ปักหมุดปี พ.ศ.2563 นักร้องนักแสดงคุณภาพคับแก้ว ‘อ่ำ อัมรินทร์’ ทำเซอร์ไพรส์แฟนๆ กลับมาลุยงานเพลงเต็มตัวครั้งแรกในรอบ 15 ปี กับ ‘Khaosan Entertainment’ (ข้าวสาร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) และ ‘Khaosan Records’ (ข้าวสาร เรคคอร์ดส) ในโปรเจกต์ ‘ขอบคุณที่กลับมา’ ล่าสุด! ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ที่มีชื่อว่า ‘ไม่มีสวรรค์ตรงนี้’ ให้แฟนๆ ได้ฟังและชมมิวสิควิดีโอกันแล้ววันนี้! ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวและอารมณ์เพลงด้วยตนเอง และเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็น ‘อ่ำ อัมรินทร์’ ที่เคยสร้างความประทับใจมาแล้ว
“เพลงนี้เนื้อหาเป็นการเล่าเรื่องแบบชัดเจนในเรื่องของความรัก ที่ต้องพลัดพรากกันด้วยเหตุ ที่ไตร่ตรองแล้วว่า มันคงไปด้วยกันไม่ได้ ฟังง่ายๆ ตรงๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน ให้ดนตรีเป็นตัวพาไปสู่ความรู้สึกของความรักที่ต้องพลัดพรากมีความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้มองความรักได้อีกแง่มุมหนึ่ง คือ ความรักต้องมีความเข้าใจ เป็นสิ่งที่นำมาทุกอย่าง นำมาซึ่งความเห็นใจ ความห่วงใย และการอภัย เป็นการมองที่มีการพัฒนาขึ้นมาตามวัย ตามสถานการณ์ และวาระต่างๆ’
สำหรับมิวสิควิดีโอเพลงนี้ ‘อ่ำ อัมรินทร์’ เล่าให้ฟังว่า มี ‘อั๋น-ประพัฒน์ คูศิริวานิชการ’ ผู้กำกับที่สร้างสรรค์งานคุณภาพ อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินชั้นแนวหน้าของประเทศมากมาย เป็นผู้กำกับ
“ก่อนถ่ายมิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้นั่งประชุมกันกับทีมงานว่าเรื่องจะเป็นอย่างไร ผมตั้งโจทย์ขึ้นมาว่า ผมถ่ายเอ็มวีมาไม่รู้กี่เพลงแล้ว 9 อัลบั้มกับแกรมมี่ ผมอยากมีเพลงสักเพลงหนึ่งของผม ที่ไม่ต้อง ลิปซิ้งค์ ไม่ต้องมีเส้นร้อง อยากได้เป็นเรื่อง ทางผู้กำกับ คือ พี่อั๋น ก็เห็นว่าผมกลับมารับงานแสดงเยอะมาก มีผลงานการแสดงเยอะ ก็เลยอยากจะทำให้เป็นหนังมิวสิควิดีโอ ที่เรื่องจะพาไปกับเพลง คิดขึ้นมาได้ว่าตัวละครเอกก็เป็นนักแสดงตัวประกอบจนๆ ที่มีคนรักอยู่ด้วยกัน อดมื้อกินมื้อจนถึงสุดท้ายร่างกายไปไม่ไหว คิดว่าคงจะประคองความรักครั้งนี้ไปไม่ได้แน่ๆ จำเป็นต้องเลิกรากับผู้หญิงให้เขาไปคบกับคนที่ดีกว่า”
พร้อมทิ้งท้ายว่า “ในมิวสิควิดีโอมีการใส่รายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ ลงไปอีก ตามพล็อตเรื่องที่ผู้กำกับคิดไว้ ส่วนหน้าที่ของผมก็ไปแสดงอย่างเดียว มีการเตรียมตัวที่ดีมาก ออกกำลังกาย ฟิตร่างกายไปอย่างดี นัด 6 โมงเช้าไปตี 5 กินโจ๊กสามย่าน พร้อมถ่ายตั้งแต่ 7 โมงเช้าเลย ทำงานเต็มที่ตลอดทั้งวัน ถ่ายเสร็จแล้วพี่อั๋นก็ตัดต่อภาพออกมาเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายตามที่ได้คุยกันไว้ โดยเอาความรู้สึกของตัวละครถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงให้ผู้ฟังคล้อยตามกับเรื่องที่ค่อนข้างเอนไปทางดราม่า”
