"ริชชี่" ตอกกลับแซบ "ไก่ วรายุฑ" ด่า "ม้า อรนภา" พูดเกินจริง แต่ม้าบอกพูดความจริง ฝากบอกทุกคนขอให้เชื่อหนูได้ไหม เมินถูกอีกฝ่ายเหยียดพูดหมดต้องกลับดอย ลั่นบ้านอยู่บนดอยก็ไม่ได้แย่ ขอบคุณทำให้รู้มีคนรักอื้อ ซึ้งน้ำใจผู้ใหญ่ร่ำไห้อยากปกป้อง แต่ช่วยไม่ได้ รับถ่ายทำสะดุดเพราะวิกผม เกิดแผลกดทับ อีกนิดรากผมตาย แต่ยันไม่ได้เรื่องมาก มองเปลี่ยนตัวเป็น "มารีน่า" สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว ขอบคุณทุกคนให้กำลังใจ ขอโทษ "ไก่" หากทำให้รู้สึกไม่ดี
เป็นประเด็นดรามาไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับกรณี "ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา" ไล่ให้ไปถามนักแสดงว่าทำไมเปลี่ยนตัวนางเอกจาก "ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส" เป็น "มารีน่า บาเล็นซิเอก้า" จนเป็นที่มาดรามา "ม้า อรนภา กฤษฎี" เล่าข่าวทำนองว่าได้ยินจากปากไก่เองว่าริชชี่่ไม่มีวินัยในการทำงาน ถ้าไม่มีปัญหาจะเปลี่ยนตัวทำไม ถึงขนาดลูกน้องไก่ยังร้องไห้ ขอลาออกถึง 3 คน จนต่อมา ไก่ต้องออกมาเผยว่าม้าชื่อม้าแต่ปากปีจอ พูดเกินจริง
ล่าสุดถึงคิวริชชี่โต้ทุกข่าวลือที่หลุดออกมา โดยเจ้าตัวเปิดใจหลังให้สัมภาษณ์ผ่านรายการแฉ ที่ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยเผยว่าตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นมาก แต่ก่อนหน้านั้นร้องไห้ไปสองสามวัน เพราะงงว่าเกิดอะไรขึ้น เผยไก่ด่าม้าพูดเกินจริง ส่วนม้ายืนยันว่าพูดความจริง แต่ขอให้ทุกคนเชื่อหนูได้ไหม
"ตอนนี้ดีขึ้นมากค่ะ เพราะด้วยทุกคนเป็นกำลังใจให้เรา ก็รู้สึกขอบคุณทุกคนมากๆ เลย ต่อไปนี้ก็จะเข้มแข็งขึ้นค่ะ ไม่อยากให้ทุกคนต้องเป็นห่วง (ยิ้ม) บั่นทอนกำลังใจมากน้อยแค่ไหนเหรอ 2-3 วันแรกหนูตกใจด้วยค่ะ ไม่คิดว่าหนูจะมาเจออะไรแบบนี้ ก็มีคำถามวนๆ ในหัวตลอด แล้วก็เป็นไมเกรนตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ มันก็เลยเป็นหนักหน่อย ถามว่าถึงขั้นร้องไห้ไหม คือมันก็ตกใจ เพราะมันไม่ใช่เราเลย ก็งงว่ามันยังไง แล้วก็มีสายผู้ใหญ่ที่รักเราโทร.เข้ามา เขาก็ปลอบ เราก็รู้สึกว่ามันเศร้ามาก และผู้ใหญ่บางคนก็ร้องไห้ เขาสงสารเราว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ เขาปกป้องเราไม่ได้ขนาดนั้น หนูก็บอกว่าไม่เป็นไรเลย หนูจะเข้มแข็ง แล้วเราก็เลยยิ่งเศร้าไปอีก เพราะคนที่รักเราเขาเศร้ามาก"
