เอาแล้ว "ก็อต อิทธิพัทธ์" ลั่นยุมากๆ ก็ไม่แน่ หยอด "ริชชี่" น่ารัก นิสัยดี เข้าใจและรับฟัง เขินเกินเบอร์ไม่เคยเรียกที่รัก โอดถูกชงจนขนลุกไปหมดแล้ว ยกเป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกที่สนิท
ละคร "ซ่อนเงารัก" จบไปแล้วแต่แฟนๆ ก็ยังฟินไม่เลิก สำหรับคู่ "ก็อต อิทธิพัทธ์ ฐานิตย์" กับ "ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส" กระแสจิ้นยังแรงต่อเนื่อง หยุดไม่อยู่ ล่าสุดในงานแถลงข่าวประกวด จีเอสบี เจน แคมปัส สตาร์ 2020 ที่ ลานเซ็นทรัลคอร์ท ชั้น1 เซ็นทรัลเวิลด์ หนุ่มก็อตก็เปิดใจถึงความสัมพันธ์ ลั่นดีใจที่แฟนๆ จิ้นกัน แต่ก็ยอมรับว่าถูกชงจนขนลุกไปหมดแล้ว
"ก็ต้องบอกว่าดีใจครับที่แฟนๆ ดูละครและชื่นชอบเราสองคนจนทำให้มีกระแสออกมาเรื่อยๆ ต่อจากละครจบ ผมต้องเล่าก่อนว่าแฮชแท็ก ริชชี่ที่แปลว่าของก็อตมันมาจากประโยคหนึ่งที่พระเอกพูดกับนางเอกในเรื่อง และแฟนๆ เขาก็เอามาปรับเป็นชื่อเรา เพราะว่าเขาอินในคาแรคเตอร์ อินในตัวละครของเราสองคน"
บอกไม่อินแต่เขินที่ต้องพูดถึงเพื่อนสนิท
"(หัวเราะ) ไม่ครับไม่ ผมกับริชเราก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ถามว่าทำไมเวลาสัมภาษณ์ดูเขิน ก็เขินครับ เวลาใครถามถึงผู้หญิงผมก็จะเขินตลอด (ปฏิบัติกับริชชี่ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น?) อาจจะเพราะว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกันด้วยมั้งครับ ดังนั้นเวลาใครมาถามถึงเขาผมก็อาจจะแบบ เอ๊ะ ควรพูดถึงเพื่อนยังไงดีนะ มีความเขินนิดหน่อย"
"แฟนๆ เชียร์ผมก็เห็นนะครับ เห็นจากแฮชแท็กต่างๆ เพราะผมก็แอบเข้าไปดูบ้างเหมือนกัน ก็ตลกดีครับ ชงๆ จิ้นๆ แต่ถามว่าผมหวั่นไหวไหมกับริชชี่ เรา เอ่อ...เราสนิทกันครับ อาจจะเพราะเราทำงานด้วยกันมั้งเราเลยไม่ได้มองไปที่มุมหวานๆ"
"ส่วนที่คนคิดว่าผมจีบริชชี่ ผมต้องเก็บอาการหน่อยครับ (หัวเราะ) ไม่หรอก ก็คือด้วยความที่เราสนิทกันมาก เวลาที่เราพูดอะไรออกไปมันก็จะเป็นในอารมณ์ของเพื่อนที่อยากให้บรรยากาศมันสนุกสนานมากกว่า อยากให้คนดูเห็นว่าเราตลกอะไรประมาณนั้น"
"ถามว่าได้คุยกับเขาบ้างไหมเรื่องนี้ จริงๆ เวลาที่เราทำงานด้วยกัน อย่างช่วงนี้เราทั้งคู่มีงานด้วยกันบ่อย ผมก็จะถามไถ่เขาตลอดประมาณว่า โอเคไหม มีคนอินนะ มีคนอินในตัวเราสองคน ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่าเขาโอเค ถามว่ากดดันไหม ผมมองว่ามันเป็นช่วงเวลามากกว่านะ อย่างตอนนี้เราเล่นละครด้วยกันแถมยังได้กระแสตอบรับดี ซึ่งพอมันมีงานต่างๆ เข้ามาและเป็นงานคู่ บวกกับการที่คนดูเขาชื่นชอบความเป็นธรรมชาติของเราสองคนอยู่แล้ว ผมก็คิดว่าเขาอาจจะไม่ได้มองหรือไม่ได้มานั่งกำหนดอะไรอยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ให้มันเป็นไปเรื่อยๆ ดีกว่า เพราะเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร"
