น ซึ่งก็เป็นบัญชีเดียวกับที่เราโดนค่ะ รายเดียวกัน”

"ถามว่าอยากให้ดำเนินการยังไงกับเรื่องนี้ ก็คืออย่าใช้เด็กมาหากิน เราไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือไม่จริง เขาอาจจะคลอดลูกก่อนกำหนดก็ได้ แต่เหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว และใช้ความสงสารเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือมันไม่ใช่ พอเราโอนให้ไปก็ไม่หยุด กลับสร้างเรื่องขึ้นมาอีก ซึ่งคนดีๆ เขาไม่ทำกัน ถ้าคนที่ลำบากจริงๆ เขาคิดไม่ได้แบบนี้หรอก ซึ่งถ้าวันนั้นเขาขอบคุณก็จบแล้ว ถึงแม้ว่าปูจะมารู้ทีหลังว่าเขาหลอกหรืออะไรมันก็จบแล้ว ก็เป็นบทเรียนเรา แต่นี่สร้างเรื่องไปเรื่อยๆ โกหกไปเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ แล้วยิ่งมารู้ว่าบอกชื่อโรงพยาบาลกับชื่อเด็กไม่ตรงกัน ความเชื่อใจมันก็ไม่มีแล้ว"

"อย่าเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือ คุณไปหาอะไรทำที่ต่อสู้แล้วมันสุดจริงๆ แล้วเดี๋ยวคนเห็นเอง หลังจากนั้นความช่วยเหลือจะถาโถมหาคุณเอง แต่ถ้าคุณเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือแบบนี้ ต่อไปถ้ามีแบบนี้อีกคนที่จะช่วยเหลือเขาก็จะคิดว่าจริงหรือเปล่า มันจะทำให้คนอื่นเขาต้องใช้ระยะเวลานานที่จะได้รับการช่วยเหลือด้วย”

บอกถึงจะโอนเงินคืนมาให้ก็ไม่เอาแล้ว แต่ถ้าพิสูจน์ว่าลูกอยู่ในตู้อบจริงๆ ตนถึงจะถอนแจ้งความ
“ถ้าเขาจะโอนเงินคืนเหรอคะ ปูไม่เอาค่ะ เขาทัก เขาโทร.มาตลอดเลยค่ะ ขอโอนเงิน หนูขอจบ ไม่ค่ะ แล้วก็ไม่ได้มีการโอนมาค่ะ ถึงโอนมาก็ไม่ถอนแจ้งความค่ะ แต่ถ้า ณ เวลานี้ลูกเขาอยู่ในตู้อบจริงๆ ปูจะไม่แจ้งความ แต่ถ้าไม่ได้อยู่ก็คือเอาเด็กมาหากิน ซึ่งถ้าคนที่เสียหายก็มาร่วมแจ้งความได้นะคะ แต่บางคนเขาก็อาจจะคิดว่าแค่ 100 เดียว แต่ถ้ามันหลายๆ คนล่ะ ของปูเงินมันไม่ได้เยอะเท่าไหร่ แต่ปูเสียความรู้สึกว่าทำไมต้องลูกเล่นตั้งแต่ทีแรก ทำไมต้องบอกว่าไม่ใช่บัญชีตัวเองตั้งแต่ทีแรก พอเราจี้ถึงบอกว่าของหนูเองค่ะ คือคนดีๆ เขาไม่ทำกัน”

"มีเคสมาขอแบบนี้เยอะค่ะ บางทีก็ส่งรูปเเด็กพิการมา แต่โดยปกติเวลาปูจะโอนหรือทำบุญให้ใคร ปูก็โอนไปที่เพจเลย อย่างเพจแหม่มโพธิ์ดำปูก็ช่วย หรือเมื่อคืนเคสคุณแม่น้องการ์ตูนที่เป็นข่าวอยู่ เขาทำพริกขาย เขาไม่ได้แบมือขอคนเลย อันนี้เราก็ช่วย อันไหนที่เราเห็นว่าสมควรช่วยเราก็ช่วย แล้วก็เห็นมีคนนึงที่ส่งข้อความแชตมา แล้วก็มีรูปเพจที่ดาราดังๆ เขาก็จะส่งคลิป ส่งข้อความไปตลอด แต่มีคนหลวมตัวโอนไปไหมอันนี้ไม่ทราบ แต่ปูก็มาในส่วนของปูว่าที่ปูโดนหลอกตรงนี้ไปค่ะ”