“ตั๊ก บงกช” เล่าไอเดีย new normal ที่ผันชีวิตกลับไปวิถีเกษตรกร ลั่นรู้แล้วเพชร พลอย เงินทองไม่มีค่าเพราะไม่ช่วยให้หายหิว ใครมาขอเงินก็ไม่ให้ แต่ถ้าขอข้าวจะให้ แนะคนหาเช้ากินค่ำงดฟุ่มเฟือยเก็บเงินให้ได้มากที่สุด กลับมาสร้างอาหารตามวิถีเกษตรกรจะทำให้รอดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจได้
ในขณะที่วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 กำลังซา วิกฤตเศรษฐกิจก็เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้คนทั่วโลก ภรรยาสาวของนักธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทยอย่างสาว “ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล” ได้เปิดใจกับรายการไนน์เอนเตอร์เทน ถึง new normal ของตนเองก็คือการผันชีวิตกลับมายังวิถีเกษตรตามรากเหง้าเดิมของประเทศไทย เพาะปลูกในไร่เบญจรงคกุล เพราะมองเห็นว่าในยามวิกฤตแม้จะรวยล้นฟ้า มีเงินทองมากมายแต่ถ้าไม่มีอาหารไว้เป็นของตัวเองก็ทำให้เดือดร้อนเหมือนกัน
“ในช่วงที่เกิดวิกฤตมันทำให้เราได้รู้ว่าอาหารสำคัญมากๆ เราก็มองย้อนมาดูตัวเองว่าเรามีอะไรบ้างนอกจากเงิน ความคิดมันก็ตกผลึกว่าเราควรจะสร้างอาหารได้เอง มีผักอะไรไว้หลังบ้านที่สามารถทำกินเองได้ เราชอบที่จะลงมือทำเองทุกขั้นตอน เราเลยจากการศึกษาดิน เชื้อรา แล้วก็เพาะเมล็ด มันอาจจะช้าแต่มันทำให้เรารู้จริง”
“แล้วยิ่งเราไปเจอคลิปนึงของเพื่อนที่เขาบอกว่าเขากำเงินไปรักษาตัวเอง แล้วพยาบาลก็ไล่เขาให้กลับไปบ้าน คือมีเงินแต่รักษาไม่ได้ เขาก็แค่นอนและกินยา อันนี้มันยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่เราคิด มองว่าถ้าวันนึงเราออกจากบ้านไม่ได้เราก็ควรจะสร้างอาหารเองได้เพราะไม่รู้วิกฤตใหม่ๆ จะมีอีกรึเปล่า”
ลั่นหลังจากนี้ตั้งใจจะเพาะปลูกไปตลอดชีวิต รู้แล้วมีเงินทองมากมายก็ซื้ออาหารยามวิกฤตไม่ได้
“ก็คงจะทำไปตลอดชีวิต คือเงินซื้อของได้ แต่เวลาฉุกเฉินจริงๆ เขาไม่ให้ออกไปซื้อมันก็ซื้อไม่ได้ ต้องรอคนมาส่ง เวลาที่เรามีเงินแล้วซื้ออะไรไม่ได้ ต้องรอคนมาส่งมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร มีทองหยอง มีเพชรพลอย ก็มีเอาไว้ใส่เที่ยวออกงานสวย ใช่ มันดูดีมากๆ มันมีค่ามากๆ แต่เวลาเราหิว เรากินมันไม่ได้ แล้วมันเอาไปแลกกับใครเขา ถ้าเขาไม่มีอาหารเหมือนกันเขามีเงิน มีแต่เพชรพลอย มันก็แลกกันไม่ได้อีก”
“เราชอบคิดอะไรเป็นหนัง ถ้ามันมาถึงจุดนึงต้องแบกเงินแบกเพชรไปให้แลกข้าว แลกมันเป็นกระสอบ แล้วคนขายมัน ขายข้าวเขาจะยอมเหรอเพราะเขาก็ต้องกินเหมือนกัน เผลอๆ อาจจะไปเหมือนสมัยก่อนๆ ที่ต้องปล้นฆ่ากันเพื่อเสบียงกันเลยก็ได้ ต้องกลับไปยุคก่อนที่ฝังเงินฝังทองไว้ก่อนแล้วขุดเผือดขุดมันมากิน มันอารมณ์นั้นเลยนะในช่วงที่ผ่านมา”
โอดปีนี้เศรษฐกิจแย่ ทุกคนมีภาระตามอัตภาพของตน ซึ่งครอบครัวตนปีนี้ก็พยายามเซฟทุกอย่างเพราะไม่มีรายรับเข้ามา
