xs
xsm
sm
md
lg

“ประธานบอย” แจ้งความ “ช่อง 8-ทนายตั้ม” ดูหมิ่นศาลฎีกา ใส่ร้ายเรียก 5 แสนล้มคดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ประธานบอย หอบหลักฐานขึ้นโรงพักเมืองกาญจน์ แจ้งความช่อง 8 พร้อมพวกรวม 7 คน พ่วงทนายตั้ม ทนายหวย 30 ล้านอลเวง ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และฐานดูหมิ่นศาลฎีกา
                
วันนี้ (16 ม.ค.) นายธนาพิพัฒน์ ชัยธนาธนธัต หรือที่รู้จักกันในนาม “ประธานบอย” อายุ 37 ปี ชาว ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เข้าพบ ร.ต.อ.พงศธร พัชรเลขกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อจำเลย ที่ 1-7 ประกอบด้วย 1.สื่อโทรทัศน์ช่อง 8  2.นายองค์อาจ  สิงห์ลำพอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ช่อง 8 3.นายเกรียงไกร สิริกาญจนาวัฒน์ ผอ.ฝ่ายข่าว ช่อง 8 4.น.ส.บุญญิตา งามศัพพศิลป์ 5.น.ส.วิยดา พีรรัฐกุล ผู้ดำเนินรายการคุยข่าวเช้าช่อง 8 6.นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และ 7.นายวารษา กล่อมใสยาศน์

ในความผิดฐานดูหมิ่นศาลฎีกา ตามประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญามาตรา 2(8) และมอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินกับผู้ต้องหาที่ 1 ถึงที่ 7 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมกับมอบหลักฐานเป็นแผ่นซีดีบันทึกเทปรายการโทรทัศน์ช่อง 8 ชื่อรายการคุ้ยข่าวเช้าช่อง 8 ให้แก่พนักงานสอบสวนด้วย
     
ทั้งนี้ นายธนาพิพัฒน์ ชัยธนาธนธัต หรือประธานบอย กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 10-11 ม.ค.61 ต่อเนื่องกัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ได้ร่วมกันเผยแพร่ข่าวโดยมีผู้ต้องหาที่ 4 และที่ 5 เป็นผู้ประกาศข่าว แพร่หลายไปทั่วประเทศว่า ผู้ต้องหาที่ 6 และที่ 7 ได้ไปศาลฎีกา เข้ายื่นหนังสือ ร้องเรียนต่อท่านประธานศาลฎีกา หลังจากถูก นายธนาพิพัฒน์ ชัยธนาธนธัต หรือ “ประธานบอย” (หมายถึงข้าฯ) อ้างว่า ประธานศาลฎีกาได้นัดพูดคุยเพื่อช่วยในคดีอาญาของตนเองเกี่ยวกับการฟ้องร้องผู้รับเหมาก่อสร้างผิดแบบในจังหวัดชุมพร

คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นฎีกา และมีการเรียกเงินประมาณ 500,000 บาท ในการช่วยเหลือดังกล่าว โดยผู้ต้องหาที่ 1 ถึงที่ 7 ได้ยืนยันข้อเท็จจริง และแพร่ภาพคำให้สัมภาษณ์ของผู้ต้องหาที่ 6 และที่ 7 และไปประกาศแก่ประชาชนทั่วประเทศว่าข้าฯ มีการ พาดพิงตำแหน่งประธานศาลฎีกา เพื่อวิ่งเต้นช่วยเหลือทางคดีอาญาได้นั้นเป็นความเท็จ
 
และข้อความที่ออกอากาศเป็นการประจานกระบวนการยุติธรรมในศาลฎีกาเพื่อลดคุณค่าทางสังคม ดูหมิ่นเหยียดหยามศาลฎีกาว่าสามารถวิ่งเต้นคดีในศาลฎีกา ได้จูงใจให้ประชาชนหลงเชื่อว่าศาลฎีกามีการเรียกรับสินบนอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายลักษณะเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กัน ร่วมกันนำพยานหลักฐานเท็จเพื่อยื่นต่อศาลฎีกา อาจทำให้กระบวนการยุติธรรมเสื่อมเสียจึงเป็นการดูหมิ่นศาล
 
นอกจากนี้ การแพร่ข่าวดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นการใส่ความข้าต่อท่านประธานศาลฎีกา และประชาชนที่ชม และดูรายการทั่วประเทศ เป็นเหตุให้ข้าต้องเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทั้งนี้การเผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จของผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกนั้นทำให้สังคมประณามข้าฯ เป็นคนขี้โกง คนเลว เป็นคนไม่ดี ทั้งที่ข้าฯ ได้ช่วยสังคมจนได้รับการชมเชย ได้รับโล่เกียรติคุณจากหน่วยงานภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลดีของสังคมมาก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น