xs
xsm
sm
md
lg

"บอย-เจี๊ยบ" เผยปิดร้านชาบู 2 เดือนไม่ลดเงินเดือนพนักงาน ดีใจรัฐคลายล็อก เปิดร้านวันแรก ดีกว่าไม่มีรายได้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"บอย-เจี๊ยบ" ได้ฤกษ์เปิดร้านชาบู หลังเผชิญวิกฤตโควิด ปิดร้านเกือบ 2 เดือน ทำตามนโยบายรัฐเข้ม 1 คนต่อ 1 โต๊ะ เว้นระยะห่าง 1 เมตร ปฏิเสธลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว ตัดใจรายได้หายไปกว่าครึ่ง ดีกว่าไม่มีรายได้อะไรเลย ใจกว้างไม่ลดเงินเดือนพนักงาน ด้านบอยโอดไม่ได้เล่นคอนเสิร์ตเกือบ 2 เดือนแล้ว ไม่เคยหยุดนานขนาดนี้มาก่อน ถูกคนรอบตัวยุให้ปั๊มลูก คาดเครียดเลยไม่มา

หลังจากปิดร้านชาบู GOTOKU BY SHABU KING ไปเดือนกว่าๆ ล่าสุด "เจี๊ยบ พิจิตตรา - บอย อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี" ได้ฤกษ์เปิดร้าน หลังรัฐบาลคลายล็อกกิจการร้านอาหาร แต่ต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันโควิด-19 แพร่ระบาด งานนี้บอย-เจี๊ยบ ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่า

บอย : "จริงๆ ปิดไปเกือบ 2 เดือน แต่ว่ายังเปิดได้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เหมือนครึ่งหนึ่ง เพราะว่าทุกคนมาก็ต้องนั่ง 1 โต๊ะ 1 คน เลยทำให้การบริการจะได้ทำประมาณครึ่งหนึ่ง"

เจี๊ยบ : "เรียกว่าเอากฎมากางดูเลย ทำทุกอย่างเพราะว่าต้องตั้งโต๊ะระยะห่าง 1 เมตร อาจจะโชคดีที่ร้านเราก็มีพื้นที่พอที่จะตั้ง 1 โต๊ะ 1 เมตรได้ หรือว่าถ้าเป็นโต๊ะด้านนอก หัวท้ายมันห่างเมตรกว่าอยู่แล้ว เลยค่อนข้างทำได้ ก่อนเข้ามาในร้านก็ต้องมีจุดตรวจ ช้อนส้อมจานคนละจุด"

"ถามว่ายากไหมเพราะร้านชาบูส่วนใหญ่จะนิยมกินกันเป็นหมู่คณะ มันก็ยาก เพราะว่าลูกค้าโทร.มาเยอะมากว่า ถ้ามีลูกเอามาด้วยได้ไหม จะจัดการยังไง ถ้ามีคุณแม่เป็นคนอายุเยอะจะทำยังไง ปกติร้านเราจะเป็นแฟมิลี่ซะส่วนใหญ่ ตอนนี้ยอมรับว่าบางทีก็ต้องปฏิเสธลูกค้าไปว่าเราไม่สามารถจัดการตรงนั้นได้"

รับต้องจองล่วงหน้า เผยลูกค้าวันแรกมา 5 คน แยกนั่ง 5 โต๊ะ ปฏิบัติตามกฎ รับผิดชอบต่อสังคม
บอย : "มีครับ มีโทร.มาเช็ก มีโทร.มาจองล่งหน้า ตอนแรกๆ เราสองคนเองก็กลัวว่าจะมีคนมาทานไหม เพราะอย่างที่ทราบกันดีเวลาทานชาบูทุกคนก็อยากจะทานกับเพื่อน หรือทานกับคนในครอบครัว คือมันไม่ใช่อาหารที่แบบคนจะทานคนเดียวเป็นส่วนใหญ่ เราเลยพยายามคิดว่าจะทำยังไงดี เราก็เครียด แต่ปรากฏว่าพอเปิดร้านวันแรกลูกค้าที่มากลุ่มแรกมา 5 ท่าน แล้วก็เดินมานั่งแยกกัน 5 โต๊ะเองโดยอัตโนมัติเลย ผมว่ามันคือความรับผิดชอบต่อสังคมที่พวกเรามี แล้วทุกคนก็ตั้งใจปฏิบัติตามกฎระเบียบ"

