"เดย์" อยู่ตรงกลางความขัดแย้งระหว่าง "เวย์-ขัน" เผยยังอธิษฐาน ขอทุกอย่างปล่อยไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

หลังหนุ่ม “เวย์ ปริญญา อินทชัย” ประกาศข่าวใหญ่ช็อกวงการ ขอถอนตัวออกจากวงไทเทเนี่ยมที่อยู่มานานถึง 19 ปี เหตุเพราะมีปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ กับหนุ่ม “ขันเงิน เนื้อนวล” ก็ทำให้สมาชิกในวงอีกคนหนึ่ง อย่าง “เดย์ จำรัส ทัศนละวาด” ตกที่นั่งลำบาก กลายเป็นคนกลางระหว่างเพื่อนรักทั้งสองคน วันนี้ได้มีโอกาสเจอหนุ่มเดย์ ที่มาร่วมงานแถลงข่าวการจัดตั้งสถาบัน “สำรับไทย” ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท ซึ่งถือเป็นการออกงานเจอสื่อมวลชนครั้งแรก เจ้าตัวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ถึงทิศทางและสถานการณ์ล่าสุดของวงไทเทเนี่ยม หลังขันเงินได้ออกมาขอโทษกับเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว

“จริงๆ แล้ว ผมเคยตอบไปแล้วนะครับ ในรายการรายการหนึ่ง ก็อยากจะขอตอบสั้นๆ ต้องบอกว่าเรายังมีความเชื่ออยู่นะครับ เรายังมีความหวังอยู่ แล้วเราก็ยังมีความรักอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างสามอันนี้สำคัญมาก แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรัก ผมก็อธิษฐานไว้ในมือของพระเจ้า ว่าขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้าครับ”

“ถามว่าโดยส่วนตัวเรารู้สึกยังไงก็อย่างที่บอกไปแล้วครับ ก็ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า แล้วก็ขอให้มันเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้าดีกว่า”

ทิศทางของวงตอนนี้ก็ยังเดินสายรับงานอยู่
“ก็ยังมีความเชื่อ ความหวังและความรักอยู่ครับ

ยังมีความเชื่อว่า ความหวัง ความรัก ว่าจะกลับมารวมวงกันได้อีกครั้ง
“ความรัก ความหวัง และความรักยิ่งใหญ่ที่สุด ตอบไปแล้ว (หัวเราะ) (ยังใช้ไทเทเนี่ยมอยู่ใช่ไหม?) SDthaitay ครับ”

เรื่องเพลงยังสามารถร้องได้ทุกคนไหม ก็ต้องติดตามในอนาคต
“ก็เดี๋ยวยังไงก็ต้องติดตามในอนาคต ว่าจะเป็นยังไงดีกว่า เพราะทุกสิ่งทุกอย่างก็ตามน้ำพระทัยของพระเจ้าครับ ถามว่าสบายใจขึ้นไหม ก็...(หัวเราะ)"

ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปเอาดีทางด้านการทำอาหารเลยไหม เพราะก็ยังมีช่อง YouTube ของตัวเองอยู่ และเพิ่งปล่อยเพลงใหม่มา
“ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ก็ถ้าใครเคยติดตามผม ก็มี The Bling Kitchen ที่เราเคยทำนะครับ แล้วตอนนี้ก็ทำ YouTube ของตัวเองอยู่ ก็ติดตามด้วยนะครับ SDthaitay เฟซบุ๊กก็ชื่อเดียวกัน เพลงใหม่ของผมก็ออกแล้วนะครับ ฝากติดตามด้วยนะครับ Unconditional Love”

จากทำอาหารเป็นงานอดิเรก อาจจะได้มาทำเป็นงานหลักแทน แต่การทำอาหารกับงานเพลง มันสามารถทำควบคู่ด้วยกันได้ เพราะทุกอย่างคือศิลปะ
“ก็น่าจะเป็นอยู่ครับ ก็น่าจะไปกับพวกพี่ๆ ไปกับมวยไทยแล้วก็สำรับไทยครับ ถามว่าเพลงกับอาหารทำควบคู่กันไปได้ไหม คือมันเป็นศิลปะ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นศิลปะ ก็น่าจะเป็นอะไรที่สนุกสนานแน่นอน เพราะว่าถ้าเรากินข้าวแล้วขาดเพลงมันก็จะเหงาๆนะ ก็เดี๋ยวดูกันครับ ว่าจะเป็นยังไง”

เรื่องการเป็นคนกลางระหว่างเพื่อนๆ รู้สึกยังไงเคยตอบไปแล้ว ตอนก็ยังคงมีความเชื่อความหวังความรักอยู่เหมือนเดิม
“คือเราตอบไปแล้วนะ เรายังมีความเชื่ออยู่ ความหวัง แล้วก็ความรัก ตอนนี้ก็อธิษฐาน”

กับเพื่อนๆได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณขันเงินที่ออกมาขอโทษ
“ก็คุยกันแล้วครับเรียบร้อย (เราโอเคกับคำขอโทษของขันเงินใช่ไหม?) อืม...ก็มันเป็นอะไรที่รู้สึกขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆ ส่วนที่คนมองว่าจะเป็นแค่ตำนาน ก็เดี๋ยวมาตำครกกันก็ได้ครับ (หัวเราะ)"

ไทเทเนี่ยมยังอยู่ในใจ ขอบคุณแฟนๆ ที่ให้กำลังใจ และยังมีความรักให้เสมอ
“อันนั้นยังอยู่ในใจของเรา ก็ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ให้กำลังใจ แล้วก็ยังเขียนมาเสมอ ยังให้กำลังใจพวกเรา ก็ขอบคุณทุกคน เพราะว่าไทเทเนี่ยมก็เกิดมาจากแฟนๆ แล้วก็ทุกคนที่รักเรา เราก็มาจากศูนย์ ตอนนี้ก็ต้องขอบคุณทุกคนด้วย ที่ยังมีความเชื่อ ความหวัง แล้วก็ความรักให้เราครับ”

มีผลกระทบกับงานที่รับไว้ก่อนหน้านี้ไหม
“ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องมูฟออนครับ ต้องมูฟออนครับ ชีวิตคนเรามันหยุดนิ่งไม่ได้ ส่วนเรื่องที่แฟนๆ เรียกร้องให้มีผลงานส่งท้ายก่อนแยกวง อันนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตเนอะ ทุกคนก็จำในสิ่งที่ดีๆ แล้วก็...แล้วแต่พระเจ้าครับ (หัวเราะ)”

จะยังคงทำงานในฐานะสมาชิกวงไทเทเนี่ยมอยู่
“ใช่ ถ้าใครยังเชื่อในไทเทฯ ถ้าใครยังมีความหวังในไทเทฯ แล้วก็ถ้าใครยังมีความรักในไทเทฯ อยู่ ก็อธิษฐานขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า”