"ถามว่าโดนเปลี่ยนบทกะทันหันจริงหรือเปล่า จริงๆ ด้วยหนูเปิดกล้องมามันมี 5 ตอนค่ะ หลังจากนั้นเขาก็เขียนขึ้นมาเรื่อยๆ จนเหมือนมีตอนที่เปลี่ยนบท หนูก็รู้ตอนนั้น ก็เป็นไปตามนั้นค่ะ แล้วมันเป็นสองตัวเลยด้วยความที่หนูใส่วิกเยอะมาตลอด หนูก็คิดว่าผู้ใหญ่ก็คงอยากช่วยหนูด้วย คือตอนแรกที่รับไม่รู้ว่าจะต้องมีการเปลี่ยนตัวค่ะ แต่จริงๆ หนูว่ามันเป็นพล็อตเรื่องที่ผู้ใหญ่วางไว้อยู่แล้ว หนูอ่านบทแล้วมันก็สมเหตุสมผล เพราะหนูจะเล่นมาถึงตอนที่แฝดทะเลาะกัน มันก็มีที่มา"
เผยไม่เกี่ยวกับการที่ไม่ต่อสัญญาช่อง แต่ก็ยอมรับว่าอาจจะเป็นเพราะวิกทำให้ไม่ได้ไปต่อ
"ตอนที่รับบทครั้งแรกก็ยังไม่เห็นตอนจบค่ะ พี่อี๊ดทางผู้จัดเขาก็บอกอยู่แล้วว่าเรื่องสรุปที่เราอ่านมันอาจจะไม่ตรงนะ เพราะเขาอาจจะปรับเพื่อให้มันน่าสนใจมากขึ้น จะมีเขียนไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องสัญญาช่องเลยค่ะ เพราะหนูถ่ายเรื่องนี้จบมาหลายเดือนมากๆ แล้วกว่าที่เราจะคุยกับช่อง แล้วหนูก็กลับมาอยู่บ้าน คือหนูมีแพลนหลายอย่าง เราก็เลยรู้สึกว่าอยากจะอิสระดีกว่าเพื่อจะจัดการชีวิต และผู้ใหญ่ก็โอเค"
"ถามว่าวิกเป็นสาเหตุทำให้เราต้องเปลี่ยนตัวไหม จริงๆ เลยหนูรู้สึกว่าหนูทำได้ หนูโอเค หนูคิดว่าไม่เป็นไร แต่เหมือนหัวหนูเขาไม่ร่วมมือ หนูก็บอกพี่ๆ ว่าริชไม่เจ็บจริงๆ แต่หัวริชไม่ได้แล้วนะ มันคือการกดทับ เพราะหนูถ่ายทุกซีนเพราะเล่นเป็นแฝด แล้วมันเป็นวิกทั้งสองอัน แล้วหนูถ่ายทุกซีนตั้งแต่ 7 โมงถึง 4 ทุ่มติดกันเป็นเดือนๆ มันเป็นแผลกดทับค่ะ เพราะหนูใช้วิกแบบคาด แล้วมันก็กดทับจนมันบุ๋มลงไป แล้วผมมันก็เริ่มไม่ขึ้น เริ่มร่วงค่ะ แล้วพอพี่ๆ เขารู้ก็ปรับให้หนูเลยให้เป็นตัวผู้หญิงผมยาวจริงๆ หนึ่งตัว ก็ช่วยเซฟอันนึงแล้ว เพราะว่าพอเป็นของผู้ชายมันคาดด้านหน้า มันก็ไม่ได้กดทับแผลเดิม"
"มีบ่นในกองเรื่องอื่นไหมเหรอคะ จริงๆ พี่ๆ เขาก็สอนเรามาบอกว่าเวลาริชเจ็บ ริชต้องบอก เพราะเป็นความผิดหนูด้วย หนูเป็นคนอดทนมาก หนูคิดว่าไม่เป็นไรจริงๆ จนมันเป็นแผล พี่เขาบอกว่าถ้าเจ็บนิดเดียวต้องบอก เพราะไม่งั้นเขาช่วยไม่ได้ เขาเซฟไม่ได้ แต่ไม่ได้มีอารมณ์โกรธหรือหงุดหงิดเลยค่ะ เอาจริงๆ คือหนูไม่รู้ตัวว่าจะเจ็บจนหัวเป็นขนาดนั้น เพราะมันรัดไปนานๆ บางวันมันก็ชาไปแล้ว มันก็เบลอ หนูไม่ได้รู้สึกว่ามันเจ็บ ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกเจ็บเลย มันเหมือนเราไม่ได้โฟกัสตรงนั้น บทหนูมันแรงมากๆ เล่น 2 ตัว อาจจะเป็นที่หนูด้วยที่ปล่อยให้ตัวเองเจ็บ"
บอกไม่รู้ใครพูดว่าตนเรื่องมากในกอง มีแค่เรื่องวิกผมเท่านั้นที่เป็นอุปสรรค