“วิกฤตนี้มันกระทบหมดทุกคนทุกภาคส่วน ทุกคนแย่กันหมดไม่ว่าจะคนรวยคนจนแย่กันหมด ทุกคนมีภาระตามอัตภาพของตนเอง ใครมีรายจ่ายเยอะคนนั้นก็ต้องจ่ายภาษีเยอะ มันเลี่ยงไม่ได้ อย่างสามีตั๊กเขาเซฟทุกอย่าง เขาบอกเราเลยว่าปีนี้เขาไม่มีรายรับนะ ปีนี้เขาแย่ ขนาดธนาคารญี่ปุ่นยังไม่ปล่อยกู้เลย ระบบหมุนเวียนของเงินมันเปลี่ยนไป”
“สิ่งนึงที่คนหาเช้ากินค่ำควรรู้ก็คือระบบของเงินบนโลกใบนี้ตอนนี้มันอยู่ในช่วงที่ติดขัดมากๆ อยู่ในช่วงฝืดสุดๆ ไปเลย เพราะมันส่งออกค้าขายอะไรกันไม่ได้เลย เจอกัน คุยกันไม่ได้ จะไปขายใครได้ จะทำธุรกิจ จะทำกับใคร แล้วเขาจะทำได้ยังไงในเมื่อเขาเองก็ยุ่งกับการช่วยเหลือประเทศเขา เราก็ช่วยกับการช่วยเหลือประเทศของเราเหมือนกัน มีแต่รายจ่าย รายได้ไม่มีเลย เขาพูดเลยว่าเขาแย่ตามอัตภาพ”
แนะควรงดการฟุ่มเฟือย เก็บเงินให้ได้มากที่สุด ในช่วงเศรษฐกิจที่ยังไม่มีวัคซีนรักษาโควิด-19
“สิ่งนึงที่เขาควรจะกลับมาดูแลก็คือการกลับมาดูแลเรื่องของอาหาร ความสะอาดที่บ้าน เก็บเงิน อย่าฟุ่มเฟือย อย่าเพิ่งลงทุนอะไร 2-3 ปีนี้ ถ้าวัคซีนยังไม่สำเร็จอะไรๆ มันก็ยังไม่ค่อยจะดี เราอาจจะบอกได้ว่ามันดีขึ้น แต่ความจริงที่สุดคือต้องมีวัคซีนก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที”
ลั่นขอเงินไม่ให้ แต่ถ้าขอข้าวจะให้
“ตอนนี้ใครมาขอเงินตั๊ก ตั๊กไม่ให้ เพราะตั๊กไม่มีรายรับ ถ้ามาขอข้าวตั๊กให้ ให้เป็นเงินไม่มี ถึงคุณมีทอง ร้านทองเขาก็ไม่รับซื้อเขาก็ปิดร้านใส่เพราะเขาไม่มีเงินจ่ายเหมือนกัน เขาซื้อทองคุณไปแล้วเขาจะเอาไปขายใคร ในเมื่อไม่มีใครซื้อเขาต่อ เราเข้าใจในความเดือดร้อน แต่เรามีแต่อาหารเท่านั้นที่จะให้ได้ เงินเราก็ไม่มีเหมือนกันเพราะเราเองก็ต้องเก็บเงิน”
ฝากถึงคนไทยควรกลับมาสร้างอาหารหารายได้จากทรัพยากรที่ประเทศมีคือการทำเกษตรกร อย่าไปทำอะไรที่จับต้องไม่ได้ และขอให้อดทนผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
“คนไทยเราไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว คนไทยเป็นประเทศชาติที่รักกันมาก แต่พอสงบไม่มีอะไรก็ทะเลาะกันอีก กำลังจะบอกว่าทำไมถึงไม่รักกันอย่างนี้ตลอดไป จำไว้นะว่าเราผ่านวิกฤตหนักหลายวิกฤตมาด้วยกันแล้ว เราอยู่บนผืนแผ่นดินไทยด้วยกัน เราผ่านอะไรต่อมิอะไรด้วยกันมาเยอะมากๆ สุดท้ายเมืองนอกเขาก็ไม่ได้สนใจคนผมดำอย่างเรา ฉะนั้นเราต้องรักกัน ดูแลกัน สิ่งนึงที่อยากจะบอกคือเรามาสร้างอาหารกันเถอะ”
“กลับมาในวิถีทางของเราคือการเป็นเกษตรกร ประเทศเราเป็นดินแดนอาหาร ปลูกอะไรก็ขึ้น กลับมาค้าขายกันเอง ถ้าผลิตดีก็ส่งออกต่างประเทศ ก็ได้เงินเข้ามาด้วย อย่าเพิ่งไปทำอะไรที่มันจับต้องไม่ได้ กินไม่ได้ เป็นเหล็ก เป็นเงิน เป็นทอง มันกินไม่ได้ ถึงยามคับขันเราต้องไปซื้อเขากิน ไปกู้หนี้ ยืมสินกันอีก เราต้องอดทนไปด้วยกันค่ะ ตั๊กเองก็จะอดทน เราถึงจะรอดผ่านวิกฤตนี้กัน”