หวั่นอาถรรพ์เบญจเพส “เดียร์น่า” โร่พาฝาแฝดเร่งทำบุญถวายสังฆทาน หลังจากรับเคราะห์แทน
อายุ 25 ย่าง 26 แล้วสำหรับ “เดียร์น่า ฟีลโป” งานนี้เดียร์น่าบอกว่า เบญจเพสผ่านฉลุยเจอแต่เรื่องดีๆ ไม่มีอะไรกระทบ ตรงกันข้ามกับน้องฝาแฝดที่มักจะเจอเรื่องไม่ดี เหมือนตามความเชื่อว่าที่ เมื่อแฝดคนหนึ่งดี อีกคนหนึ่งจะต้องรับแทน
“ปีที่แล้ว 25 ปีนี้จะเข้า 26 เดียร์ว่าเป็นเบญจเพสที่ดียังไม่มีเรื่องอะไรที่รุนแรงหรือทำร้ายจิตใจ ก็เลยโชคดีและดีแล้วแหละอย่ามีเลย ก็มีหวั่นเหมือนกัน คนอื่นโดนนั่นโดนนี่ เดียร์มีแฝด (แม็กซิม) แล้วไปโดนเขาแทนค่ะ ไปเที่ยวด้วยกันแล้วของหายเขาก็เศร้า ไปวันแรกก็โดนล้วงกระเป๋าแต่เราไม่โดน พระก็ทักเหมือนกัน ถ้าเราดีคนหนึ่งจะโดนแทน ก็แก้เคล็ดด้วยการไปทำบุญทำถวายสังฆทานค่ะ”
“แต่ของเขาจะหายบ่อยค่ะ อย่างตอนไปเที่ยวด้วยกันที่ฝรั่งเศสของเขาก็หาย เขาก็บ่นว่าช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร ไม่ค่อยดีเลย ปีนี้เขาจะนอยด์ๆ แต่เราไม่กระทบอะไรมาก โดนแต่ละครั้งก็ 2-3 แสนเลย อย่างกล้องเขาหายเขาเศร้าเราก็เศร้า สงสารก็ต้องปลอบว่า ไม่ต้องคิดอะไรแต่คนที่โดนก็อดคิดไม่ได้ ก็บ่นเสียดายจังเลย น่าจะได้ถ่ายอันนี้ ก็ให้กำลังใจเขาไป ก็ปลอบโดยการซื้อให้เขาใหม่(หัวเราะ) อันนี้เรื่องจริง แต่เขาทำใจอยู่นาน เพราะเขาไม่ได้อยากได้ของใหม่ เขารู้สึกว่าเขาทำหายเอง ก็บอกเขาว่าไม่เป็นอะไรหรอก หายไปแล้วก็เป็นบทเรียนจะได้ระวังมากขึ้น”
ชีวิตจริงๆ ผ่านฉลุยไม่มีอะไรให้เครียด แต่ในการทำงานกลับได้รับบทเครียดละคร ลายกินรี
“เรื่องละครเพิ่งเปิดกล้องประมาณ 15 คิวค่ะ ถ้าเป็นไปได้อาจจะได้ออนแอร์สิ้นปีนี้ ถ้าเกิดเราถ่ายกันทัน บทก็ถือว่าหนักมากค่อนข้างดราม่า เปิดเรื่องมาก็สามีตาย ค่อนข้างใช้อารมณ์เยอะเหมือนกันในการถ่ายทอดออกมา บทไกลตัวมาก ต้องทำเบื้องหลังตัวละครเยอะมาก ปกติละครที่ผ่านมาเปิดกล้องมาก็จะเป็นแนวใสๆ ก่อน แต่พอเรื่องนี้เปิดมาก็หนักเลย ก็ต้องทำพื้นหลังเยอะไม่อย่างนั้นเราจะไปไม่ถึงว่าเขาเสียใจแค่ไหน”
“เรื่องราวจะอยู่ยุคสมัยพระนารายณ์ทั้งหมดเลย ก็จะมีเล่าตอนที่เกิดเหตุและมีย้อนกลับไปบ้าง มีการใช้คำโบราณหมดเลย แต่ก็พูดจนเข้าปากแล้ว ตอนแรกๆ จะพูดยังไงดีให้ธรรมชาติ เพราะไม่ใช่ภาษาที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เรียกว่ายากค่ะ ก็มีติดไปพูดเล่นกับเพื่อนบ้าง อยู่กองก็พูดแบบว่า เจ้าทำอันใด มิได้ดอก คำว่าไม่ก็ไม่พูด ต้องมิได้ อย่างไรก็ไม่ได้ ต้องเยี่ยงไร”
เล่นแล้วอินติดกลับไปบ้าน
“ก็มีติดไปที่บ้านเหมือนกัน รู้สึกเหมือนเราเป็นคนเศร้าทั้งวันหดหู่เหมือนกัน เราก็ต้องเข้าไปในอารมณ์ของตัวละครจริงๆ ถึงจะถ่ายทอดออกมาได้ แต่พอขึ้นรถก็พยายามสะบัดออก เพราะมันผ่านไปแล้ว พยายามจะจัดการกับความรู้สึกไม่อย่างนั้นเดี๋ยวหัวระเบิด ทุกคนก็ช่วยเยอะมาก เพราะทุกคนรู้ว่าเรื่องนี้กดดันเยอะ พี่อ๊อฟ พี่อู๋ก็พยายามคอยบอกอารมณ์ตัวละคร พี่ก็อตเขาก็คอยบอก เขาเล่นกับเราในฉากด้วยกันก็คอยสอนว่า เดียร์ควรจะคิดแบบไหน ทุกคนช่วยกันหมดเลยน่ารักมาก แล้วกองนี้ทุกคนเก่งมาก เราโชคดีที่ได้มาเล่นกับเขา เขาสอนและส่งอารมณ์เต็มที่ เราก็ได้เต็มที่”