พยายามประคอง ยอมให้รายได้หาย ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ไม่ลดเงินเดือนพนักงาน
เจี๊ยบ : "แน่นอนค่ะ แต่ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยตั้งแต่ที่ผ่านมาเดือนกว่า(หัวเราะ)"

บอย : "ยังไงก็ดีกว่าที่เหลือแค่เดลิเวอรี่อย่างเดียวอยู่แล้ว เพราะชาบูเป็นอาหารที่ค่อนข้างจะยุ่งยากในการทานที่บ้านหรือว่าจัดเตรียม ตอนนี้ก็พยายามประคองซึ่งกันและกันให้นานที่สุด แล้วก็บอกกับน้องๆ ว่าถ้าเรายังไหวกันอยู่เราก็จะดูแลพวกเขา น้องๆ ที่เป็นคนบริการก็ดี หรือว่าอยู่ในครัวก็ดี เรียกว่าทุกตำแหน่งเราก็พยายามดูแลเขาโดยที่ไม่ลดเงินเดือนเลย พนักงานตอนนี้ได้ทำงานกันปกติทั้งกะเลย แล้วก็ของร้านก็จะมี 2 กะ ทุกคนก็ยังได้ทำปกติ"

"ถามว่าเป็นสปิริตนายจ้าง ผมว่ามันเป็นเหมือนครอบครัวเนอะ การดูแลซึ่งกันและกันมากกว่า แต่ตรงนี้ก็ไม่ได้บอกว่าถูกหรือผิด เพราะบางคนไม่ไหวก็มี จริงๆ เราก็บอกกับน้องๆ ที่เป็นพนักงานว่าเราจะดูแลเขาให้นานที่สุดเท่าที่เราจะดูแลเขาไหว แต่ว่าที่ผ่านมาเราก็ยังไม่ได้ไปลดเงินเดือนเขา"

ขาดทุนเรื่องเงิน แต่ได้เรื่องราวดีๆ กลับมา
เจี๊ยบ : "จริงๆ ถ้าพูดเป็นเรื่องเงินเจี๊ยบว่าทุกคนมันเยอะอยู่แล้ว แต่ว่าอย่างที่รู้คือเราก็มีทำอาหารแจกด้วย เรารู้สึกว่าเราได้มาในส่วนของกำลังใจที่เวลาเราให้แล้วเรารู้สึกว่าเออ...ถึงแม้ว่ามันจะขาดทุนในส่วนของเงิน แต่ที่ได้มาเป็นเรื่องดีๆ กลับมา"

บอย : ปกติเราไม่เคยเห็นภาพคู่ค้าของเราที่เราสั่งวัตถุดิบกับเขา เขามาถึงก็เอาของวางที่ร้านแล้วบอกว่าไม่คิดเงิน อย่างที่เราเคยลงโซเชียลไปที่แบบวางเต็มโต๊ะ บางคนเอาหมูมาให้เป็น 10 กิโลฯ เอาข้าวมาให้เป็นเป็นร้อยๆ กิโลฯ ทุกวันนี้ก็ยังมีเข้ามาเรื่อยๆ เลยรู้สึกว่าถึงแม้ว่ามันจะขาดทุนตรงที่เป็นรายได้ไป แต่ว่ามันได้กำไรในเรื่องของความสุข มันมีความสุข พนักงานทุกคนที่อยู่ก็ยินดีที่จะทำอาหารแจกคนได้อย่างมีความสุข ทุกวันนี้ก็ยังทำแจกอยู่ ผมเชื่อว่าถึงแม้เราจะกล้าใช้ชีวิตกันมากขึ้น แต่ก็ยังมีคนลำบากอยู่

"แต่ละวันก็มีคนมารับเยอะนะครับ เฉลี่ยวันหนึ่งก็ตก 70-100 คน ที่มารับหน้าร้าน แต่ถ้าเป็นวันหยุดก็จะพีกๆ เป็น 200 คน"

เจี๊ยบ : "จริงๆ เราทำ 2 แผนก คือแจกหน้าร้านกับที่ศูนย์การแพทย์กาญจนา เรานำไปมอบทุกวันอยู่แล้ว ตอนแรกคิดว่าเปิดร้านแล้วเรายังจะแจกอยู่ไหม ก็มีคนโทร.มาถามว่ายังแจกอยู่ไหม ชุมชนนี้ยังไม่มีงานนะ"

