"วิน เมธวิน" ภูมิใจ กระแสจิ้น "ไบร์ท คั่นกู" สนิทกันอยู่แล้ว หากอนาคตไม่ได้ทำงานด้วยกันก็ยังรักและหวังดีต่อกัน ลั่นเก็บฉากเลิฟซีนไปฝัน ย้ำตัวจริงแมน แต่ห้ามความคิดใครไม่ได้ คิดหนักเปิดเผยแฟนตัวจริง ค้องรักษาความรู้สึกแฟนคลับ
ต้องยกให้เป็นคู่จิ้นที่ฮอตที่สุดในตอนนี้เลย สำหรับคู่ของ "วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” กับหนุ่ม "ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี" ขวัญใจสายวายจากซีรีส์เรื่อง คั่นกู หรือ 2gethertheseries เพราะเราคู่กัน ที่แม้ตอนนี้ซีรีส์จะจบไปแล้ว แต่กระแสความแรงของทั้งคู่ก็ไม่ได้น้อยลงเลย และวันนี้หนุ่มวินก็เปิดใจให้ฟังว่า แม้คนจะคิดว่าตนไม่แมนจริงๆ เพราะอินกับบทบาทในเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะไปห้ามความคิดใครไม่ได้
"ถ้าคนจะมองว่าผมไม่แมนจริงๆ ผมก็ห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ ความจริงเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นครับ ผมรู้ตัวเองดีที่สุด ซึ่งมันเปลี่ยนความจริงไม่ได้ ผมไม่เอาความคิดคนอื่น มาใส่เป็นความคิดตัวเอง แต่ถ้ามองว่าคนอินในตัวละคร ว่าความสัมพันธ์ของผู้ชายคู่หนึ่งจนเกิดเป็นความรัก แสดงว่าผมแสดงออกมาให้เขาเชื่อได้ครับ”
"สาวๆ ในอุดมคติ ผมไม่ได้มีสเปกตายตัวครับ แต่ชอบแบบแนวเทคแคร์ ดูแลเอาใจใส่กัน อยู่ด้วยกันทั้งตอนที่มีความสุขก็จะสุขไปด้วยกัน หรือตอนเศร้าก็จะเศร้าไปด้วยกัน คือเป็นการอยู่ด้วยกันแล้วส่งเสริมซึ่งกันและกัน ก้าวหน้าไปด้วยกัน แชร์ทุกๆ ความรู้สึกต่อกัน รักครั้งแรกของผมตอนนั้นน่าจะตอนประถม คือแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งที่มาเรียนพิเศษกับผม คือชอบมาก ก็ไปบอกชอบเขา แล้วสุดท้ายก็โดนเขาปฏิเสธกลับมาว่าไม่ใช่สเปกเขา ไม่หล่ออะไรแบบนี้ (ทำหน้าเศร้า)"
"ถามว่าถ้าผมมีแฟนจะเปิดตัวต่อสาธารณะไหม คือในอนาคตอาจไม่เปิดขนาดนั้นครับ เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้คิดจะปิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะโชว์อวดแฟน คือปล่อยให้เป็นไปตามปกติมากกว่าครับ เพราะถ้าเลือกแล้วในการทำงานตรงนี้และในซีรีส์ที่แสดง แฟนๆ จะมีความอิน ก็คงต้องห่วงหลายความรู้สึก ผมมองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่เฝ้ามองและคอยสนับสนุนผมกับพี่ไบร์ท ก็ต้องรักษามุมดีๆ เหล่านี้ไว้”
บอกเพราะตนและ "ไบร์ท" มีความเป็นตัวของตัวเองกันมาก เวลาต้องเข้าฉากด้วยกันเลยธรรมชาติสุดๆ
"คิดว่าที่ซีรีส์ได้ผลตอบรับที่ดี เพราะด้วยเคมีของทั้งเราเข้ากันใช่ไหม ผมว่าด้วยผมกับพี่ไบร์ทเป็นผู้ชายแมนๆ ด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว ก็คงความเป็นพี่น้องกันทั้งในคาแรกเตอร์และนอกจอ แต่พอได้รับบทบาทให้เล่นเรื่องนี้ด้วยกัน ด้วยความที่เป็นธรรมชาติของทั้งคู่ ในชีวิตจริงผมทั้งคู่ก็เป็นพี่น้องที่สนิทกัน ผมกับพี่ไบร์ทคุยกันมาตลอด ผมว่ามุมในความสนิทก็จะให้เป็นตัวเองกันให้มากที่สุด ก็เป็นพี่น้องที่รักกันอยู่ตลอดเวลา ดีกว่าที่จะมาสวมบทเป็นตัวละครตลอดเวลา แล้วไม่เป็นตัวของตัวเอง"
