รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55 - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (23 ม.ค.) "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" เปิดใจสัมภาษณ์ "โยโกะ ทาคาโน่" อดีตเซ็กซี่สตาร์ มาพร้อมคุณแม่ เผยเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา และตอนนี้ที่ความทรงจำฟื้น 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว
ป่วยเป็นอะไร?
"มีสมองอักเสบ จากภูมิคุ้มกันของเราล้น ทำให้ไปเกาะที่ก้านสมองทำให้อักเสบ มีซีสต์ในต่อมใต้สมอง ตอนนี้ก็มีทุกโรคอยู่ครบ"
ชีวิตไม่เหมือนเดิม?
"หน้ามือเป็นหลังมือ พลิกบทบาท หลายสิ่งที่เคยทำก็ไม่ได้ทำ แต่หลายสิ่งที่ไม่ดีก็ดีขึ้น"
ตอนโยโกะเป็นแบบนี้ แม่สังเกตเห็นอะไรในตัวเขาบ้าง?
แม่ : "หลายอย่างค่ะ ลดละเลิก"
โยโกะ : "บุหรี่เมื่อก่อนสูบก็เลิก เหล้าก็ไม่ดื่ม อย่างบุหรี่ก็สัญญากับคุณแม่ก่อนป่วยว่าจะเลิกแล้ว เดี๋ยวก็เลิกเองแหละคุณแม่ ก็เลยได้จังหวะ"
รักษาที่รพ. นึง แต่ตอนหลังแม่ย้ายไปอีกรพ. สาเหตุเพราะอะไร?
แม่ : "เขาให้ยาเกินขนาดจนไตวายเฉียบพลัน แต่ก็รอดมาได้"
ก่อนป่วย ชีวิตเป็นยังไง และสังเกตเห็นอาการตอนไหน?
โยโกะ : "อาการป่วยเหมือนมีมานานแล้ว กล้ามเนื้อเกร็งชักมาตั้งแต่เด็กๆ เราก็เข้าใจว่าไฮเปอร์ ซึ่งมันก็ผิด แต่จริงๆ มันเป็นจากสมองที่เป็นมาตลอด แล้วเหมือนเป็นเหมือนกล้ามเนื้อปลายประสาทอักเสบ แต่อันนั้นหายไปแล้ว แต่ที่พบ ณ ขณะนี้จากไขสันหลังการตรวจเลือด คือการมีภูมิคุ้มกันของเราที่มันล้น"
พอออกมาเขาเสียความทรงจำ แม่ช่วยยังไง?
แม่ : "ก็พยายามเล่าความในอดีต"
โยโกะ : "เขาบอกว่าเคยไปที่นี่จำได้มั้ย บางอย่างก็จำได้ บางอย่างก็หายไปเลย"
เวลาคนความจำเสื่อมจะปวดหัวมาก?
โยโกะ : "ตอนฟื้นความทรงจำ ปวดหัวหนักมาก หนักไม่ได้เล่นๆ เพราะซีสต์ยังอยู่ในสมอง แล้วมีการอักเสบของสมอง ไม่ต้องแค่นึกค่ะ แค่เรารู้ว่าฝนกำลังจะตก แรงกดอากาศทำให้เราปวดหัวจนน้ำตาไหล บางครั้งก็ง่วงนอน แล้วก็หลับไปเลย หลับกลางอากาศค่ะ"
แม่คิดว่าความจำเขาหายไปสักเท่าไหร่?
แม่ : "ณ ตอนนี้กลับมา 70-80 เปอร์เซ็นต์แล้ว"
อีกนานแค่ไหนถึงจะกลับมา?
โยโกะ : "กลับมาก็โอเค ไม่กลับมาก็ช่างมันเถอะค่ะ ช่วยไม่ได้ค่ะ จริงๆ ก็ดีกว่าอัลไซเมอร์นะ อาจเป็นเพราะเราต้องจำบางอย่าง เราต้องมูฟออน เราถึงต้องทิ้งบางอย่าง คนเราเกิดมาเพื่อพบเจอและลาจาก"
ปลงเป็น?
โยโกะ : "ต้องปลงค่ะ ถ้าไปยื้อแล้วไม่กลับมามันทุกข์ ไม่มีประโยชน์"
ช่วงนึงจำไม่ได้แม้กระทั่งแม่?
โยโกะ : "ใช่ค่ะ เราคิดว่าเราจำได้แต่แม่บอกว่าไม่ ฉันทักเธอ เธอจำไม่ได้ เธอไม่รู้เรื่อง"
แม่ : "ช่วงใหม่ๆ ค่ะ ก็ถามว่านี่แม่นะ เขาก็ตอบว่าจำไม่ได้ ตาก็จะลอยเคว้งคว้าง ตอนนั้นก็ไม่เป็นไร คนฟื้นใหม่ๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ"
นานมั้ยกว่าจะจำได้?