เผยอีกฝ่ายเป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกที่สนิท
"เขาก็เป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกที่ผมสนิทเหมือนกัน เอาจริงๆ นะถ้าในวงการนี้เพื่อนผู้หญิงผมไม่ค่อยมีหรอกครับ ถึงจะมีแต่ก็ไม่ได้สนิทกันเท่ากับหลายๆ คน ถามว่าผมกับเขามาสนิทกันได้ยังไง ก็อย่างที่บอกครับเราได้มีโอกาสแสดงละครด้วยกัน บวกกับเรามีผู้จัดการคนเดียวกันและก็มีงานคู่ติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ มันก็เลยยิ่งทำให้เราสนิทกันมากขึ้น อีกอย่างตอนที่อยู่ในกองถ่ายด้วยความที่ริชชี่เขาเป็นคนเงียบๆ ซึ่งผมก็ไม่อยากให้บรรยากาศในกองมันเงียบผมเลยชวนเขาคุย หลังจากนั้นเราก็กลายเป็นว่าสนิทสนมกันขึ้นมาเอง"
สนิทมากกว่าตอนเล่นละคร แรงยุมีผลหรือไม่ ก็ไม่แน่
"สนิทขึ้นครับ สนิทขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำงานยิ่งเจอกันบ่อยก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ถ้าถามโอกาสพัฒนาอันนั้นต้องให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่าครับ ส่วนแรงยุมีผลไหม ไม่แน่นะครับ (ยิ้ม) เอาเป็นว่าตอนนี้เราทั้งคู่ยังมีผลงานคู่กันเรื่อยๆ ก็ขอสนับสนุนกันที่ตัวงานไปก่อนดีกว่าครับ"
หยอดน่ารัก นิสัยดี เข้าใจและรับฟัง ปรึกษากันในหลายๆ เรื่อง
"ก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักนะครับ น่ารัก นิสัยดี เข้าใจเรา เรับฟังคนอื่นได้ดี ผมก็รู้สึกว่าเวลามีใครมานั่งฟังเราก็ดีนะครับ เราปรึกษากันบ่อยมากหลายๆ เรื่องเลย ตอนที่อยู่ในกองถ่ายเราก็ปรึกษากันตลอด เพราะเราต้องเข้าซีนด้วยกันเยอะมากๆ แถมบทที่แสดงมันก็ไม่ได้ง่าย เวลาคุยกันเราก็จะคุยกันทุกเรื่องเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผมคุยคนเดียวมากกว่า เขาไม่ค่อยคุยหรอก (หัวเราะ)"
"พอละครจบตอนนี้ส่วนใหญ่เราก็จะคุยกันเรื่องงานครับ คุยกันว่าฟีดแบ็กตอนนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะ และเราจะวางแผนการทำงานของเราอย่างไรต่อไป คือเป็นการคุยเรื่องทั่วไปเลยครับ อาจจะมีถามไถ่บ้างอย่างเช่น วันนี้เหนื่อยไหม ทำงานไหม หรือวันไหนที่ต้องทำงานคู่กันผมก็จะถามเขาว่าออกกี่โมงไปกี่โมง อะไรประมาณนั้นครับ ถามว่ามีงานจ้างคู่กันเยอะไหม ช่วงนี้ก็จะเป็นงานลักษณะของการรีวิวคู่กันครับ และเร็วๆ นี้ก็จะมีมิวสิกวิดีโอด้วยเป็นเพลงของพี่ลีเดีย ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ"