"ที่มีคนมองว่าหนูเรื่องมาก หนูไม่แน่ใจว่าคำนี้มันมาจากไหน เพราะจริงๆ ถ้าในกองหรือเพื่อนๆ เขาก็จะห่วงเรา เราไม่ค่อยพูดอะไรเลย เหมือนบางวันเราทำงานหนักมาก คือบทหนูมันค่อนข้างจะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงผู้ชายตลอด แล้วบางทีเขารีบมาก ช่างหน้าไปกินข้าว เราก็ลืม เพราะบางทีหนูรู้สึกว่าต้องคอนตินิวบทต่อ เราก็ลืมไป ทุกคนก็เป็นห่วงว่าทำไมเราลืมดูแลตัวเองไปเลย"
"อุปสรรคอื่นๆ ในกองไม่มีนะคะ วันที่ผู้ใหญ่ตัดสินใจว่าให้เปลี่ยน 2 คนเลย หนูก็คุยกับผู้ใหญ่แล้ว เขาบอกว่าเขาก็เสียใจ หนูบอกไม่ต้องห่วงเลยนะ อนาคตริชจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ต้องห่วงเลย แต่ผู้ใหญ่ก็บอกว่าริชต้องมีผมต่อไป ก็พักดีกว่า มันน่าจะเกิดปัญหาจากเรื่องวิกผมนี่แหละค่ะ เพราะหนูไปหาหมอเลยค่ะ และหมอบอกว่าถ้ามันยังกดทับซ้ำ คือตอนนั้นรากผมมันหายไปหมดแล้ว แต่มันก็ยังมีอยู่ใต้ผิวหนัง และถ้าหากยังฝืนกดต่อรากผมมันก็จะตายถาวร"
ยอมรับเสียดายโอกาสที่ต้องโดนเปลี่ยนตัวให้กับ "มารีน่า บาเล็นซิเอก้า"
"คือหนูรู้สึกว่าหนูเป็นนักแสดง และหนูก็ดูด้วยบท หนูโฟกัสตรงนั้นมากกว่า เพราะบทก่อนที่จะเปลี่ยนตัวมันยากมาก มันมีทั้งสู้กันเอง ทั้งพันหน้า ดังนั้นหนูจึงกลัวว่าจะต้องทำยังไงถึงจะส่งไปถึงเขา แต่เรื่องของมารีน่ามันไม่ใช่ส่วนของหนูแล้ว ถามว่าทราบมาก่อนไหมว่าจะมีการเปลี่ยนตัว ไม่มีค่ะ แต่ผู้ใหญ่ก็จะบอกอยู่แล้วว่าบทจะเขียนไปเรื่อยๆ และเราก็เล่นตามบททุกอัน จนบทมันออกมาถึงตอนนี้และเราก็โอเค ซึ่งเขาเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่คงมองออกว่าอย่างนี้น่าจะสนุกกว่า"
"ถามว่าเสียดายโอกาสไหม หนูเสียใจที่ตัวเองเจ็บอะไรอย่างนี้ เพราะหนูก็ไม่ได้อยากให้มีอะไรเปลี่ยนไปจากที่เขาวางไว้ ถามว่ามั่นใจว่าสาเหตุเกิดมาจากเราหรือเปล่า คือหนูก็เต็มที่ที่สุดแล้วนะคะ ถ้าหากทุกคนเห็นก็น่าจะทราบว่าหนูตั้งใจมากๆ กับตัวละครสองตัวนี้"
เผยตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้คุยกับ "ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา" เลย แต่ก็ยืนยันว่าไม่โกรธที่โดน "ม้า อรนภา กฤษฎี" บอกให้กลับดอย
"กับพี่ไก่หนูไม่ได้คุยเลยค่ะ เพราะในกองจะมีพี่อี๊ดที่เป็นเหมือนโปรดิวเซอร์ เป็นผู้จัดอีกคนที่เขาช่วยดูแลหนูอยู่ตลอด ถามว่าตอนที่มีข่าวนี้เกิดขึ้นคิดว่าพี่ไก่เขาโกรธหนูหรือเปล่า คือหนูไม่ได้คุยโดยตรงค่ะ ส่วนใหญ่ทางกองเขาก็จะคอนแท็กกับพี่ที่ดูแลหนูอยู่แล้ว"
"ในส่วนของพี่ม้าที่บอกว่าถ้าเขาพูดเรื่องจริงให้หนูกลับดอย (ยิ้ม) บ้านหนูอยู่บนดอยค่ะ ยังไงหนูก็ต้องกลับอยู่แล้วค่ะ ถามว่าแรงไปไหม ก็ไม่เป็นไรค่ะ จริงๆ บ้านหนูน่าอยู่มากนะคะ หนูมีโฮมสเตย์ด้วย ไร่ชาด้วย ถ้ามีโอกาสพี่ๆ ไปเที่ยวบ้านหนูได้นะคะ"
