xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อหนังจะไม่ลงโรง? AMC ฉุนหนัก! หลัง Universal Pictures ตัดช่องน้อยปล่อยหนังขายออนไลน์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เกิดศึก "ช้างชนช้าง" ขึ้นในอุตสาหกรรมบันเทิงสหรัฐฯ เมื่อเครือโรงหนังเจ้าใหญ่ประกาศ "แบน" ผลงานของ Universal Pictures หลังทางสตูดิโอเลือกที่จะนำหนังการ์ตูน Trolls World Tour ออกขายแบบ "On Demand" ก่อนเข้าโรงภาพยนตร์

โรงภาพยนตร์ทั่วโลกปิดดำเนินการนานมากกว่า 1 เดือนแล้ว เพราะการระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ค่ายหนังฮอลลีวูดส่วนใหญ่ตัดสินใจเลื่อนฉายหนังไปแบบไม่มีกำหนด อาทิ No Time to Die หรือ "เจมส์ บอนด์" ตอนล่าสุดโดนเลื่อนฉายจากซัมเมอร์ไปอยู่ปลายปี และอาจจะถูกเลื่อนอีกรอบไปอยู่ปีหน้า เช่นเดียวกับหนังอีกหลาย ๆ เรื่อง แม้กระทั่งหนังฟอร์มยักษ์ที่อยู่ในระหว่างการถ่านทำก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน


สตูดิโอฮอลลีวูดตัดสินใจขายหนังทาง On Damand

จากวิกฤติที่เกิดขึ้นทำให้ค่ายหนังหลายเจ้าตัดสินใจส่งหนังฟอร์มกลาง ๆ และฟอร์มเล็กบางเรื่องขายผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตโดยทันที อย่างหนังที่เคยกว่า "ซวยซ้ำซวยซ้อน" อย่าง The Hunt ก็ได้เผยแพร่ผ่านระบบ On Damand แล้วเช่นเดียวกัน

The Hunt มีเนื้อหาเกี่ยวกับคนรวยที่จับคนจนมาล่าเพื่อความบันเทิง ซึ่งเนื้อหาเสียดสีการเมืองทำให้หนังเรื่องนี้ถูกเลื่อนฉายจากปีก่อน มาเป็นต้นปีนี้ แต่พอจะได้ลงโรงหนังโดนโรคเลื่อนมานับปี The Hunt ก็ต้องมาเจอโรคระบาดอีก จนผู้สร้างตัดสินใจปล่อยหนังขายทางอินเตอร์เน็ตเลยให้รู้แล้วรู้รอดไป

โดยนอกจากThe Hunt แล้วก็ยังมีหนังฟอร์มกลางๆ อย่าง Emma ที่ผู้สร้างตัดสินใจยกเลิกการฉาย และส่งไปขายในรูปแบบ On Demand แทน

รวมไปถึงหนังฟอร์มเกือบใหญ่อย่าง New Mutants ของค่ายฟ็อกซ์ ที่ล่าสุดทางเวบ Amazon ก็ได้มีการเปิดให้ pre-order หนังเรื่องนี้ในราคา 25.99 เหรียญus เป็นรูปแบบ VOD ( video on demand ) ออกมาหลังหนังถูกเลื่อนฉายมาแล้วหลายครั้งชนิดที่ว่านักแสดงในเรื่องพากันโตกระทั่งไม่สามารถถ่ายซ่อมได้แล้ว

ไม่เพียงแต่จะถอดโปรแกรมหนังฟอร์มกลาง ๆ และเล็ก ๆ เพื่อขายออนไลน์ทันทีแล้ว สตูดิโอหลายแห่งก็อาศัยช่วงที่คนอยู่บ้านมากขึ้นตัดสินใจเอาหนังดัง ๆ ที่ฉายโรงไปแล้วอย่าง Invisible Man และ Onward มาขายทางออนไลน์เร็วกว่ากำหนดอีกด้วย

