เป็นข่าวครึกโครมอยู่หลายวันกรณีฟ้องร้องผู้จัดละครเด็กนามสกุลดังทางช่อง5 จนหลายคนเริ่มอยากรู้จัก ว่า "จูน นาตาชา มณีสุวรรณ์" เป็นใครมาจากไหน ถึงได้มีกระแสข่าวในโลกโซเซียลทั้งๆ ที่ไม่ค่อยมีผลงานการแสดงผ่านสายตามากนัก
ผลงานที่ผ่านมามีอะไรบ้าง?
“ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จูนมีแต่งานแฟชั่นโชว์ และโฆษณาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ไม่ได้โดดเด่นอะไร เคยเป็นตัวประกอบเล่นละครทางช่อง3 บทก็ไม่ได้เด่นอะไร ไม่เป็นที่จดจำ
พอมาปีที่แล้ว จูนได้มีโอกาสมาเล่นหนังใหญ่คู่กับแน็ก ชาลี เป็นนางเอก เรื่อง Who ปิดป่าหลอน เพิ่งเข้าโรงภาพยนตร์เมื่อ 3 เดือนที่แล้วก่อนจะมีโควิดระบาด ถามว่าหนังประสบความสำเร็จไหม ส่วนตัวคิดว่าไม่นะ เพราะมีคนจำเราไม่ค่อยได้ เชื่อมั้ย บางคนยังไม่รู้เลยว่าหนังเรื่องนี้ฉายแล้ว”
แสดงว่าเพราะมีข่าวฟ้องร้องทำให้จูนดัง?
“คนจำเราได้จากข่าวนี้มากกว่า จำเราได้มากกว่าที่เราเป็นนางเอกหนังซะอีก แล้วก็จะถามว่าจูนเป็นใคร เป็นดาราเหรอ เล่นช่องอะไร ทำไมไม่เคยเห็น ต้องบอกว่าจูนไม่ใช่สายนักแสดง หรือดารา ทุกวันนี้จูนยังไม่คิดเลยว่าตัวเราเป็นดาราเหรอ เพียงแต่จูนได้มีโอกาสเข้ามาทำงานตรงนี้บ้างผ่านๆ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าตัวกับผู้จัดละครคนนี้ จูนก็คงไม่ได้ออกมาเรียกร้องอะไร และก็คงไม่เป็นข่าวดราม่า”
สร้างกระแสหรือเปล่า?
“มันคงเป็นจังหวะมั้งคะ และการที่จูนออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองก็คงไม่ผิดอะไรนะ จูนรู้สึกดีด้วยซ้ำการที่เราออกมาฟ้องร้อง ทำให้จูนได้รู้จักกับพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากผู้จัดคนนี้ ยิ่งทำให้เราต้องลุกขึ้นสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพวกเขา”
แล้วเรื่องคดีความจะจบอย่างไร?
“ก็คงรอศาลตัดสินค่ะ ตอนนี้มีผู้เสียหายทยอยเข้ามาสบทบเรื่อยๆ มีทั้งที่กล้าแสดงตัว กับที่ไม่กล้าแสดงตัวแต่พร้อมที่จะมาเป็นพยานให้กับเรา”
เห็นว่าเคยเดินแฟชั่นโชว์หน้าพระพักตร์?
“เป็นงานที่รู้สึกปลื้มปิติมากๆ เป็นแฟชั่นการกุศล เดินโชว์ต่อหน้าพระองค์ภาฯ ตื่นเต้นมากๆ งานวันนั้นมี น้องบิ้น มิสอินเตอร์ฯระดับโลก และเมย่า มิสไทยแลนด์เวิล์ด เดินด้วย”
นอกจากวงการบันเทิงเห็นว่าเป็นนักธุรกิจด้วย?
“เป็นธุรกิจครอบครัวค่ะ มีรีสอร์ทที่ชัยภูมิ เนื้อที่ 100 ไร่ เป็นไร่ไผ่ส่วนผสม คือมีต้นไผ่ทุกสายพันธุ์อยู่ที่นี่เปิดให้ใครที่สนใจเรื่องพันธุ์ไผ่เข้ามาศึกษา แล้วก็มีรีสอร์ทที่พัก สำหรับงานสัมนา เดือนหน้าจะเริ่มทยอยก่อสร้างเพิ่มเติม ทั้งที่พักและ ฐานเกมส์ต่างๆ เหมือนเข้าค่ายลูกเสือ ไว้รองรับเรื่องกิจกรรม วางแผนไว้ว่าจะทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ และก็มีธุรกิจที่ดินให้เช่า บ้านให้เช่า รวมถึงร้านอาหารด้วยค่ะ"
จัดว่าเป็นเศรษฐีนีคนหนึ่งเลยใช่ไหม?
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ยังใช้ชีวิตปกติ ยังต้องทำมาหากินกันต่อไป มันเป็นธุรกิจครอบครัว ที่ทางพ่อแม่ยกให้เราเป็นผู้ดูแลทั้งหมด”
ไม่เห็นอวดรวยเหมือนคนอื่นๆ?
“ก็ไม่ได้รวยนี่คะ จะอวดทำไม ทุกวันนี้จูนยังใช้บริการรถแกร็ปบ้าง แท็กซี่บ้าง วินมอเตอร์ไซด์บ้าง ไม่ได้ขับรถเอง เสื้อผ้าที่ใส่ก็หลักร้อย หรือไม่ก็ตอนในห้างลดราคาชอบมาก เครื่องสำอางค์ก็มีบ้างของแบรนด์เนมกับตลาดนัดผสมกัน เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนก็ทำแบบจูน”
รวย สวย เก่งแถมใจบุญ?
“เรื่องทำบุญ ทำตลอด ทั้งในวัดนอกวัด ล่าสุดเพิ่งแจกทุนการศึกษาให้กับเด็กๆไป 19 ทุน”
รวยอยู่แล้วจะไปฟ้องเรื่องค่าตัวทำไมแค่ 45,000 บาท?
“เรื่องเงินไม่สำคัญ จูนมองถึงความถูกต้อง ความซื่อสัตย์ สัจจะ และความเป็นธรรมมากกว่า จูนไม่ชอบคนที่เอาเปรียบคน ที่สำคัญผู้เสียหายเยอะขนาดนั้นจะให้จูนทิ้งพวกเขาได้อย่างไร กะว่าได้เงินมาจะเอาไปทำบุญให้หมด”
ต่อจากนี้มีผลงานอะไรต่อบ้าง?
“มีภาพยนตร์ต่อ รอเปิดกล้อง ตอนนี้กำลังเรียนแอคติ้งเพิ่มกับพี่ต้น ชานนท์ และก็เรียนภาษาจีนที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เป็นหลักสูตรประชาชนทั่วไปและผู้บริหารเข้ามาเรียนภาษาต่างๆ แต่จูนเลือกเรียนภาษาจีนเพื่อเอาไว้ต่อยอดธุรกิจค่ะ”