แม่ : "ก็หลายวันอยู่ค่ะ"
โยโกะ : "เอาจริงๆ เราไม่คิดว่าเราลืมคุณแม่ แต่คุณแม่บอกว่าเราลอยไปลอยมา พูดไม่รู้เรื่อง เราคิดว่าจำคุณแม่ได้ เพียงแต่ตอนฟื้นเราคิดว่าเรายังเด็กอยู่ ยังเป็นเด็กเลย แล้วก็ไหว้ทุกคนที่ผ่านมา ตอนเด็กๆ จำได้แม่จะถามว่าสวัสดีหรือยังเจอใคร ก็ด้วยอันนั้น สวัสดีทุกคน(หัวเราะ)"
รอดได้ไง?
โยโกะ : "เราไม่รู้ว่าเราไตวาย แต่เรากำลังรักษาตัวและคิดว่าเราคงไม่รอดแล้วใช่มั้ย กำลังจะไปแล้วใช่มั้ย ไม่ทราบมาก่อนว่าคุณแม่ย้ายรพ. มาแล้ว เรากำลังจะหายแล้ว รู้อย่างเดียวว่าเป็นหนักขึ้น กำลังจะไปแล้ว ก็บอกคุณแม่ว่าหนูกำลังจะตายแล้วใช่มั้ย แม่บอกไม่ใช่ กำลังจะหาย ไม่ให้ตายจะตายได้ไง"
เคยหนีออกจากรพ.?
แม่ : "พยายามจะออกจากห้อง แต่ตัวเขาไม่ทราบ"
โยโกะ : "เราไม่ทราบเลย จำไม่ได้"
ตอนย้ายรพ. ไม่ใช่การขอออกดีๆ แต่ต้องหนี?
แม่ : "ไม่เชิงหนี แต่เราขอกลับบ้าน เขาบอกว่าได้ๆ 9 โมงเช้าจะกลับ โยโกะก็บอกว่าปวดหัว เขาก็บอกว่าให้น้ำเกลือ แต่ไม่ใช่น้ำเกลืออย่างเดียว เป็นยานอนหลับ สามทุ่มแล้วยังไม่ตื่น ทำยังไงได้ก็เลยให้ญาติๆ สามสี่คนอุ้มขึ้นรถกลับ จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วนะคะ จะไม่ยอมให้กลับ"
จำได้มั้ยเคยเป็นเซ็กซี่สตาร์?
โยโกะ : "จำได้อยู่ค่ะ มีคนพูดอยู่ จำได้ว่าเป็นนางร้าย (หัวเราะ) ในไอจีพวกซูเปอร์โมเดลเขาจะถ่ายๆ แล้วแท็กมาให้บ้าง แล้วเขาบอกลองเสิร์จตัวเองดูสิ บางอันก็จำได้ บางอันก็จำไม่ได้ มันมีแต่รูปออกแนวไม่เซ็กซี่ก็ชุดว่ายน้ำซะส่วนใหญ่ หรือไม่ก็ชุดชั้นใน"
แม่รู้สึกยังไงกับภาพลักษณ์ลูกสาว?
แม่ : "ไม่ได้รู้สึกอะไรค่ะ มันก็เป็นงานของเขา"
เคยคุยมั้ยว่าให้เพลาๆ หน่อย?
แม่ : "ส่วนมากป่ะป๊าเป็นคนว่า เพราะเป็นคนญี่ปุ่น"
โยโกะ : "เขาไม่ชอบให้ใส่ชุดว่ายน้ำ ทำไมต้องใส่ทุกงาน อะไรแบบนี้"
ตอนนี้เป็นหมอดู?
โยโกะ : "เอาจริงๆ ตอนแรกจำไม่ได้ว่าขนาดไหน ตัวเองเป็นอะไรยังไง แล้วจะไปต่อยังไง เริ่มจากไปดูหมอ ไปดูไพ่ออราเคิล แล้วรู้สึกว่าอ.เขาเปิดมาเป็นหมอดูได้นะ มาเรียนมั้ย รุ่นแรกเลย แล้วเราก็ไปเรียน เริ่มดีขึ้นนะคะ จากพูดติดๆ ขัดๆ 5 นาทีเงียบไป เริ่มโต้ตอบคนได้มากขึ้น เริ่มมีสมาธิดีขึ้น เลยเริ่มรู้สึกว่าเราต้องเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งคุณแม่เคยพาไปหาพระท่านดูไว้ว่าตอนอายุ 40 จะมีเหตุบางประการทำให้ต้องเปลี่ยนอาชีพ เปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไงก็ต้องมาเป็นหมอดู ก็ไปเรียนที่สำนักปรัชญาโต๊ะ-อี้ ไปเรียนกับอ.ภพเชียร เพ็งเพ็ชร์กับอ.แหม่ม นาตาชา อาจารย์บอกว่าแปลกดีเนอะ บอกให้มาตั้งแต่ 17 ปีที่แล้ว ทำไมไม่มา เขาดูดวงเอาไว้ว่าให้ตั้งแต่ 17 ปี ยังไงก็ต้องเป็นหมอดู ทำไมไม่มาเรียน ไปเสียเวลาซะ"
เรียนนานแค่ไหนถึงประกอบอาชีพได้?