"ถามว่าโกรธไหม หนูก็รักพี่น้องที่บ้านหนูนะคะ หนูไม่ได้รู้สึกว่าแย่เลย บนดอยทุกคนน่ารักมากๆ สำหรับดอยหนูก็ไม่ได้แย่นะคะ หนูไม่โกรธพี่ม้าค่ะ หนูเคยเจอพี่ม้าครั้งเดียวตอนรายการสามแซ่บ แล้วก็ไม่ได้เจอเลย หนูคิดว่าหลายๆ อย่างอาจจะเป็นการเข้าใจผิด พี่ม้าก็ไม่ได้รู้จักหนู หนูรู้สึกว่าไม่เป็นไร ถ้าวันนึงหนูได้เจอพี่ม้า หนูคิดว่าทุกอย่างอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้”
"ที่เจอตอนนั้นพี่ม้าใจดีมากค่ะ ตอนนั้นหนูเด็กมาก เป็นช่วงหนังคู่กรรมค่ะ หนูยังพูดไม่รู้เรื่องเลย ถ้าดูในคลิปตอนนั้นพี่ม้าก็ดูใจดีกับหนูมากๆ เขามีปัญหาส่วนตัวอะไรกับหนู ก็ไม่น่ามีค่ะ ที่พี่ไก่บอกว่าพี่ม้าพูดใส่ไข่ อันนี้หนูก็ไม่รู้ค่ะ หนูคิดว่าเป็นอาชีพพี่เขาค่ะ”
ออกปากขอโทษ "ไก่ วรายุฑ” ที่โดนโจมตี แต่ก็ดีใจที่ทำให้รู้ว่ามีคนรักตนมากแค่ไหน
“หนูคิดว่าทุกคนรักหนูมาก และหนูอาจจะเศร้ามากๆ ทุกคนเลยอยากจะโปรเทคหนู ถ้าทำให้พี่ไก่รู้สึกไม่ดีหนูก็ขอโทษด้วยนะคะ ถามว่ารู้สึกถูกผู้ใหญ่รังแกไหม ไม่เลยค่ะ หนูรู้สึกว่าหนูโอเคนะคะ ที่เรารู้ว่าเราเต็มที่ที่สุดแล้ว เหมือนทุกอย่างและทุกคนก็มองเห็นจริงๆ หนูไม่เคยคิดเลยว่าทุกคนจะรักหนู และเอ็นดู มาช่วยหนู ตอนแรกที่เห็นหนูก็แบบหนูตายมากเลย ใครจะช่วยหนู แต่มันทำให้หนูรู้สึกว่าทุกคนเขาเข้าใจหนู และที่หนูรู้สึกแย่มาตลอด และความเป็นเราแบบนี้ บางคนอาจจะบอกว่าความเป็นเราไม่เหมาะ แต่พอตอนนี้เรารู้สึกดีใจ"
"ที่พี่ไก่บอกว่าพี่ม้าพูดเกินจริง แล้วพี่ม้ายืนยันว่าพูดเรื่องจริง ถามว่าจะเชื่อใครดีเหรอคะ เชื่อหนูได้ไหมคะ (ยิ้ม) หนูตั้งใจมากจริงๆ ค่ะ อย่างที่ทุกคนได้เห็นแล้ว พี่ม้าก็ไม่เป็นไรเลยค่ะ ไม่ต้องขอโทษหนูเลย หนูรู้สึกว่าเพราะพี่ม้าทำให้หนูรู้ว่ามีคนรักหนูมากๆ ถ้าวันหนึ่งหนูได้เจอพี่ม้า หนูอยากบอกว่าพี่ม้าอย่าโกรธหนูนะ (หัวเราะ)"
"คิดว่าโดนสกัดดาวรุ่งไหม ช่องดีกับหนูมากนะคะ ผู้ใหญ่ในช่องก็ดีกับหนูมาก และหนูเพิ่งไปสวัสดีปีใหม่ผู้ใหญ่มา และหนูก็ยังโปรโมตละครอยู่ตลอด หมดส่วนของหนูก็ยังไปโปรโมตอยู่ หนูเจอผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็ยังบอกว่าริชถ้างานที่เราอยากทำมันไม่ได้ขึ้นมา ให้กลับมาบ้านเรานะ ยังมีบทอะไรที่เขาอยากให้หนูเล่น หนูรู้สึกว่าผู้ใหญ่ใจดีกับเรามากๆ ผู้ใหญ่ก็ยังให้โอกาสเรากลับไปเล่นได้ เจอผู้ใหญ่ก็บอกว่าให้คิดดูดีๆ นะ ถ้าทำตรงนั้นไม่ไหวก็กลับมานะ"
บอกต่อไปนี้จะเลิกร้องไห้แล้ว เพราะที่คนรักตนจะเสียใจยิ่งกว่า
