xs
xsm
sm
md
lg

เส้นทางพระเอก "ไอซ์ พาริส" ปรึกษา "ต่อ ธนภพ" ดูละครหัวใจศิลา หวังจะดังเปรี้ยงปร้างเหมือนกัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ไอซ์ พาริส" ยอมรับกดดัน ถูกผู้ใหญ่ผลักดันเป็นพระเอก โร่ปรึกษา "ต่อ ธนภพ" ดูละครหัวใจศิลา ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่ให้โอกาสและเห็นศักยภาพ รับแอบคาดหวังจะดังเปรี้ยงปร้าง ไม่รู้สึกว่าได้รับการผลักดันมากกว่าคนอื่นในแก๊ง 9by9 ทุกคนน่ารัก ซัปพอร์ตกัน



ปาดหน้าขึ้นแท่นเป็นพระเอกในละครเรื่อง "หนี้เสน่หา" งานนี้ "ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต" ก็เผยว่ามีความสุขมาก และมีช่วงทำการบ้านอย่างหนัก ศึกษาละคร "หัวใจศิลา" ที่ "ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร" แสดง อยากทำออกมาให้เปรี้ยงปร้างแบบละครเรื่องดังกล่าว

"สนุกดีครับ จนตอนนี้เราก็ถ่ายทำกันมาค่อนข้างนานมากแล้วเหมือนกัน ก็สนุกมากครับ ได้เจอทั้งพี่ๆ ผู้ใหญ่ พี่นุส (นุสบา ปุณณกันต์) พี่ต้อม แล้วด้วยความที่กับพี่ต้อมเราเคยผ่านเลือดข้นคนจางมาแล้ว ก็เลยมีความสนิทกันอยู่แล้ว พอมาเจอกันเรื่องนี้อีก ก็เหมือนสนิทกันขึ้นไปอีก แล้วยังได้เจอพี่ๆ คนอื่นๆ อีกด้วย เราก็เลยสนุกครับ ตอนแรกเราตื่นเต้นมากนะ มันเหมือนเรากดดันตัวเองมั้ง เพราะพี่ๆ เขาเล่นกันเก่งมาก เราจะมาเป็นตัวถ่วงหรือเปล่า แล้วเรื่องมันฟาดฟันกันรุนแรงมาก ถ้าเรามาถ่วงมาช้า มันก็จะไม่เชือดเฉือน แต่พอมาถึงทุกคนชิลมาก ทุกคนไนซ์กับเรามาก บอกเราใจเย็นๆ ไม่ต้องคิดมาก ฟังพี่อย่างเดียว แล้วเราก็เล่นไปด้วยกัน มันเหมือนแบบทำงานเป็นทีมครับ"

"เรามีช่วงเวลาทำการบ้านอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนที่เราเวิร์กช็อปช่วงแรก แล้วพอดีเลยที่ตอนนั้นมีละครเรื่องหนึ่ง ที่ผมก็เอามาเป็นไอดอล คือหัวใจศิลาครับ เราไม่รู้ว่าเราจะไปเริ่มศึกษาตรงไหน ด้วยความที่เราก็ไม่ได้ดูละครเยอะมากเหมือนคนอื่นๆ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะเริ่มศึกษาจากไหน ก็เลยใกล้ตัว พี่ต่อช่วยหน่อย เราก็เลยทั้งปรึกษาพี่ต่อ แล้วก็ดูคุณศิลาไปด้วย พอมาถึงหน้างาน คนที่คอยช่วยเราเยอะที่สุดจนทุกวันนี้ ก็คือผู้กำกับพี่อาร์ตครับ บางทีเราอ่านบท แล้วก็ตีบทมา อาจจะมีมุมมองที่ต่างกัน ในอายุของผม กับอายุของคนที่โตขึ้นกว่านี้หน่อย พี่อาร์ตก็จะคอยตบๆ ให้มันเข้าที่ ว่ามันเป็นแบบนี้นะๆ"

