"มาร์กี้" เคลียร์แทนน้อง ป้อง "มารีน่า" ถูกโจมตีแค่นี้ไม่หนัก ชีวิตมีเรื่องให้ร้องมากกว่านี้

มีหลายเรื่องให้ตอบเลยทีเดียว สำหรับ "มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า จิราธิวัฒน์" ทั้งเรื่องที่ถูก ตม. กักตัวระหว่างไปทริปฮ่องกง รวมทั้งกรณีที่น้องสาว "มารีน่า บาเล็นซิเอก้า" โดนโจมตีเพราะรับไม้ต่อจาก "ริชชี่่ อรเณศ ดีคาบาเลส" ในละครซ่อนเงารัก อีกทั้งเรื่องราวดีๆ เพลงวิบวับสามี "ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์" ทะลุ 40 ล้านวิว โดยเจ้าตัวขอเคลียร์ทุกเรื่องในงานแถลงข่าว Booking.com launch its unique Booking Bus เปิดตัว Booking Bus รถบัสพักได้ครั้งแรกอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ณ โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ

"ทริปฮ่องกงที่โดนกักตัว อาจจะน่าสงสัยมั้ง (หัวเราะ) เราไปเช้าแล้วก็กลับเย็น คือไปประมาณ 10 โมง แล้วช่วง 4-5 โมงก็กลับแล้ว ด้วยความที่เราไปไหว้พระ ก็แค่ไปไหว้พระเสร็จก็กลับเลย เขาก็เลยสงสัยว่ามาทำไม มาแค่ 5-6 ชม.ก็กลับเลย มีอะไร เขาก็ขอพาสปอร์ตไปดู มากับใคร เอาเสื้อผ้ามาไหม แต่บริเวณก็จะเป็นบริเวณอีกแบบนึง"

"ตอนที่เขาเรียกก็ไม่ได้ตกใจ เพราะเคยโดนประเทศนึงมาแล้ว (หัวเราะ) มีประสบการณ์มาแล้วเลยพอรู้ แต่อันนั้นคือเราบินคนเดียว เป็นผู้หญิงบินคนเดียว ก็เข้าใจ อันนี้ไปฮ่องกงข้ามไปมาเก๊าค่ะ แต่ละประเทศเขาก็จะมีอยู่แล้วว่าอะไรที่เป็นพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต้องมาตรวจ มีตรวจกลับไหม อย่างประเทศก่อนหน้านั้นที่เคยโดนคือเขาก็จะดูว่ามีตั๋วกลับหรือเปล่า"

"ของเราเช็กตอนเข้าค่ะ ขากลับจากมาเก๊า ก็ต้องมีอธิบายว่ามาทำอะไร เราก็บอกว่าพาพนักงานรายการยูทิวบ์เรามาไหว้พระ เขาก็ถามว่ายูทิวบ์อันไหน ขอเปิดดูหน่อย ดีนะคนตามช่องเยอะ ไม่งั้นนะ (หัวเราะ) ก็ใช้เวลาเคลียร์อยู่ 1 ชม.ค่ะ ก็นานเหมือนกัน แต่เราก็ไปแบบด่วนๆ ค่ะ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติ ขำๆ เราไม่ได้ซีเรียสอะไร เพราะความปลอดภัยมันก็สำคัญของทุกประเทศอยู่แล้ว เราก็เข้าใจ ก็แค่มาบอกต่อเฉยๆ"

"กี้ก็ไม่ได้แต่งตัวน่าสงสัยนะ ไม่รู้ว่าผู้ช่วยกี้แต่งตัวน่าสงสัยหรือเปล่า (หัวเราะ) ก็แซวๆ กันว่าใครแต่งตัวน่าสงสัยกว่ากัน เพราะมีผู้ช่วยที่เป็นผู้หญิง เป็นคุณเลขาฯ คนนึงที่ช่วยๆ งานเราอยู่ นั่นก็แต่งตัวแซบเหมือนกัน"