โยโกะ : "เรียนเร็วกว่าชาวบ้านเยอะค่ะ อย่างไพ่เรียนไม่นาน อาศัยใช้ทุกวันก็ชำนาญ แต่การพูดของโยติดขัดอยู่บ้าง ซึ่งก็มาจากสมอง ลูกค้าบางท่านก็ไม่ได้สนใจคุณจะพูดชัดไม่ชัด เขาสนใจแค่คุณดูแม่นไม่แม่น ก็เริ่มมีลูกค้ามาดูกับเรา พอเริ่มไปเรียนโหราศาสตร์เรียนได้เร็วมาก คนอื่นใช้เวลาเรียนเป็นปีๆ แต่เรามีโรคสมอง แต่อาจารย์แหม่มบอกเลยว่าเรานี่แปลกนะ แสดงว่ายังไงเขาก็เลือกมาแล้ว เป็นดวงของเรา แต่พอเริ่มดูดวงได้ ยอมรับว่าสมาธิดีมากเพราะคัมภีร์เล่มใหญ่มาก แค่ตั้งลัคนาให้คนต้องใช้สมาธิมากค่ะ ถ้าไม่มีสมาธิหลุดค่ะ ผิดลัคนาก็ต้องมาแก้ มันต้องผิดพลาดให้น้อยที่สุด ทำให้ต้องมีสมาธิ เราก็เริ่มพูดจาได้ดีขึ้น พูดจาต่อเนื่องขึ้น ใช้เวลา 6-7 เดือน แล้วก็ฝึกอยู่ทุกวัน การทำบุญสวดมนต์ก็ต้องไม่ขาด"
ทางด้านศาสนาต้องไปด้วยกัน?
โยโกะ : "ต้องไปด้วยกัน บางทีเราจะมีสมาธิได้เราต้องอาศัยความจำ มีความตั้งมั่น ทางสำนักก็บอกเลยว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การสวดมนต์หรือทำบุญในวัดอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือคนที่ให้ดวงเรามา คือพ่อกับแม่ อันนี้เราจะไม่ขาดเลยในทุกๆ วัน เราจะเถียงกันบ้าง รู้ว่าผิดก็เริ่มไปกราบเท้าขอโทษ จริงๆ สำนึกดีมีอยู่แล้วค่ะ โยโตมากับวัด แม่ปลูกฝังมาดีมาก โยทำบุญมาตั้งแต่เด็กๆ แต่คนไม่รู้"
จำเรื่องความรักได้บ้างมั้ย?
โยโกะ : "เคยแต่งงาน และต้องรอ 3 ปีไปหย่า จำได้ว่าน่าจะถูกทำร้ายค่ะ"
อยากมีแฟนอีก ไม่อยากไปไหนมาไหนคนเดียว?
โยโกะ : "อยากมีอยู่ค่ะ ยังได้อยู่มั้ยคะ จริงๆ สเปกขอเป็นคนที่ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ช่วยกันทำมาหากิน คือรักเราก็ขอให้รักแม่เราด้วย เพราะตอนนี้โยเหลือท่านอยู่คนเดียว สำคัญที่สุดในชีวิตโยแล้ว ไม่เคยชอบคนหล่อเลยค่ะ ตั้งแต่ไหนแต่ไร เมื่อก่อนสเปกเราชอบคนฉลาดมากกว่า"
จำได้มั้ยว่าสามีเก่าเราหล่อมั้ย?
โยโกะ : "ไปเปิดรูปดูแล้วค่ะ ไม่ได้หล่ออะไรมากเลยค่ะ แสดงว่าสเปกยังคงเดิมๆ มั้ยคะ"
ตอนนั้นที่แต่งกัน ความขัดแย้งเริ่มต้นจากอะไร จำได้มั้ย?
โยโกะ : "รู้สึกว่าขัดแย้งกันตั้งแต่ตอนแต่งค่ะ เหมือนงานจะเริ่มอยู่แล้ว คุณแม่บอกว่าแต่งได้ก็เลิกได้ อะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ เหมือนเขาพาใครมาเข้าบ้าน คุณแม่ไม่ปลื้ม"
แม่ : "เขาเป็นไบค่ะ พาผู้ชายเข้าบ้าน มีเพื่อนเขาบอกนี่แหละค่ะ"
ไม่อยากแต่งตั้งแต่ก่อนแต่ง?