"ตอนนี้เลิกร้องไห้แล้วค่ะ คืนนี้กลับไปก็ไม่ร้องไห้แล้ว (ยิ้ม) ที่ร้องครั้งสุดท้ายก็ 1-2 วันแรกค่ะ หนูต้องถ่ายละคร หนูเลยรู้สึกว่าต้องเข้มแข็ง ต้องทำให้ได้ แล้วหนูเห็นพี่ๆ ทุกคนใจดีกับหนูขนาดนี้ หนูก็ขอบคุณมากๆ ถามว่ามีข้อความไหนที่ทำให้สะเทือนจิตใจ อันแรกเลยเราตกใจที่ทุกอย่างไม่ใช่เราเลย มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง มันมีแต่คำว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงพูดแบบนี้ แต่สุดท้ายเรารู้สึกว่าผู้ใหญ่ทุกคนบอกว่าที่เขาโทร.มาเขาเศร้ากว่าเราอีก บางคนร้องไห้บอกว่าไม่รู้จะช่วยเรายังไง อยากให้ทุกคนรู้ว่าเราเป็นยังไง แต่สุดท้ายเหมือนทุกๆ คนก็เข้ามาเซฟเรา บางทีเราอ่านแล้วก็ คือไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะเซฟเรา"
"ถ้ามีโอกาสได้เจอพี่ไก่กับพี่ม้า จริงๆ ตอนนี้สำหรับหนูไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยค่ะ แล้วหนูไม่ได้รู้สึกเลยว่าพี่เขามาทำร้ายขนาดนั้น เพราะหนูไม่ได้เจอเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วหนูคิดว่าถ้าเจอก็คงปกติ อยากบอกอะไรกับพี่ม้าและพี่ไก่ไหม กับพี่ม้าไม่รู้จะบอกอะไร แต่ว่าพี่ไก่เป็นคนที่ให้โอกาสหนู เป็นคนให้หนูมาเล่นเรื่องนี้ หนูรู้สึกว่าถ้าไม่ใช่คาแรคเตอร์นี้ที่มี 2 อัน บางทีคนอาจจะไม่ได้เห็นความแตกต่างของเราขนาดนี้ ก็ดีใจที่ได้เล่นเรื่องนี้ แล้วก็ขอบคุณทุกๆ โอกาส ขอบคุณผู้ใหญ่ช่อง 3 ค่ะ”
บอกเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนแข็งแรงขึ้น และทำการบ้านหนักขึ้นเพื่อรับบทบาทในเรื่องต่อๆ ไป
"ถามว่าจากประสบการณ์วันนี้ทำให้แข็งแรงขึ้นไหม หนูรู้สึกว่าเราก็โตขึ้นอีกนิดหนึ่ง ตรงที่เราต้องเข้มแข็งนะ เพราะเวลาที่ริชเจ็บคนที่รักเราเศร้ากว่าอีก หนูก็บอกหม่าม๊าว่า หนูจะไม่ร้องแล้ว เพราะหม่าม๊าจะบินมาอยู่แล้ว หนูก็บอกว่าหนูโอเค ถามว่าประสบการณ์ตรงนี้ช่วยอะไรในการเล่นละครเรื่องต่อไปบ้าง คือด้วยคาแรคเตอร์นี้หนูรู้สึกว่าหนูต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพราะทุกคนอยากจะเห็นผลงานต่อๆ ไปของเรามากขึ้นแล้ว หนูก็ทำการบ้านหนักมากๆ เพราะกลัวว่าทุกคนที่อยากตามเราเขาจะผิดหวังหรือเปล่า ก็พยายามให้มากขึ้นไปอีกค่ะ"
"เรียนรู้อะไรบ้างจากเหตุการณ์นี้เหรอคะ จริงๆบรรยากาศในกองมันดีหมดเลยค่ะ หนูไม่ได้รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกเลย พอมาเป็นเรื่องข่าวหนูว่ามันเป็นความเข้าใจผิด ที่หนูก็งงเหมือนกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ แต่ผู้ใหญ่ในกองอย่างพี่อ๋อม พี่ตุ๊ก ผู้ใหญ่ทุกคนรักหนูมาก ดีกับหนูมาก ก็เลยไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้มันเป็นอะไร หนูไม่ท้อค่ะ แต่หนูก็จะกลับดอยอยู่แล้วค่ะ (หัวเราะ)"