บอก "มารีน่า" ให้ใจเย็นๆ คอมเมนต์ไม่มีประโยชน์ก็ให้ข้าม เดี๋ยวก็ผ่านไป
"คือที่จริงกี้ว่านักแสดงทุกคนน่าจะมีประสบการณ์เรื่องคอมเมนต์ในไอจี หรือคอมเมนต์ตามข่าวอะไรทั้งหลายอยู่แล้ว มันก็จะมีคอมเมนต์ที่ดีและคอมเมนต์ที่ไม่ถูกใจ หรือเราไม่ชอบเป็นปกติ แต่ว่าทุกอย่างผ่านมาแล้วมันก็ผ่านไป เราก็จะบอกเขาว่าใจเย็นๆ อะไรที่ไม่ดีเราก็มองข้ามไป และถ้าเราสามารถเอามาพัฒนาตัวเองได้เราก็เอามาพัฒนา แต่ถ้าอะไรที่เป็นคอมเมนต์ที่ไม่ได้เอามาใช้เป็นประโยชน์หรือพัฒนาตัวเองได้ ก็ถือว่าข้ามไป"

"ถามว่าเขาเครียดไหม มันก็ไม่ได้ถึงกับเครียด คือกี้เข้าใจนะ เพราะมันเป็นละครที่เล่นยาก เห็นใจทุกคนที่เล่นละครเรื่องนั้นเลย นอกจากริชชี่ที่ต้องเล่นเป็นฝาแฝดแล้ว คนที่เล่นด้วยในแต่ละซีน เพราะว่าคนที่เล่นด้วยก็ต้องเล่น 2-3 รอบเหมือนกัน ก็เลยเข้าใจว่าทำงานเหนื่อย เขาก็อยากให้ผลลัพธ์ออกมาดีเป็นปกติอยู่แล้ว ก็ถือว่าละครเรื่องดีเรตติ้งดี กระแสดี เขาก็ดีใจ"

เผยกระแสเสียบแทนเป็นเรื่องปกติของวงการ วันหนึ่งก็ต้องมีคนมาทำแทน ทุกงานก็หยุดไม่ได้
"ที่จริงมีงานมาเราก็โอเคที่จะรับ ไม่ได้อะไรนะ คืออย่างกี้เองก็เคยเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกันว่าเปลี่ยนตัวแล้วมาเป็นเรา ซึ่งวันนึงมันก็ต้องมีคนมาทำแทน มันไม่สามารถหยุดงานไปได้หรอกค่ะ เพราะว่างานมันไม่ได้ทำได้ด้วยบุคคลคนเดียว มันมีหลายฝ่ายถ้าทุกอย่างมันดำเนินไปแล้ว ก็ต้องดำเนินให้จบ ขึ้นเรือลำเดียวกันแล้วมันก็ต้องเอาให้ถึงฝั่ง ให้จบให้ได้ และเรารับหน้าที่มาแล้ว เราก็ต้องทำเต็มที่ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้"

บอกน้องถูกโจมตีไม่ได้หนักอะไร ต้องผ่านไปให้ได้ ชีวิตมีเรื่องให้ร้องไห้มากกว่าเรื่องแค่นี้
"เราก็เห็นนะ แต่กี้ถือว่าเบาๆ ไม่ได้หนักอะไรขนาดนั้น ซึ่งมันก็ต้องผ่านไปให้ได้ ถามว่าเขาร้องไห้ไหม เขาเป็นคนเข้มแข็ง เรื่องแบบนี้เขาไม่ร้องไห้หรอก ชีวิตเรามีเรื่องให้ร้องไห้มากกว่าเรื่องแค่นี้"

"เราก็ได้ดูละครน้องค่ะ ก็ถือว่าพัฒนานะ แต่ก็มีบางอันที่เราดูแล้วก็ อือ ทำไมเล่นแบบนี้ แต่เราเข้าใจเลยว่ายาก คือกี้ก็เคยเล่นฝาแฝดเหมือนกัน แต่บทที่เขาได้รับยากที่สุดที่กี้ยังไม่เคยเล่นยากขนาดนี้ เพราะมันเป็นฝาแฝดที่ต้องมาสลับตัวกันอีกทีนึง มันซับซ้อน เข้าใจเลยว่ามันยาก แต่เขาก็ทำได้ในระดับที่ประสบการณ์เขามี"

