“ไก่ วรายุฑ” อัดอั้นโดนด่าอยากเป็นนางเอกซะเอง บอกด่าได้ไม่โกรธแต่ควรรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร แจงเปลี่ยนตัว “ริชชี่” เป็น “มารีน่า” ทำตามบทประพันธ์ ด่า “ม้า อรนภา” ปากปีจอ บวกเรื่องที่เล่าให้ฟังไปเกินร้อย ส่วนลูกน้องลาออกไปมีครอบครัวไม่ได้มีปัญหากับริชชี่ ลั่นยินดีเป็นกระโถนให้คนถุยน้ำลายใส่ 50 ปีไม่เคยทำร้ายใคร
เกิดดรามาชุดใหญ่สำหรับละคร “ซ่อนเงารัก” ของผู้จัด “ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา” หลังจากที่เจ้าตัวโพสต์ชี้แจงถึงสาเหตุการเปลี่ยนตัวละครว่าให้ไปถามนักแสดงเอาเอง ซึ่งเพื่อนสนิทอย่าง “ม้า อรนภา กฤษฎี” ได้ออกมาแฉในรายการหนึ่งถึงสาเหตุการเปลี่ยนนักแสดงว่าทนพฤติกรรมของนางเอกสาวในเรื่องอย่าง “ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส” ไม่ไหว จนพนักงานเก่าแก่ 3 คนร่ำไห้ขอลาออก ล่าสุดมีโอกาสเจอผู้จัดละครชื่อดัง เจ้าตัวจึงเล่าถึงสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนตัวละครว่าในบทประพันธ์เรื่องนี้กำหนดให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว
“ในบทนี้มันเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เราก็ต้องเปลี่ยนตัว เพราะหนึ่งมันเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในเรื่องเราก็เลยเปลี่ยนตัวละคร มันวางไว้ตั้งแต่ต้น ในบทเขาเขียนว่าอย่างนั้น ว่าศัลยกรรมหน้าใหม่ ถ้าเกิดศัลยกรรมริชชี่ก็ออกมาเหมือนเดิม ละครใหม่ก็เปลี่ยนหน้าใหม่ ไม่ได้เปลี่ยนกลางอากาศ แต่บทเขาเขียนมาอย่างนั้น น้องเขาก็รับรู้ น้องเขาก็รับทราบอยู่แล้วในตรงนั้น คือทุกคนถามทำไมต้องเปลี่ยนตัว คือรำคาญนึกออกไหม คือเราได้โอกาสโปรโมตละครเราเลย ไปถามคนอื่นบ้างได้ไหม ไปถามน้องบ้างได้ไหม ไปถามใครบ้างได้ไหม ทำไมมาถามชั้นอยู่คนเดียว เรายังไม่ได้คุยอะไรกับน้องเลยนะ ทุกคนคิดกันไปเองหมด ทุกคนคิด แฟนคลับคิด สื่อคิด อะไรคิด เราไม่เคยคิดอะไรเลย"
รับการทำงานในเรื่องมีปัญหาเป็นปกติอยู่แล้ว ยันส่วนตัวไม่ได้โกรธ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับ “ริชชี่” แฮปปี้ร่วมงานอีกฝ่าย
"ปัญหามี มันก็เป็นปัญหาปกติ การทำงานมันไม่ได้ปูด้วยพรม ปูด้วยดอกกุหลาบ มันก็มีปัญหาเป็นเรื่องปกติ ทุกคนก็มีปัญหาอยู่แล้ว เรื่องปกติ ละครเรื่องนี้เราเปลี่ยนประมาณสี่ถึงห้าครั้ง (ตอนนี้มีคนมาโจมตีเรา?) โจมตีเรื่องอะไร อยากถาม เราอยู่วงการมา 50 กว่าปี เราเคยทำร้ายเด็กเหรอ เราเคยเอาเปรียบเด็กไหม เราเคยฆ่าเด็กไหม”
“แต่ตอนนี้เด็กๆ จะทำให้เพื่อนหรือคนที่รักเขา ฆ่าเราโดยที่ไม่รู้ตัว เด็กก็ไม่รู้เรื่องอะไร คนที่เข้าข้างเด็กรักเด็กจะฆ่าเรา ยื่นมือยื่นมีดมาฆ่าเรา แต่เรากับริชชี่ ยังไม่ได้คุยกันเลย แล้วก็ไม่ได้โกรธกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับเราและเขาเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่ได้คุยกับน้องเลย ไม่มีอะไรจะคุยกับน้อง เพื่อ..."