"ผมรู้สึกว่าการเป็นตัวเองของเราสองคนจะทำให้อยู่ในมุมดีๆ ของผู้พบเห็น ผมว่าความรู้สึกแบบนี้สิที่จริง และดีกว่า ผมว่าแฟนคลับเข้าใจมุมนี้ ไม่จำเป็นต้องทำงานคู่กันตลอด ถ้าใครจะยึดติดภาพจากซีรีส์ที่จบไปก็ถือเป็นความทรงจำที่ดีๆ ได้นานกว่า ถึงแม้จะแยกกันไปทำงานของตัวเองในอนาคตก็จะมองเห็นได้ถึงความจริงใจ และมีความรักต่อกันเสมอ”
เผยที่ "ไบร์ท" เคยบอกว่าเก็บฉากจูบไปฝัน ตนก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
“ตอนนั้นในงานหนังสือที่พี่ไบร์ทบอกว่าเก็บไปฝัน คนก็แซวพี่เขาเยอะครับ แต่ของผมยังไม่มีคนแซวนะ แต่ผมก็ยอมรับว่ามีเก็บไปฝันเหมือนกัน (หัวเราะ) ด้วยตัวพี่ไบร์ทเขามีประสบการณ์มามากกว่าอยู่แล้ว เขาทำการบ้านอ่านนิยาย และอินแล้ว แต่สำหรับผมมาตอนที่ถ่ายจริง มันทำให้ผมรู้สึกอินได้มากขึ้นๆ และผู้กำกับเขาก็ถ่ายแบบเรียงซีนแบบค่อยๆ ไต่ระดับจากเล็กๆ ไปตามเหตุการณ์ที่มากขึ้นๆ ช่วงหลังก็เริ่มอินเก็บไปฝันก็เป็นปกติครับ เพราะผมต้องอยู่ในกองถ่ายกับกับพี่ไบร์ทเยอะขึ้น สวมบทให้ตัวเองเป็นไทน์ไปใช้ชีวิตกับสารวัตร ทำกิจกรรมร่วมกัน อยู่ด้วยกันตั้งแต่หกโมงถึงสี่ทุ่ม"
"ถ้าให้พูดถึงพี่ไบร์ท(ยิ้ม) พี่ไบร์ทเป็นคนที่นอนได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ (หัวเราะ) ขนาดในซีนแกล้งหลับ ที่ทุกๆ คนทราบเขาก็หลับได้เลยครับ แค่ 1 นาทีเขาก็หลับครับ เร็วมาก หลับจริง แถมกรนด้วย (หัวเราะ) ผมไปเห็นก็หลุดขำ ทั้งที่ซีนนั้นผมต้องใช้สมาธิมาก (ยิ้ม)"
บอกไม่เคยคาดหวังว่าจะต้องโด่งดังเป็นที่หนึ่ง แต่พอได้รับหน้าที่แล้วตนก็ขอทำให้เต็มที่
"ผมไม่ได้คาดหวังว่าต้องเป็นที่หนึ่ง เพราะตัวผมเองต้องทำธุรกิจที่บ้านต่ออยู่แล้ว การที่ผมได้มาทำงานตรงนี้ถือเป็นอีกอาชีพหนึ่ง เราก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่เสียใจภายหลังว่าทำไมตอนนั้นเราไม่ทำให้เต็มที่และดีกว่านี้มากกว่าครับ ถ้ามีงานต่อจะรีเควสว่าต้องคู่กับพี่ไบร์ทไหม ผมว่าไม่ว่าจะเป็นงานไหน คู่ใครก็ตามผมก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องคู่กับพี่ไบร์ทครับ แต่ถ้ามีโอกาสได้ก็ดี เพราะเหมือนทำงานรู้ใจกันอยู่แล้ว”
“งานอื่นๆ หลังจากนี้ก็น่าจะได้เห็นมากขึ้น เป็นรายการทางยูทิวบ์ออนแอร์ทางช่อง gmm ครับ และงานอื่นๆ รอว่าผู้ใหญ่จะวางอะไรไว้ให้ต่อไปครับ ถ้าจะมีไวๆ นี้ก็คงจะเป็นคอนเสิร์ตในเดือนมิ.ย. งานพิธีกรก็สนใจนะครับ แต่ผมก็คงต้องฝึกทักษะหาประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ในด้านเป็นนักแสดงก่อน ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีๆ อยากทำให้ได้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นงานนักแสดงหรืออื่นๆ พัฒนาให้มากกว่านี้ และดีขึ้นกว่านี้ครับ”
“ณ วันที่ซีรีส์เพราะเราคู่กันออนแอร์ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่พอถึงวันนี้จบไปแล้ว ทุกตอนผมเชื่อว่าทุกๆ คนก็จะรักตัวละครสารวัตรและไทน์ ก็อยากให้ติดตามผลงานของพวกผมต่อไปในอนาคตนะครับ ก็จะตั้งใจทำงานและผลิตงานดีๆ ออกมาให้ทุกคนได้ติดตามกันอีกแน่นอน ที่ผ่านมาเคยแต่ได้รับความสุขจากคนอื่น วันนี้พอได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความสุขให้คนอื่นในจำนวนมากขนาดนี้ มันเป็นความสุขแบบที่อธิบายไม่ถูกจริงๆ มันอิ่มใจมากๆ ขอบคุณทุกๆ คนจริงๆ ครับ ถ้าไม่มีทุกคนก็คงไม่มีวิน เมธวินในวันนี้จริงๆ ครับ"