อย่างไรก็ตามหนังส่วนใหญ่เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นหนังฟอร์มกลาง ๆ ค่อนข้างไปทางเล็กที่ไม่ได้ส่งแรงกระเพื่อมอะไรมากนัก จนกระทั่งเมื่อค่ายหนังอย่าง Universal Pictures ทำแบบนั้นกับหนังฟอร์มใหญ่ระดับ 100 ล้านเหรียญฯ เครือโรงภาพยนตร์จึงต้องเคลื่อนไหวออกแรงเพื่อแสดงพลังทันที


แก้วิกฤติแถมรายได้ดี ไม่ต้องหารสอง?

ท่ามกลางการระบาดของไวรัส Universal Pictures ได้ตัดสินใจส่งการ์ตูน Trolls World Tour ที่ใช้ทุนสร้างระดับ 100 ล้านเหรียญฯ ขายทางออนไลน์ทันที แม้จะยืนยันว่าหนังจะเขาฉายในโรงภาพยนตร์ปกติในเดือน ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ก็ตาม

ผลก็คือ Trolls World Tour ทำยอดขายในสัปดาห์แรกไปสูงถึง 40 ล้านเหรียญฯ และเมื่อหนังเข้าฉายไปได้ 19 วัน ก็น่าจะมีคนได้ดูหนังผ่านระบบสตรีมมิงไปมากถึง 5 ล้านคน คิดเป็นรายได้น่าจะสูงถึง 95 ล้านเหรียญฯ ซึ่ง Universal Pictures ได้รับส่วนแบ่งไปเต็ม ๆ ถึง 77 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ถ้าฉายโรงปกติ ผู้สร้างต้องแบ่งเงินรายได้ กับโรงครึ่งต่อครึ่ง

โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าหนังน่าจะมีคนดูผ่านระบบออนไลน์ในช่องทางต่าง ๆ ถึง 9 - 12 ล้านคน ซึ่งหมายความว่า Universal Pictures น่าจะมีรายรับจาก Trolls World Tour มากถึง 200 ล้านเหรียญฯ ซึ่งก็น่าจะทำกำไรให้กับบริษัทมากกว่า Trolls ที่ใช้ทุนสร้างไป 125 ล้านเหรียญฯ และเก็บรายได้จากการฉายโรงไป 346 ล้านเหรียญฯ ด้วยซ้ำไป

มีความเป็นไปได้เหมือนกันที่คอหนังจะอดชม Fast & Furious 9 ในโรงภาพยนตร์
ไหนว่าจะไม่ทิ้งกัน!

ความสำเร็จของ Trolls World Tour กลายเป็นการจุดประกายความหวังให้กับวงการหนัง แต่ในเวลาเดียวกันเครือโรงภาพยนตร์ใหญ่ ๆ กลับไม่พอใจในเรื่องนี้อย่างรุนแรง กับการที่ Universal Pictures เอาหนังที่ควรจะฉายโรงไปขายในระบบสตรีมมิงแบบนี้

AMC Theaters เป็นเจ้าของโรงหนังมากกว่า 1,000 โรง และมีจอฉายหนังมากกว่า 10,000 จอ เป็นบริษัทที่ Wanda Group แห่งจีนแผ่นดินใหญ่ถือหุ้นใหญ่ นอกจากนั้น Wanda Groupยังเป็นเจ้าของเครือโรงหนังใหญ่ในยุโรปอย่าง Odeon และ UCI เรียกว่าเป็นผู้ดำเนินกิจการโรงหนังอันดับ 1 โลกก็คงไม่ผิดนัก

โดย AMC Theaters เชื่อว่าการตัดสินใจของ Universal Pictures เป็นการ "ทำลาย" ธุรกิจโรงภาพยนตร์โดยตรง และเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง พวกเขายังบอกด้วยว่าผู้ผลิตภาพยนตร์ควรจะ "ยึดมั่น" ข้อตกลงระหว่างผู้สร้าง และโรงภาพยนตร์ และทางบริษัทก็ไม่ได้มีปัญหากับ Universal Pictures เท่านั้น แต่พร้อมจะ "แบน" บริษัทที่มีนโยบายแบบ Universal ทุกบริษัท