โยโกะ : "ไม่หรอกค่ะ เราเฉยๆ ถ้าจะสร้างครอบครัวมีลูกก็อีกเรื่องนึง โยถือว่าโยเห็นมาเยอะ รับได้ เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง แต่ถ้าจะสร้างครอบครัวต้องเคารพซึ่งกันและกัน ขอบเขตต้องมี เขตใครเขตใคร ต้องเคารพในการตัดสินใจและช่วยเหลือกัน ไม่ใช่มาทำร้ายกัน ตรงนี้มากกว่า"
เขาพามากินในบ้านบ้างหรือเปล่า?
โยโกะ : "เพื่อนๆ ว่าอย่างนั้นค่ะ คงมีบ้าง แต่จำไม่ได้ อาจจะเห็นด้วยหรือเปล่า ถึงได้มีเรื่องมีราวกันตั้งแต่ตอนนั้น บ้านก็บ้านเรา"
ตอนเขาเอามากินที่บ้าน มีใครรู้ใครเห็นมั้ย?
แม่ : "ไม่ค่ะ เพราะเราอยู่กันคนละบ้าน แต่วันที่แต่งรู้สึกผู้ชายคู่ของเขาก็ไปยืนร้องไห้อยู่หลังบ้าน (หัวเราะ) แม่ก็ให้โยตัดสินใจเอง"
แม่เล่าแล้วปฏิกิริยาโยเป็นยังไง?
โยโกะ : "ไม่เป็นยังไง ก็ลองดูสักตั้ง เพราะงานมันกำลังจะเริ่ม ก็อยู่กันเป็นปีๆ"
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจว่าไม่ทนแล้ว?
โยโกะ : "แขนหักอยู่สิงคโปร์ ทำให้โยรับงานไม่ได้ เหมือนโดนชกด้วย มีสัญญาหนังทำให้ผิดสัญญากับเขาไป เราก็เหมือนไม่เอาค่าเลี้ยงดูอะไร ขอให้หย่ากันดีๆ จ้างทนายให้จัดการที่สิงคโปร์ เพราะเรายื่นไปสถานทูตที่นั่น เขาเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นเหมือนกัน ก็ยื่นสถานทูตที่โน่น ก็หย่าได้ เพราะไม่งั้นเขาก็เสีย เพราะหน้าที่การงานเขาดีมาก"
กลัวเจอแบบเดิมมั้ย?
โยโกะ : "บอกตรงๆ เก้งกวางไม่กลัวนะคะ โยต้องการเป็นเพื่อนมากกว่า มันไม่ใช่สาวๆ แล้ว เหมือนเราต้องการมีคู่คิด"
เขายอมรับตรงๆ มาเป็นเก้งกวาง แล้วมาขอเป็นคู่ชีวิต กับเขาไม่บอกว่าแอบไปกิน เลือกแบบไหน?
โยโกะ : "บอก จะรับได้ ถ้าเจอทีหลังจะฟ้องร้องค่ะ คุณมีเจตนารมย์ไม่ซื่อตั้งแต่แรก คุณไม่ยอมบอก"
วัยนี้จะกลับมาถ่ายเซ็กซี่ได้มั้ย?
โยโกะ : "ถ้าจ้างก็ถ่ายค่ะ เงินมาก็รับ เวลคัมมากค่ะ ทุกวันนี้เราก็ต้องหาหมออยู่ แต่ถ้าถามว่าเราจะมานั่งทุกข์อยู่กับความเจ็บป่วยมันไม่ใช่ เพราะทุกคนเกิดมามีเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา มันก็เหมือนกับโรคทั่วไปนั่นแแหละ อาจจะมากกว่าคนอื่นเขาหน่อย อาจจะยากกว่าหน่อย แต่ทุกคนมีความเสี่ยงหมด"
ตอนนี้แม้ความจำหายไปบ้าง แต่มีความสุข?
โยโกะ : "ต้องมีความสุขค่ะ ทุกข์บ้างเป็นธรรมดา ถ้าจะนั่งทุกข์อย่างเดียวก็ไม่ไหวนะคะ ยิ่งตอกย้ำตัวเองให้เศร้าหมองไปเรื่อย เรื่องสมองมีผลอยู่แล้วเราจะยิ่งไปซ้ำเติมมันเหรอ มันไม่ใช่ ทำอะไรมีความสุขก็ทำไปเถอะ ทำแล้วไม่เบียดเบียนใครก็ทำไปเถอะ ถ้าอยากสวย ยิ่งป่วยยิ่งต้องสวย"
แม่พอใจกับ 70 เปอร์เซ็นต์?
แม่ : "ถ้าเต็มร้อยก็ดี ตอนนี้ก็ดีค่ะ"
โยโกะ : "อีก 30 แม่ต้องเหนื่อย ดูแลค่ะ"