เอาจริง? "สมรักษ์ คำสิงห์" แอบจินตนาการ หากเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช จะเข้าไปสู้กับจ่าคลั่ง!

"สมรักษ์ คำสิงห์" หวิดเป็นผู้ประสบเหตุกราดยิงที่โคราชทั้งครอบครัว เคราะห์ดียกเลิกงานไปก่อนเพียง 1 วัน เผยแอบจินตนาการถ้าติดอยู่ในเหตุการณ์คงจะออกไปล็อกคอคนร้ายตอนเผลอ เป็นนักมวยต้องสู้ เข้าใจทุกคนกลัวและขาดสติ ภูมิใจลูกสาวหาเงินเก่ง ออกรถเองได้ตั้งแต่อายุ 19 ไฟเขียวหากมีหนุ่มมาจีบ ไม่ห่วงเพราะลูกคุยกับใครเอาให้ดูตลอด

เกือบกลายเป็นผู้ประสบเหตุในเหตุการณ์กราดยิงที่โคราชทั้งครอบครัว สำหรับอดีตนักมวยเหรียญทอง "สมรักษ์ คำสิงห์" ที่ได้ออกมาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังในงานแถลงข่าวหนังรักอารมณ์ดี "LOVE เลย 101 (LOVE เลยร้อยเอ็ด)" ว่าจริงๆ แล้วในวันเกิดเหตุนั้น ลูกชายได้รับการติดต่อให้ไปโชว์ตัวที่โคราช แต่ว่าเพิ่งจะยกเลิกงานไปก่อนเพียง 1 วันเท่านั้น ถือเป็นโชคดีของครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะว่าเวลาไปงานที่โคราชก็จะยกกันไปทั้งครอบครัว แล้วก็จะแวะไปทานข้าวที่ห้างเทอมินอล 21 เสมอ

"ก่อนเกิดเหตุ 1-2 วันเพิ่งแคนเซิลงานที่โคราชไป มีงานโชว์ตัวของลูกชายในวันอาทิตย์ที่ 9 ก.พ. ถ้าไปก็ไม่แน่ช่วง 18.00 - 19.00 น. อาจจะไปนั่งทานข้าวในห้างกัน แต่พอดีลูกชายติดแข่งบอลให้เมืองทอง ก็เลยยกเลิกสละสิทธิ์ไป ก็โชคดี"

บอกถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้นคงจะสู้ ถ้าคนร้ายเผลอจะโดดล็อกคอ บอกเป็นนักมวยต้องสู้ ถ้าเอาอยู่ก็รอด ถ้าไม่อยู่ก็เรียบร้อย แต่ก็เป็นแค่จินตนาการส่วนตัวเท่านั้น
“ถ้าไปวันนั้นก็น่าจะโดน แต่ก็จินตนาการไปว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ตอนนั้น โดนจับไปเป็นตัวประกันตรงนั้นเราจะทำยังไง อย่างน้อยผมคนหนึ่งคือต้องสู้แน่ จังหวะผู้ร้ายเผลอต้องโดดล็อกคออะไรแบบนี้ เอาจริงๆ นะคือคนคนเดียว แล้วหลายคนอยู่ในนั้นหลายสิบคน พอเขาเผลอปุ๊บ เราจินตนาการคนเดียว เราต้องสู้ เราต้องช่วยกัน ยามวิกฤตนี้คนไทยต้องช่วยกัน แต่หลายคนอาจจะไม่มีตัวเริ่มต้นไง จังหวะเขาเผลอ"

"(แต่เขามีอาวุธครบมือ?) ใช่ๆ อาวุธครบมือแต่เขาถือปืนอันเดียว จังหวะเขาเผลอเราอยู่ด้านหลังเรากระโดดตะครุบคอเลย แล้วให้มาช่วยหน่อยมารุมกัน ผมจินตนาการส่วนตัว แต่เข้าใจ พอถึงเหตุการณ์จริงๆ ทุกคนอาจจะตกใจกลัว ขาดสมาธิ แต่ถ้าเป็นผม ผมนั่งคิดเล่นๆ ถ้าผมโดนจับเป็นตัวประกันตรงนั้น ผมก็ต้องพยายามหา เผลอเมื่อไหร่ต้องล็อกคอ ต้องสู้เราเป็นนักมวย จะเอามันอยู่ไหม ถ้าอยู่ก็รอด ถ้าไม่อยู่เราก็เรียบร้อย ก็จินตนาการส่วนตัวนะครับ"

เผยติดตามเหตุการณ์ตลอด เพราะถ้าไปก็ไปกันทั้งบ้าน ไปแต่ละครั้งก็จะไปกินข้าวที่นั่นตลอด
"ติดตามครับ คือจริงๆ แล้วกำหนดผมจะไปที่นั่นอยู่แล้วไง เพราะลูกชายจะไปโชว์ตัวที่ห้างวันเสาร์ อาทิตย์ ถ้าได้ไปก็ไปกันทั้งบ้าน ไปแต่ละครั้ง ก็จะไปนั่งทานข้าวกันตอนเย็นๆ ที่ห้าง ก็พอดีเลย คือลูกชายมีรายการไปเดาะบอลโชว์ แต่วันนั้นเขาติดแข่งฟุตบอลรายการใหญ่ของเมืองทองเลยไม่ได้ไป"