"ถามว่าพี่ต่อให้คำแนะนำยังไง เอาจริงๆ ไม่ได้ให้คำแนะนำเป็นทางเป็นเวย์ครับ มันเป็นศิลปะ แล้วทุกคนก็จะมีทางของตัวเอง เอาหลักๆ พี่ต่อก็ให้กำลังใจ ให้ไปศึกษาว่าเป็นยังไง"

แอบคาดหวัง ผลงานก็เหมือนลูก อยากให้ได้ดี เติบโต
"(หัวเราะ) แอบคาดหวังไหม ผมว่ามันเป็นปกติอยู่แล้วของทุกๆ คน ที่ทำงานตรงนี้ ที่เป็นศิลปิน งานทุกๆ งานที่เราทำ มันใช้เวลาปลุกปั้นนานมาก พอมันได้ออกมา มันเหมือนลูกที่เราคลอดออกมากเอง เราก็อยากจะให้ผลงานเรา หรือลูกเรา ไปได้ดี เติบโตไปในทางที่ดี เราเองก็มี แต่สุดท้ายแล้วที่ผมรู้สึกว่าผมประสบความสำเร็จที่สุด ออกไปแล้วผมไม่นอยด์ คือจบจากเรื่องนี้ไป แล้วผมต้องรู้สึกว่าผมต้องเป็นนักแสดงที่เก่งขึ้น หลังจากนี้จะมีแนวทางของเราเอง ผมชอบนะ ในงานแสดง ผมรู้สึกว่าผมอินกับมัน ก็ชอบครับ"

รู้สึกดีมากๆ ที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส เห็นศักยภาพ
"ก็รู้สึกขอบคุณมากๆ รู้สึกดีมากๆ เอาจริงๆผมก็ยังอายุน้อยมาก สำหรับละครนะ แต่ว่าผู้ใหญ่ก็ยังเห็นว่าผมมีศักยภาพที่จะทำได้ ผมก็รู้สึกดีใจ ที่มีคนเห็นว่าเราทำได้ มีคนเชื่อว่าเราทำได้ เราก็รู้สึกมีกำลังใจเกินไปมากกว่าครึ่งแล้ว ตอนนี้ไม่กดดันครับ เพราะว่ามีพี่ๆ ทุกคน ที่ช่วยแบ่งเบาความกดดันของเราออกไป"

เป้าหมาย อยากเล่นหนัง ทำเพลง เล่นคอนเสิร์ต
"ตอนนี้เพลงกำลังรอปล่อยอยู่ครับ ก็กำลังทำเพลงอยู่ เอาจริงๆ เป้าหมายของผมทั้งหมดเลยนะ คือผมอยากเล่นหนัง อยากมีเพลง อยากเล่นคอนเสิร์ต ตอนนี้เราได้เล่นละครอะไรหมดแล้ว เหลือหนังใหญ่ เหลือเพลงที่กำลังจะรอปล่อย แล้วก็ขึ้นคอนเสิร์ตครับ พี่ๆ รอผมก่อนนะ (หัวเราะ)"

ไม่รู้สึกว่าได้รับการผลักดันมากกว่าคนอื่นในแก๊ง 9by9 ทุกคนน่ารัก ซัปพอร์ตกัน
"เหรอ คือส่วนตัวผม ผมไม่รู้สึกอย่างนั้นเลยนะ ผมรู้สึกว่าทุกๆ คน ก็มีทางเป็นของตัวเอง ทุกคนไม่ได้มีใครมาทับซ้อนกันเลย โปรเจกต์จบ ทุกคนมีทางของตัวเอง อาจจะมีโอกาสที่กลับมารวมกันบ้าง แต่ทุกคนซัปพอร์ตกันแบบน่ารักมากเลย ผมชอบ"

"ไม่ได้รู้สึกว่าผมงานเยอะกว่าคนอื่นนะ ไม่รู้สึกเลยนะ ผมเห็นทุกคนถึงแม้จะเจอกันน้อย แต่ทุกครั้งที่เจอกัน ความรู้สึกมันยังอยู่ ทุกครั้งที่เจอกัน ก็จะคุยกันตลอด ว่าช่วงนี้ทำอะไร ทุกคนยุ่งกันมากครับ"




กำลังโหลดความคิดเห็น