"บอล วิทวัส" ยอมรับแอบปรี๊ดเว็บไซต์เขียนข่าวบิดเบือน โวยไม่เคยพูดตั้งแต่แต่งงานมีลูกเมีย ชีวิตตกต่ำลงเรื่อยๆ ลั่นมีแต่ดีขึ้น เป็นผู้เป็นคนมากขึ้น กังวลเหตุถูกคนคอมเมนต์ด่า เผยอเมซิ่งพัฒนาการคูณ 2 แบบก้าวกระโดดของลูกทั้งสองคน
ทำเอา "บอล วิทวัส สิงห์ลำพอง" ถึงขั้นปรี๊ดเลยทีเดียว หลังถูกเว็บไซต์หนึ่งเขียนข่าวทำนองว่าเจ้าตัวตกอับ ขาลง ตั้งแต่แต่งงานมีลูกเมีย ชีวิตตกต่ำลงเรื่อยๆ โดยในงานสัปดาห์เลโก้แห่งชาติ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ‘บริคไลฟ์ ฟอร์ซ’ (BRICKLIVE FORCE) ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม หนุ่มบอลก็เผยถึงเรื่องนี้ว่าเป็นข่าวที่ถูกบิดเบือน ยืนยันไม่เคยพูดแบบนั้น และกังวลว่าคนอ่านจะเข้าใจผิด
"คือเรื่องนั้นมันน่าจะเป็นความเข้าใจผิดทางข้อมูลมากกว่านะครับ บังเอิญว่าผมไปเห็นในเฟซบุ๊กที่หนึ่ง แล้วก็ได้เลื่อนลงมาอ่านในคอมเมนต์ข้างล่าง คือด้วยความที่เนื้อหามันบิดเบือนไปนิดหนึ่ง คือเท่าที่จำได้ เขาบอกว่า ตั้งแต่แต่งงานมีลูก มีภรรยา ชีวิตก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ แล้วมันเป็นคำที่ลักษณะเหมือนเขาเขียนว่าผมเป็นคนพูดเอง แล้วพอเลื่อนลงมาดูคอมเมนต์ข้างล่าง คนเข้าใจผิดเพียบเลยครับ"
"เราก็เลยมีความรู้สึกว่า อยากจะให้เขาลองดูเนื้อหาข่าวดีๆ เพราะว่าผมไม่เคยพูด ว่าตั้งแต่แต่งงานมาแล้วมีลูก ชีวิตตกต่ำลง ไม่เคยเลยครับ มีแต่ชีวิตจะดีขึ้น แล้วผมก็มีความเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นซะมากกว่า ก็เลยตัดสินใจโพสต์ลงไป ว่าอยากให้พี่ที่เขียนข่าว คือต้องบอกก่อน ว่าเวลามีคนนึกถึงเรา เขียนข่าวเรา เรามีความดีใจทุกครั้ง แล้วก็ภูมิใจทุกครั้งที่มีคนนึกถึง แต่ว่าอยากจะให้ดูเรื่องของเนื้อหาข่าวนิดหนึ่ง ว่าบางทีมันอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้"
"ถามว่าเราปรี๊ดไหม ไม่เชิงปรี๊ดหรอก คือแน่นอนคนเรามันผิดพลาดกันได้นะครับ เป็นเหมือนการที่อยากจะฝากเตือนมากกว่า ว่ารบกวนให้ปรับแก้เนื้อหานิดหนึ่ง กลัวคนจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ครับ คือเอาจริงๆ ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ผมก็ไม่รู้จะติดต่อยังไง แต่ว่าล่าสุดลงไปแล้ว แล้วก็เชื่อว่าเขาน่าจะรับทราบแล้ว แล้วผมก็ลบโพสต์ไปแล้ว ทางเขาก็ไม่ได้ติดต่อมา ล่าสุดเข้าไปดูรู้สึกว่าก็จะยังไม่ได้แก้ไขอะไร แต่เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ปล่อยไปครับ ไม่เป็นไร"
กังวลเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ได้พูดออกมา หวั่นถูกมองในทางไม่ดี
“คุณภรรยาเป็นคนไปเจอ แล้วเขาก็รู้สึกแบบ ทำไมต้องเขียนข่าวแบบนี้ แล้วพอเขาเลื่อนไปดูคอมเมนต์ มีแต่คนบอกว่า ทำไมเป็นผู้ชายแบบนี้ ทำไมพูดแบบนี้ เขาก็ค่อนข้างกังวล ว่าคนจะเข้าใจผิด พอคนเข้าใจผิด มันก็มีผลกับทางลูก ทางคุณพ่อคุณแม่เรา คนอาจจะเอาไปพูดนินทา หรือมองเราไม่ดี"
"เอาจริงๆ ผมไม่อยากจะพูดว่าส่งผลกระทบกับครอบครัว เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง คืออย่างนี้ครับ ถ้าใครที่อยู่ใกล้ๆ ตัวผม อยู่รอบตัวผมเขาจะรู้ แล้วก็เข้าใจว่าความจริงมันเป็นยังไง แล้วผมเป็นคนยังไง เพราะผมไม่กังวล ว่ามันจะส่งผลกระทบกับครอบครัว แต่มันก็มีความกังวลนิดๆ ว่าคนจะเข้าใจผิด แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นวงกว้างมากครับ"
อเมซิ่งคูณ 2 พัฒนาการลูกก้าวกระโดด
"โตมาก รู้เรื่องแล้ว ตอนสักประมาณ 3 ขวบว่าอเมซิ่งแล้ว เรารู้สึกแบบทำไมลูกรู้เยอะขนาดนี้ ทำไมลูกมีพัฒนาการขนาดนี้ ทุกวันนี้คือคูณสองไปเลยครับ บางทีเขาทำอะไรบางอย่าง โดยที่เราไม่ทันได้รู้ได้สอนเขาเลย แต่เขาทำได้แล้ว อย่างเมื่อสักครู่นี้ พาเขาไปทานข้าว บังเอิญว่าเป็นร้านที่ต้องใช้ตะเกียบ ปรากฎว่าโนเบลใช้ตะเกียบได้ โดยที่ผมไม่เคยสอนเลย อันนี้แปลกใจมากเลยครับ (กี่ขวบแล้ว?) ตอนนี้โนเบลจะ 6 ขวบแล้วครับ นิวตัน 4 ขวบ"
"เรื่องความห่วง โอ้โห มันตอบยากมากเลย คือจากที่เคยห่วง 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้มันกลายเป็น 200 เปอร์เซ็นต์แล้ว เขาเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วก็ค่อยๆ จะติดเพื่อนแล้ว คือมันเป็นอะไรที่เรารับมือไม่ค่อยจะทัน ในทุกๆ วันเลย"
แสบคนละแบบอย่างกัน
"เขาจะมีความแสบคนละแบบ อย่างโนเบลพี่คนโต เขาจะไม่ค่อยมีความดื้อเท่าไหร่ แต่ว่าจะมีอะไรบางอย่างบางมุม อย่างเช่นรักสวยรักงาม หนูอยากได้แบบนี้ ก็ต้องแบบนี้ ส่วนคนเล็กนิวตัน ผมบอกเลยว่าอินดี้มาก เขามีโลกส่วนตัวสูง แล้วก็ไม่ค่อยยุ่งกับใคร เวลาเพื่อนมาหาที่บ้านก็ไม่เล่น ไม่ออกมาหา"
ไม่สอน แต่ถ้าอยากให้ลูกเป็นแบบไหน จะทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
"คือจะไม่ค่อยสอนนะครับ จะใช้วิธีแบบ ถ้าเราอยากให้ลูกเป็นแบบไหน ผมจะทำตัวเองให้เป็นแบบอย่าง เพราะว่าผมรู้สึกว่า บางทีพูดให้ตายลูกไม่ฟัง แต่ว่าลูกเขาจะมองในสิ่งที่เราทำ แล้วก็เอาไปใช้กับตัวเอง เราก็เลยใช้ตัวเองเป็นแบบอย่าง คืออยากให้ลูกเป็นแบบไหน ก็ทำตัวเองให้เป็นแบบนั้นครับ"