ภูมิใจลูกสาวออกรถเองได้ในวัย 19 ปี
"ก็ภูมิใจทั้งลูกสาวลูกชายแหละครับ เขาหาเองได้ เขาก็เก่ง เขาหาเองเนาะ ต่อจากเรื่องนี้ก็จะเป็นคุณชายใหญ่ ถ่ายเสร็จแล้ว"

บอกเรื่องการวางแผนเก็บเงินใช้เงิน ไม่ต้องห่วงเลย แม่เขาคอยดูแลอยู่แล้ว
"แม่เขาเคี่ยว ไม่ต้องห่วง(หัวเราะ) แม่เขาดูแลให้ เงินทุกบาททุกสตางค์เขาไม่ได้มารบกวน ให้แม่เขาเก็บ แล้วเขาก็ใช้เป็นรายเดือน แต่อยากได้อะไรเขาก็บอกแม่เขน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก่อนซื้อรถก็มาปรึกษา พ่อก็หาให้ พรรคพวกเยอะ ลูกอย่างได้แบบนี้ ก็ให้พรรคพวกส่งมาให้ดู ไม่ยาก"

ไม่ห่วงเรื่องหนุ่มๆ เพราะคุยกับใครลูกบอกตลอด
"เขาก็เปิดนะ ใครคุยกับเขา เขาก็เอาให้ดูตลอด คนดังคนไม่ดังเขาก็ให้ดู เราก็ไม่ได้สกรีนอะไรให้ ตามสบาย ผมเชื่อว่าเขาโตแล้ว อีกอย่างคือการที่คนเราทำความดี เราเชื่อว่าเราอบรมมาดี พอโตขึ้นเขาก็เจอแต่สิ่งดีๆ ส่วนเรื่องสเปกก็ต้องไปถามเขา"

ขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกสาวแต่ไม่ได้ใจร้าย
"พ่อแม่ทุกคนแหละครับ ผมว่าเป็นห่วงมากกว่า เราก็ดูห่าง ๆ คนไหนใช่หรือไม่ใช่ ใครเข้ามาเกาะแกะดูดี ๆ นะลูก แต่ไม่ถึงขั้นถือปืนหน้าบ้านนะ ไม่ถึงขนาดนั้น แปลกนะ เห็นผมใจร้ายขนาดนั้นเหรอ ขู่ไปอย่างนั้นแหละ จริง ๆ ผมนั่งหัวเราะทั้งวัน"

เรื่องลูกเขยเป็นเรื่องของอนาคต แต่เข้าทางพ่อไม่ได้ ต้องไปจีบเอง
"เป็นเรื่องของอนาคต(หัวเราะ) แต่ทุกวันนี้ไปไหนทุกคนก็สวัสดีครับพ่อ รู้สึกว่ามีลูกชายเยอะขึ้น ก็มีทั้งคนนอกวงการและคนในวงการก็เข้ามาแซวมาล้อเล่น ก็ไม่รู้ว่าล้อเล่นหรือเอาจริง เข้าทางพ่อไม่ได้หรอก ถ้าลูกเขาไม่ยอม ต้องไปจีบเขาเอง เราก็ยิ้มอย่างเดียว"

"พ่อไฟเขียวอยู่แล้ว ไม่มีอะไร เราไม่ได้หวงขนาดนั้น ถ้าครอบครัวอบอุ่น พ่อลูกเข้าใจกันความขัดแย้งจะไม่มี สังเกตว่าถ้าครอบครัวไหนอบอุ่นลูกจะมีคุณภาพหมด ไม่ค่อยมีปัญหา ไม่ค่อยออกนอกลู่นอกทาง อันดับแรกของความมั่นคงต้องครอบครัวเป็นหลักก่อน"

ก่อนหน้านี้ไปออกรายการแล้วถูก "หม่ำ จ๊กมก" แซวว่าเกาะลูกสาวกิน แล้วยอมรับ
"ช่วงนั้นผมโดนคดีล้มละลาย โดนอายัดทรัพย์ 1 ปี ช่วงนั้นเราก็เกาะลูกสาว ขอเงินลูกวันละ 1,000 บาทไปถ่ายละคร ก็ไม่มีอะไร ตอนนี้เรื่องคดีจบหมดแล้ว เปิดบัญชีใช้ได้ทุกอย่าง ปกติแล้ว ที่ยังไม่ออกข่าวเพราะบางทีเราพูดอย่าง เข้าใจนักข่าวว่าต้องขายข่าวแรงๆ ก่อน เพราะการแข่งขันเยอะ ไม่เป็นไร เราเลยไม่อยากพูด จริงๆ เรายังไม่ได้อยู่ในขั้นล้มละลาย อยู่ในช่วงต่อรอง อายัดทรัพย์ พอต่อรองเสร็จ เคลียร์เสร็จก็ปลด ไม่มีอะไร ทรัพย์สินทุกอย่างก็กลับมา เขาเก็บไว้ให้เราปีหนึ่ง เขาคืนให้เราหมด กลับมาใช้ได้เหมือนเดิม ลำบากอยู่ปีหนึ่ง ก็ถือว่าฝึกความอดทน เป็นฮีโร่ต้องอดทนได้ทุกอย่าง"