เกิดข่าวเศร้าในวงการนางงามเมื่อสาวสวยที่เคยเข้ารอบสุดท้ายของการประกวด "มิสยูนิเวิร์สนิวซีแลนด์" ได้ตัดสินใจปลิดชีพตัวเองจนจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 23 ปี เท่านั้น
แอมเบอร์-เลอ ฟรีส เคยเข้ารอบเป็น 20 สุดท้ายของการประกวด มิสยูนิเวิร์สนิวซีแลนด์ เมื่อปี 2018 ซึ่งก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นดี ๆ ในชีวิตของหญิงสาววัย 20 ต้น ๆ คนนี้ แต่เพียงสองปีหลังจากนั้นเธอกลับต้องมาเสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้าด้วยวัยเพียง 23 ปี โดยข่าวจากสื่อนิวซีแลนด์ระบุว่า แอมเบอร์ ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย จนเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา
ถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยถึงสาเหตุของการคิดสั้นของเธอ แต่สื่อนิวซีแลนด์อ้างว่า แอมเบอร์ เองก็มีปัญหาในชีวิตมาไม่น้อย เธอเคยเล่าว่าตัวเองโดยล้อเลียนจนถึงขั้นเป็นการบุลลี่มาตั้งแต่เด็ก ทั้งเรื่องของสีผิว และดวงตาที่ค่อนข้างดูตาตี่ ไม่เหมือนสาวชาวตะวันตกโดยทั่วไป
แต่ที่ชัดเจนก็คือมรสุมชีวิตในระยะหลัง ทั้งจากเรื่องธุรกิจเสื้อผ้าออนไลน์ที่เธอเพิ่งจะเริ่มต้นทำ แต่กลับมาโดนปัญหาเรื่อง COVID-19 จนทำให้ยอดขายไม่ดีเท่าที่หวัง "เพราะไวรัสระบาด ยอดสั่งซื้อของเราก็เลยหายไปเยอะมาก การซื้อเสื้อผ้าคงกลายเป็นเรื่องจำกัดในเวลานี้ไปแล้ว" แอมเบอร์ ยอมรับว่าเธอหนักใจเรื่องธุรกิจ และเขียนข้อความระบายออกมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
อีกเรื่องที่เป็นเหมือนมรสุมชีวิตลูกใหญ่ของเธอก็คือการสูญเสียแม่บุญธรรมไปจากโรคร้าย หลังรักษาตัวจากอาการเส้นเลือดในสมองแตกอยู่ประมาณปีกว่า "มัมม่า เค. ค่ะ คุณอยู่เพื่อนฉันในเวลาที่ฉันต้องการใครบางคนมากที่สุด"
แอมเบอร์-เลอ ฟรีส เคยเล่าว่าเธออกจากบ้านมาตั้งแต่ตอนอายุ 15 ปี และย้ายไปอยู่กับแฟนหนุ่มที่เรียนสายช่าง ตอนนั้นเธอต้องทำงานที่ร้าน Pizza Hut จนต่อมาความสวยโดดเด่นทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับเอเยนซี่ The Talent Tree และมีผลงานในวงการแฟชั่น จนสุดท้ายได้ตัดสินใจขึ้นประกวดชิงตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในนิวซีแลนด์
"ฉันจำได้อยู่เลยตอนที่เคยนั่งอยู่ในห้องคนเดียวตอนกลางคืน และคิดไปเองว่าทำไมชีวิตเรามันยากแบบนี้ ตอนเรายังเด็กเรื่องน้ำหนักตัว, ความกว้างของไหล่ มันคือทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนั้นฉันมองอะไรในแง่ร้ายไปหมด ฉันมองว่าตัวเองคงกลายเป็นยัยอ้วนขี้โมโห กลายเป็นยายแก่ในสักวัน จนคิดได้ว่าเราต้องไม่เป็นแบบนั้นให้ได้" แอมเบอร์ เล่าถึงแรงขับดันที่ทำให้เธอหันมาดูแล และพัฒนาตัวเอง
"ตอนที่เธอมาหาเรา เธอไม่ปิดบังอดีตของตัวเองเลย และมองว่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอคือความท้าทายที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ซึ่งนั่นแหละที่ทำให้เธอเข้าตาเรา" ไนเจล จอฟฟรีย์ แห่ง Miss World New Zealand กล่าวในการไว้อาลัยให้กับเธอ "ขอให้หัวใจของเธอไปอยู่ที่ที่เหมาะสมที่สุดด้วย"
ส่วน เลน คอนรอย แฟนหนุ่มของ แอมเบอร์ ที่คบหากันมาตั้งแต่เธอกับเขาอายุแค่ 14 ก็กล่าวด้วยความเศร้าว่าเขาจะรักเธอตลอดไป เธอคือส่วนที่เติมชีวิตของเขาให้เต็ม "เธอคือคู่แท้ของผม" เขากล่าว