“กองทัพ พีค” เผยทำใจแฟนมีตครั้งแรกที่เกาหลีก็ล่มซะแล้ว แต่บอกได้เจอแฟนคลับบางส่วนที่มาให้กำลังใจ บอกยังไงก็จะคอยเชียร์ ทำตนแอบเกือบร้องไห้ เผยไม่รู้มีการโกงผลโหวต บอกเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ตนไม่รู้เรื่อง บอกตอนนี้ก็กลับมารับงานละครที่ไทยก่อน ส่วนงานที่เกาหลีถ้ามีก็ค่อยบินไป เผย “พ่อปราบ” คอยแนะนำหลายอย่างในวงการ แต่ก็ให้สู้ด้วยตัวเอง และตนก็ต้องปรับตัวอีกเยอะ โดยเฉพาะเรื่องของภาษาที่ต้องฝึกภาษาไทยกันใหม่
เรียกว่าพอผละจากงานที่เกาหลี ก็ได้มาเป็นพระเอกละครไทยเรื่องแรกเลย สำหรับหนุ่ม “กองทัพ พีค” ลูกชายสุดหล่อของนักแสดงรุ่นเก๋า “ปราบ ยุทธพิชัย” ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายสำหรับเจ้าตัวและแฟนคลับที่เกาหลี เพราะงานแฟนมีตติ้งครั้งแรกที่เตรียมจะจัดกลับมีอันต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยหนุ่มพีคเผยว่าตนก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าทำไมถึงเลื่อน แต่ก็ได้เจอแฟนคลับบางส่วนที่มาให้กำลังใจ ทำใจคงยังไม่ถึงเวลาของตน
“ใช่ครับ แฟนมีตติ้งที่เกาหลีโดนเลื่อนออกไป ที่เกาหลีการเลื่อนตารางแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ แต่ว่ามันมีปัญหาอะไรพีคไม่ทราบจริงๆ ไม่ทราบเหมือนกัน ต้องถามผู้จัดการครับในเรื่องรายละเอียด เพราะถ่ายละครเพิ่งเสร็จ แล้วก็บินไปแบบง่วงๆ เขาบอกว่าเลื่อน พีคก็ครับ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรอยู่แล้ว เพราะพีคก็ซ้อมอะไรของพีคเต็มที่สุดแล้ว กำหนดวันใหม่ก็ยังไม่ทราบเหมือนกันครับ เพราะพีคก็มีละครเรื่องนี้ด้วยที่ต้องถ่าย แล้วก็มีอีกหลายอย่างที่พีคต้องทำ ก็เลยไม่ทราบว่ามันจะเมื่อไหร่เหมือนกันครับ เพราะเป็นทีมงานที่โน้นเป็นคนดูแลครับ”
“ถามว่าได้เจอแฟนคลับที่เกาหลีแล้วใช่ไหม คือพีคก็อยากจะเจอทุกคนครับ แต่วันนั้นมันกะทันหันไปนิดหนึ่ง แล้วพีคก็เลยบอกว่าวันพรุ่งนี้นะ เราเปลี่ยนสถานที่ ก็ไปเจอกันได้ คือมันไม่ใช่แฟนมีตหรอกครับ เป็นแค่เหมือนการเจอแฟนคลับที่คอยโหวตให้เราที่โน้น เขาก็ตกใจเหมือนกันครับ เขาก็มีถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตัวพีคเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน ถามว่าแฟนมีตติ้งครั้งแรกเจอแบบนี้เสียความรู้สึกไหม จริงๆ พีคก็ทำเต็มที่แล้วครับ ก็ไม่เสียความรู้สึกเท่าไหร่ เพราะว่าจริงๆ มันอาจจะยังไม่ถึงเวลาของพีคก็ได้ แต่ว่าครั้งนี้ที่ได้ซ้อมมา พีคก็ได้เจออะไรใหม่ๆ ในห้องซ้อม ก็รู้สึกดีใจแล้ว”
“คิดว่าเร็วไปไหมที่จะมีแฟนมีตติ้งเหรอ ก็สำหรับเด็กคนหนึ่งพีคว่ามันก็ไวนะครับ พีคก็อยากเจอแฟนคลับที่โหวตให้เราตลอดเลยที่ผ่านมา (โหวตในรายการ PRODUCE X 101 ของเกาหลี) แต่แค่ได้มีตติ้งเล็กๆ พีคก็โอเคแล้ว วันนั้นก็ได้เจอแฟนๆ ส่วนหนึ่ง เขาก็บอกว่าพีคสู้ๆ นะ ในอนาคตไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะคอยซัพพอร์ตตลอด พีคก็รู้สึกดีใจ จะร้องไห้ด้วยวันนั้น คือมันรู้สึกทัชมากเลย”
เผยตอนนี้มีละครที่ไทยอย่างเดียว แต่ก็ยังมีงานเพลงที่กำลังอัดเสียงกันอยู่ที่เกาหลีด้วย