“ตอนร่วมงานกับริชชี่ก็แฮปปี้ มันก็มีบ้าง ไม่ใช่เยอะแยะอะไร เราทุกคนไม่ใช่เพราะริชชี่ ดาราทุกคนถ้าใส่วิกทั้งวันมันก็บ่นปกติเพราะมันคันหัว ริชชี่มันก็บอกว่าคันหัว เจ็บหัว ปกติ เราก็บอกปกติว่าน้องใส่วิกแล้วเจ็บหัว แล้วเรื่องนี้มันใส่ทั้งเรื่อง ม้าก็ไปต่อเติมซะร้อย"
แจงประเด็นที่เพื่อนสนิท “ม้า อรนภา กฤษฎี” แฉในรายการว่าตนกับ “ริชชี่” มีปัญหากันนั้น เป็นการพูดบวก เสริมเติมแต่งจากความเป็นจริง
"โอ้ย อีม้านะคะ อีนี่นะ อรนภา กฤษฎี มันชื่ออะไรมันชื่อม้าแต่ปากหมา ขอด่ามันตรงนี้เลยค่ะ ก็ไม่ได้ปรับทุกข์ เป็นการเล่าสู่กันฟัง เพราะว่าเราไม่มีทุกข์ มีแต่ความสุขกับการทำงาน ถามว่ามีปัญหาไหม ทุกกองมันก็ต้องมี ก็คุยกันปกติ แต่ว่าการทำข่าวมันก็ต้องมากกว่าปกติ มันก็เลยเป็นสิ่งที่มีอะไรออกมาอย่างที่ได้ยินกัน แล้วนี่ก็ด่าฝากไปถึงม้า เกินไปนะมึง แต่ไม่โกรธนะปกติ ม้าเขาเป็นคนแบบนั้นอยู่แล้ว โพละๆ ใส่ไป”
ส่วนที่ลูกน้องตนลาออกเป็นเพราะว่าจะไปมีครอบครัว ไม่ได้ลาออกเพราะมีปัญหากับ “ริชชี่”
"เขาลาออกจะไปมีผัวค่ะ เอามาบวกกันหมดเลยค่ะ ออกจะไปมีผัวค่ะ เขาบอกกับเราว่าพี่ขาหนูขอลาออกนะคะหนูจะไปมีผัวค่ะ บังเอิญประจวบเหมาะพอดี พอดีเราเล่าอะไรให้ฟังแล้วบวกเป็นเรื่อง ไม่เกี่ยวกับน้องเลย”
บอกไม่รู้สึกอะไรหลังมีกระแสตีกลับมาด่าว่าตน โอดคนมาด่าไม่เคยรู้จักนิสัยตน
"ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเราทนแดดทนฝน ทนมา 50 ปีแล้ว จะตายวันนี้ก็ให้มันตายไปเลย ด้วยมีดของเด็กยื่นให้ หรือแฟนคลับเด็กยื่นให้ ซึ่งเขาเคยเจอริชชี่ไหม พวกที่ด่า พวกที่ว่าเรา พวกที่โกรธเราแทนน้อง เขาเคยเจอริชชี่เรา เคยทำงานกับริชชี่ไหม เคยกินข้าวกับน้องไหม แล้วเคยกินข้าวกับเราไหม รู้จักนิสัยสันดานเราไหม ว่าเราเป็นคนอย่างนั้นหรือเปล่า อยู่ๆ ก็มาด่า เราโกรธพวกนั้นมากกว่าที่ไม่รู้อะไรเลยแล้วด่าซะแล้ว โอเค เราเป็นกระโถน ให้เขาถุยน้ำลายใส่ลงมา แต่ว่ากระโถนอย่างฉันไม่สึกหรอกคะ”
บอกคนที่น่าสงสารคือสาว “มารีน่า” ที่ต้องมารับช่วงต่อซึ่งเป็นช่วงที่ตัวละครเลวร้าย