ไม่กำหนดหยุดแจก
บอย : "รวมถึงพี่ๆ น้องๆ ที่เราประกาศไปว่าเป็นวินมอเตอร์ไซค์ แมสเซนเจอร์ เป็นแกร็บต่างๆ สามารถมารับได้ฟรี ซึ่งยังไม่มีกำหนดว่าจะหยุดแจกเมื่อไหร่ เราคงแจกไปเรื่อยๆ"

เข้าใจวันที่ไม่มี เพราะในวันที่เคยล้ม ติดหนี้ 50 ล้าน ทุกอย่างผ่านไปแล้ว
บอย : "ก็มันผ่านมาแล้ว เราก็เข้าใจว่าวันที่เราล้ม เราลำบากมันเป็นยังไง วันที่เราไม่มีจริงๆ มันรู้สึกยังไง ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งเพียงเล็กน้อยด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ที่เขาทำ แต่เราก็ทำตามกำลังที่เราไหว และย้ำอีกทีตอนนี้เปิดแล้วนะครับ ปฏิบัติตามนโยบายรัฐ เปิด 11.00 น. ปิด 21.00 น. จำกัด 1 คนต่อ 1 โต๊ะ"

ไมได้เล่นคอนเสิร์ตเกือบ 2 เดือน ไม่เคยหยุดงานนานขนาดนี้มาก่อน
บอย : "เพลงคืออะไร (หัวเราะ) ถ้านับวันนี้ก็ 59 วันแหละที่ไม่ได้เล่นคอนเสิร์ต พรุ่งนี้ครบ 60 วันพอดี ไม่เคยหยุดงานนานขนาดนี้มาก่อน ปกติคืนนึงเราจะวิ่งหลายงาน แต่นี่ก็วิ่งเหมือนกัน วิ่งวนอยู่ในร้าน จริงๆ แล้วพี่ๆ น้องๆ ที่เป็นนักร้องก็คงเหมือนๆ กัน คือเต็มที่ร้องเพลงในบ้าน ในที่ปิด เพราะเชื่อว่าทุกคนเจอผลกระทบเดียวกัน ตอนนี้เริ่มคุยกันไปถอยลอยกะทงว่าจะได้ออกไปร้องเพลงได้ไหม เพราะอาชีพอย่างเรามันต้องทำงานในที่ๆ คนเยอะๆ ซึ่งมันค่อนข้างเสี่ยง ถ้ามันไม่มั่นใจ ก็ไม่มีคนกล้าจัด"

"ถ้าถามถึงแผนสอง ผมเชื่อว่าเดี๋ยวสถานการณ์มันจะพาให้เราคิดออกเองว่าเราควรจะไปต่อยังไง อย่างตอนนี้ก็มีคอนเสิร์ตทางแอปพลิเคชั่นแล้ว ก็เริ่มมีติดต่อมาบ้างแล้ว"

เจี๊ยบ : "ส่วนของเจี๊ยบตอนนี้ก็พักก่อนยาวๆ นโยบายก็มีผ่อนลงบ้าง น่าจะกลางเดือนนี้เริ่มถ่ายทำแล้ว ก็จะรัดกุมมากขึ้น ที่กองก็จะให้นักแสดงไปตรวจก่อนว่าเราไม่ติดนะ และคนที่เข้าฉากด้วยกันจะได้สบายใจ"

เผยถูกยุช่วงนี่ว่างให้ทำลูกเลย ลั่นยังได้แค่นั่งมองกัน มาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ปล่อยไปตามธรรมชาติ
บอย : "ตอนนี้ว่างมาก เจี๊ยบเขาก็ทำอาหาร ปรับเปลี่ยนเมนูไป ซึ่งทุกคนก็พยายามถามว่าช่วงนี้ว่าง ก็ทำลูกเลยสิ ก็บอกไปว่าตอนนี้นั่งมองกันเฉยๆ (หัวเราะ)"

เจี๊ยบ : "ในรายการก็มีคนแซวเรื่องนี้เยอะมาก ไปไหนคนก็ถาม ก็อย่างที่บอกตอนนี้ก็ปล่อยธรรมชาติ รอให้เขามาเอง แต่ช่วงนี้เครียดเลยไม่น่าจะมา แต่ถ้ามาก็มาเลย"










กำลังโหลดความคิดเห็น