"เขาก็ไม่ได้พูดว่าเขากดดันนะ แต่เขาพูดว่าเหนื่อย แล้วมันเป็นบทที่เครียด กลับมาบ้านแล้วเหนื่อย เครียด เพราะว่าตัวละครมันร้องไห้เยอะ ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจหรอก เพราะเราก็เคยผ่านบทหนักมาแล้ว ดรามาก็เคยเล่นมาแล้ว เราก็จะบอกว่ามันอะไรขนาดนั้น มันไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้นหรอก นอนๆ ไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มีพลังไปทำงานเอง แต่พอได้ดูละครเขาถึงรู้เลยว่าเราเป็นคนดูบางทีแทบจะกลั้นหายใจเลย (หัวเราะ) ก็เลยเข้าใจว่ามันก็เป็นบทที่หนักเหมือนกัน"

ยืดอก เพลงวิบวับ "ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์" ทะลุ 40 ล้านวิว เพราะพีอาร์อย่างตัวเอง จะขอค่าคอมมิชชั่น 30 เปอร์เซ็นต์ทุกงาน
"ดีใจแทนเขา เพราะเราเห็นเขาตั้งใจทำทุกอัน ทุกผลงานเขาก็ตั้งใจอยากจะให้มันดีในทุกๆ อันแหละ อันนี้ก็เป็นอีกอันที่เขาตั้งใจ และเขาทำเองค่ะ ไม่ได้มีค่าย ไม่ได้มีพีอาร์ ไม่ได้มีมาร์เก็ตติ้ง ก็จะมีเขา มีดีเจ และมีคนช่วยร้อง พีอาร์มาร์เก็ตติ้งก็คือดิฉันที่คิดว่าเพลงแบบนี้ควรจะมาร์เก็ตติ้งอะไรแบบไหน ก็เป็นคุณภรรยาที่ช่วย (หัวเราะ) มันก็เลยมีแค่ 4-5 คนที่ทำผลงานออกมา เขาก็เลยดีใจ"

"ถามว่ากระแสดีเพราะพีอาร์ไหม เขาก็บอกว่าขอบคุณที่ช่วย เราก็บอกว่าขอเปลี่ยนเป็นคอมมิชชั่น 30% กับทุกงานได้ไหม แต่กี้ได้เป็นเงินเดือนค่ะ (หัวเราะ) คือเป็นบริษัทเรานี่แหละ แต่เขาก็จ่ายเป็นเงินเดือนมาให้เรา เขาก็เลยบอกว่าเขาให้เงินเดือนแล้ว ต้องช่วยพีอาร์มาร์เก็ตติ้งให้เขา"

บอกหากยอดทะลุ 100 ล้านวิวต้องมีรางวัล
"ถามทุกวันเลยค่ะ ถ้าถึง 100 ล้านวิวต้องให้อะไรแล้วนะ และตอนนี้ถ้าสมมติว่ามีงานคอนเสิร์ต งานอีเวนต์เดี๋ยวจะหัก 30% เขาบอกว่าไม่เป็นไร ให้หมดเลย กี้เลยบอกว่าอัดวิดีโอไว้แล้วนะ (หัวเราะ) ฉะนั้นถ้าได้งานไหนจากเพลงนี้ต้องเอามาให้นะ"

"คือสมัยนี้มันค่อนข้างที่จะเดาทิศทางของผู้บริโภคค่อนข้างยาก มันก็ต้องสุ่มๆ ทำหลายๆ แบบค่ะ ทำหลายๆ แนว มันก็ต้องโดนบ้างสักอันแหละน่า ก็บอกเขาไปว่าสู้ๆ เพราะมีบางเพลงที่ได้บ้าง บางเพลงที่ทำไปแล้วบิวต์ไม่ได้ ก็มีเยอะค่ะ ก็มีทั้งดีใจและเสียใจก็เป็นปกติแหละสำหรับทุกคน ทุกธุรกิจมันก็ต้องมีขึ้นและมีลง ก็ฝากด้วยนะคะ (หัวเราะ) ใครถ้ายังไม่ได้เล่นวิบวับ ชาเลจน์ก็ต้องเล่นนะ ไม่งั้นถือว่าอายเขาค่ะ"