“ก็ถามเขาดูมีอะไรไหม มีไหม ถ้าเขามีหรือโกรธก็คงไม่ได้ออกรายการพี่ต๋อย ไตรภพ ทั้งที่ตอนนั้นปิดตัวไปแล้ว วันไหว้เขาก็ไป ไปกับน้องมารีน่า คนที่น่าสงสารสิมารีน่า ทำไมแฟนมารีน่าไม่มาพูดบ้าง คนที่น่าสงสารคือมารีน่า ทำไมแฟนมารีน่าไม่ขึ้นมาพูดบ้างล่ะ อันนี้น่าสงสารเพราะมารับต่อเป็นช่วงที่ตัวละครเลวร้ายด้วย คนก็เลยด่าเราอีก โอ๊ย เปลี่ยนหน้าแล้วเปลี่ยนสันดานเลยเหรอ ทำไมไม่ดูว่านิสัยตัวละคร พฤติกรรมตัวนี้มันเป็นสีเทา มันสามารถโกรธ เกลียดได้ มันต้องการของมันคืน มันก็ทำทุกอย่างได้เพื่อตัวมันเอง”
ลั่นชอบที่มีกระแสด่าละครตน บอกด่าได้ไม่โกรธ แต่ขอให้รู้ว่าด่าอะไรที่ควรหรือไม่ควร ไม่ใช่ไม่รู้อะไรเลยแล้วด่า
“ชอบ ชอบด่ามาเถอะค่ะ แต่ขอให้ดูนะ ด่ามาเลย ยินดี สรุปเรื่องที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดเป็นเรื่องที่คนอื่นพูดทั้งนั้นเลย เคยได้ยินเราพูดไหม เคยไหม มีใครเคยได้ยินเราพูดบ้าง ไม่เคย มีใครเคยได้ยินริซซี่พูดไหม ไม่เคย แต่สิ่งที่ได้ยินคืออะไร แฟนคลับ คนอื่นพูดหมดเลย พวกจิ้น พวกติ่งนี่ตัดมันหมดเลย อยากจะบอกว่าด่าได้นะคะ ไม่ว่าไม่โกรธ แต่ขอให้รู้ว่าด่าอะไรที่ควรหรือไม่ควร ไม่ใช่ไม่รู้อะไรเลยแล้วด่า อยากจะสั่งสอน พวกที่ด่าจริงๆ เจอกันหน่อยได้ไหมคะ จะเลี้ยงมีตติ้งให้ มาเลยค่ะ มาเจอกันจะเลี้ยงฟรี แล้วมาด่ากัน แล้วคอยดูละครตอนจบว่ามันเป็นยังไง ที่ด่าดิฉันว่าเป็นเพศเดียวกัน รักเพศผู้ชาย ได้กับผู้ชาย ดูแล้วกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
โกรธและอัดอั้นมากที่โดนด่าว่าตนอยากเป็นนางเอกเอง
“อัดอั้นสิคะ เรื่องนี้โกรธนะ หาว่าฉันอยากเป็นนางเอก เอาจริงๆ ฉันก็อยากเป็นเหมือนกันแต่ไม่มีพระเอก กับกระแสเราไม่มีอะไร เราเฉยๆ เราอยู่กับวงการนี้มา 50 ปี เจออะไรมาเยอะกว่านี้นะ เจออะไรที่กระทบกระเทือนจนจะออกจากวงการก็มีตั้งหลายครั้ง ก็รู้ข่าวกันอยู่ แต่อันนี้มันไม่ได้พูด น้องก็ไม่ได้พูด เราก็ไม่ได้พูด เกิดจากคนอื่นพูดทั้งนั้น เราอยากจะระบายมาก ก็อยากจะบอกพวกแฟนคลับมาเจอกันหน่อย คิดเอง เออเอง มาเจอกันฉัน เขาดูเรา แต่ตอนนี้เขาบอกจะไม่ดูแล้ว ยังไงก็ต้องดู เพราะเขาอยากรู้ว่าจะทำยังไง ถึงจะได้ด่าเราต่อ”