“ยังต้องฝึกอีกครับ ช่วงไหนว่างก็ต้องเข้าห้องซ้อมตลอด ถามว่ากลัวจะเสียเครดิตไหม เพราะเป็นแฟนมีตติ้งครั้งแรกด้วย พีคว่าพีคยังอายุ 18 เอง พีคเพิ่งเริ่มต้นเอง มันยังใช้คำนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะในอนาคตยังมีโอกาสที่พีคจะได้รับอีก กังวลไหมเหรอ เอาจริงๆ คือพีคทำตรงนี้ให้ดีที่สุดแล้วครับ การที่ได้มาเล่นละครเรื่องนี้ การที่ได้ไปอยู่ตรงนั้น ก็รู้สึกว่าพีคทำเต็มที่เท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้แล้ว ก็ไม่รู้สึกว่าพีคจะต้องกดดันครับ”
“ตอนนี้ก็มีถ่ายละครที่ไทยอย่างเดียวครับ ก็มีงานเพลงที่เกาหลีด้วย แต่ว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการอัดเสียงครับ ก็อยากจะทำเพลงให้คนที่คอยติดตาม ก็จะเป็นเพลง 2 ภาษาครับ ภาษาอังกฤษ แล้วก็ภาษาเกาหลีครับ จะปล่อยตอนไหนยังไง เดี๋ยวพีคจะบอกอีกทีครับ ก็ถ้ามีงานที่เกาหลีก็ไปๆ กลับๆ ครับ แต่ถ้าโฟกัสหลักเลยก็คือละครเรื่องนี้ครับ ส่วนงานที่เกาหลีมี
ผู้จัดการพีคเป็นคนดูแลให้ครับ”
ปัดไม่รู้ รายการ PRODUCE X 101 ของเกาหลีมีการโกงคะแนนโหวต บอกเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่ต้องจัดการกันเอง
“เรื่องนั้นเอาจริงๆ ตอนนั้นที่เราอยู่ในนั้น พีคไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะว่าซ้อม คือตอนนั้นมันไม่มีโอกาสได้คิดถึงอะไรเลยครับ 20 ชั่วโมงต่อวัน ก็แทบจะพยายามคลานขึ้นเตียงแล้วครับ แต่ว่าตอนนี้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคน ว่าขอให้ทุกคนผ่านไปได้ด้วยดีครับ ถามว่าเราเสียความรู้สึกไหม พีคว่าก็ไม่เสียความรู้สึกนะครับ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่พีคยังเด็กอยู่ แล้วเอาจริงๆ พีคก็ยังเข้าไปถึงตรงนั้นไม่ได้ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่เขาต้องเคลียร์กัน ซึ่งพีคในฐานะเด็กที่เป็นเทรนนีคนหนึ่ง แค่นี้พีคก็รู้สึกว่าได้อะไรเยอะแล้ว”
“ไม่ติดใจเลยครับ เพราะว่าได้เจอแฟนคลับที่คอยโหวตให้พีค พีคก็รู้สึกไม่ติดใจแล้ว ก็ไม่กระทบนะครับ เอาจริงๆ พีคกลับมาก็ทำงานที่ไทยอย่างเดียวเลย คือถ่ายละครเรื่องนี้แหละครับ ต้องมีการเวิร์คช็อป แล้วก็ต้องไปเรียนภาษาไทยมาใหม่ ก็ใช้เวลานานพอสมควร คุณพ่อก็บอกว่าทำให้เต็มที่ที่สุด เขาเคยบอกตลอดว่าตัวใครตัวมันนะลูก (หัวเราะ) เพราะว่าเขาอยากให้เราไปหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง แล้วก็ได้โตในรูปแบบของตัวเองครับ คุณพ่อก็แนะนำว่าให้สวัสดีทุกคนนะลูก แล้วอะไรเล็กๆ น้อยๆ ของใช้ส่วนตัวพกไปเถอะ”
บอกกลับมารับงานละครไทยต้องปรับตัวเยอะ โดยเฉพาะเรื่องภาษาไทย
“ปรับตัวก็เยอะเหมือนกันครับ อย่างแรกก็ภาษานี่แหละครับ กลับมาจากเกาหลีก็เพี้ยนไปพอสมควร ก็ต้องไปอ่านออกเสียงใหม่ พูดให้ช้าลง หายใจให้เยอะขึ้น แล้วเรื่องนี้ได้เล่นคู่กับพี่เบลล่าด้วย ถามว่าเกร็งไหม รู้สึกดีใจมากกว่าครับ ดีใจที่ได้เจอเขา ได้เล่นคู่เขา เราก็รู้สึกว่าเราต้องทำให้เต็มที่สุด เราทำได้ ก็เป็นแรงผลักดันให้เราสู้ต่อไป ในฐานะเด็กคนหนึ่งก็ทำให้เต็มที่ครับ”