คุยทุกวัน ไม่ได้รอฝ่ายหญิงใจอ่อน
"ถามว่ารอเขาใจอ่อนไหม ไม่ครับไม่ ก็ด้วยความเป็นเพื่อนไง (ยิ้ม) ส่วนที่คนจับผิดว่าไปเดินห้างเดียวกัน ห้างแต่ละห้างมันก็เหมือนกันแหละครับ เพียงแต่เราอาจจะถ่ายมุมเดียวกันไง แต่เราไม่ได้ไปด้วยกันนะ เราไปกันคนละวัน ภาพของผมน้องสาวเป็นคนถ่ายให้ ส่วนภาพของริชเขาน่าจะไปกับเพื่อน อันนี้ผมไม่รู้ โอกาสไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสอง ยังครับยัง คือเวลาที่เราไปก็จะไปกันหลังเลิกงาน และถ้าไปก็จะมีผู้จัดการไปด้วยตลอดเพราะเขาเป็นคนดูแลเราทั้งคู่"
ไม่พร้อมดูแลใคร ไม่เคยเรียกที่รัก ถูกชงจนขนลุกไปหมดแล้ว
"ผมจะไปดูแลใครเขาได้ครับ ยังไม่พร้อมครับ ยังไม่พร้อมดีกว่า อีกประมาณสักพักแล้วกันนะ ถ้าผมพร้อมแล้วผมจะบอกนะพี่ ปกติเราก็ไม่ได้เรียกแทนว่าอะไรนะครับ ก็เรียก ก็อต ริช ปกติเลย เรา เขา อะไรประมาณนั้น ไม่ได้เรียกที่รัก ไม่ถึงขนาดนั้น พี่ชงเก่งมากเลย ผมขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย (หัวเราะ) ส่วนความสัมพันธ์จะพัฒนาไปทางไหน ผมคิดว่ามันอาจจะยังเร็วไปที่จะตอบ ตอนนี้ก็ลุ้นกันไปก่อน ตอนนี้ก็สนับสนุนผลงานของเราสองคนด้วยนะครับ ยังมีผลงานให้ชมกันเรื่อยๆ"
หวังปาฏิหาริย์ให้พ่อป่วย แต่พร้อมจะดูแลให้ดีที่สุดในวันที่พ่อยังมีลมหายใจ
"ตอนนี้ก็ยังดูแลอย่างใกล้ชิดเหมือนเดิมครับ ดูแลท่านอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็จะมีคุณแม่และพยาบาลดูแลอยู่เรื่อยๆ ระยะเวลาตอนนี้ก็จะร่วม 1 ปีแล้ว ส่วนในอนาคตก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร อาการโดยรวมก็ยังไม่ได้รู้สึกตัวอะไรมากแต่ก็ไม่ได้หนักไปกว่าเดิม ไม่ได้มีการติดเชื้อ ไม่ได้มีอาการแย่ลง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม นิ่งๆ อาจจะมีขยับตัวบ้างนิดๆ หน่อยๆ ส่วนเรื่องการรักษาก็อย่างที่บอกครับทุกอย่างมันอยู่ตัวแล้ว ตอนนี้เราก็รอปาฏิหาริย์และก็รอให้คุณพ่อฟื้นตัว อันนี้สำหรับผมนะ เพราะผมไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต อาจจะต้องใช้เวลาครับ"
"จริงๆ มันก็ท้อนะครับ เพราะผมก็อยากจะแก้ไขทุกอย่างให้มันดีที่สุด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากดูแลกันไปและเยียวยากันไป ผมก็จะดูแลพ่อให้ดีที่สุดครับในวันที่พ่อยังมีลมหายใจ"