แน่นอนว่าการประกาศ "แบน" ไม่ฉายหนัง Universal Pictures อีกในอนาคต นั่นก็หมายความว่า AMC ก็จะไม่ฉายหนังฟอร์มใหญ่อย่าง Fast & Furious ภาคล่าสุดหรือ F9 ด้วย?


"หนังไม่ลงโรง" กระแสชั่วคราวหรือตลอดกาล?


ขณะที่ทาง Universal Pictures ก็ตอบโต้ AMC Theaters ไปเหมือนกัน และบอกว่าทางบริษัทไม่ได้อยากจะมีปัญหากับโรงภาพยนตร์ และเหตุการณ์ในขณะนี้เป็นเรื่องของ "สถานการณ์พิเศษ" ซึ่งในอนาคต Universal Pictures ก็ยังไม่ได้มีนโยบายที่จะขายหนังทางออนไลน์ "ก่อน" หรือ "พร้อม" กับการฉายโรงแต่อย่างใด

นักวิเคราะห์ในวงการหนังมองว่าความสำเร็จของ Trolls World Tour ไม่ได้เป็นเรื่อง "ปกติ" และคงไม่ได้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับหนังฟอร์มใหญ่เรื่องต่อ ๆ ไป

Trolls World Tour ประสบความสำเร็จได้ด้วยปัจจัยพิเศษหลายอย่าง การเป็นหนังฟอร์มใหญ่เรื่องแรกที่ผู้สร้างนำมาขายผ่านระบบ On Demand ก่อนเข้าโรง ทำให้ผู้ชมตื่นเต้นกันมาก จึงตัดสินใจลองซื้อหนังมาชมกันเป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้นในช่วง COVID-19 ผู้ชมยังไม่ค่อยมีทางเลือกในเรื่องการบันเทิงเท่าไหร่นัก เพราะทั้งการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬา และรายการบันเทิงต่าง ๆ แทบจะงดไปหมด ถ้าทุกอย่างกลับมาสู่ความเป็นปกติ กลไก และระบบต่าง ๆ ก็คงคืนกลับมาเหมือนเดิมด้วย เพราะยังไงก็ตาม โรงหนังก็ยังเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้สร้างหนังสามารถเก็บรายได้ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำมากที่สุด

สุดท้ายแล้วความเปลี่ยนแปลงของระบบการฉายหนัง ยังไม่น่ากลัวสำหรับผู้ประกอบกิจการโรงภาพยนตร์ เท่ากับการเปลี่ยนแปลงเรื่องพฤติกรรมของคนดู

ปัญหาก็คือการระบาดของ COVID-19 ดูจะยืดเยื้อยาวนานกว่าที่คิด แม้สุดท้ายจะมีการคิดค้นยารักษา หรือวัคซีนได้แล้วก็ตาม แต่ผู้ชมก็อาจจะ "ขยาด" การไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์กันไปอีกพักใหญ่ ๆ การดูหนังที่บ้านกำลังจะกลายเป็น "ความเคยชิน" ของคนส่วนใหญ่ก็เป็นได้

ไม่เพียงเท่านั้นที่ผ่านมาธุรกิจโรงภาพยตร์ก็กำลังโดนท้าทายจากผู้ให้บริการสตรีมมิงต่าง ๆ อยู่แล้ว ความวิตกของเจ้าของโลกภาพยนตร์เกี่ยวกับ COVID-19 ที่อาจจะเปลี่ยนพฤติกรรมคนดูหนังไปตลอดกาล จึงน่าจะเป็นความกังวลที่ไม่ได้ "เกินกว่าเหตุ" เลย


กำลังโหลดความคิดเห็น